posttoday

โบรกชู 4 หุ้นกลาง-เล็กวันนี้มีเสน่ห์!!

11 พฤษภาคม 2566

ไส้ในเงินเฟ้อสหรัฐฯ เปิดช่องว่างให้ตลาดได้หายใจ บล.หยวนต้ามองหุ้นไทยวันนี้(11 พ.ค.66)แกว่งกรอบ 1,565-1,580 จุด เชียร์ 4 หุ้นน่าสะสม-เก็งกำไร

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯเคลื่อนไหวในทิศทางบวก DJIA(-0.09%), S&P500 (+0.45%) และ NASDAQ (+1.04%) โดยมีการรายงานเงินเฟ้อเดือน เม.ย.66 เป็นตัวขับเคลื่อนตลาดซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้ (1) เงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.4% MoM, +4.9% YoYใกล้เคียงคาด ทำระดับต่ำกว่า 5% ครั้งแรกในรอบ 2 ปี
หนุนจากราคาพลังงานที่ชะลอตัว -5.1% YoY และเงินเฟ้อจากภาคที่อยู่อาศัย (Shelter) ที่อัตราการเติบโตชะลอลงเหลือ +0.4% MoM น้อยที่สุดในรอบมากกว่า 1ปี (2) เงินเฟ้อพื้นฐานรายงาน +0.4% MoM, +5.5% YoYใกล้เคียงคาดและลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่5.6% และ(3) ดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐานไม่รวมภาคที่อยู่อาศัย (Super Core CPI) ซึ่งเป็นดัชนีที่ Fed ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการพิจารณาโนบายการเงิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง +0.1% MoM, +5.1% YoY ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ ก.ค. 65 

การรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯวานนี้ส่งผลให้ Fed Fund Futures ปรับคาดการณ์ความน่าจะเป็นในการกลับข้างการดำเนินนโยบายการเงิน โดยการคงดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ครั้งถัดไป จากเดิม 81% เป็น 97% นำไปสู่การปรับฐานของ US2YY และ US2YY เป็น 3.92% และ 3.44% ตามลำดับ และ US Dollar Index ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเป็น 101.42 จุด

ดังนั้นคาด SET Index วันนี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways to Sideways-up ในกรอบ 1,565-1,580 จุด หลังความกังวลเรื่องการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯคลี่คลาย

การปรับตัวลดลงของ Bond Yield คาดเป็น Sentiment เชิงบวกและแนะนำเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่เน้นการเติบโตสูง รวมถึงกลุ่ม Finance ซึ่งเหมาะกับการเก็งกำไรควบคู่ในธีม Election Play เช่นกัน

ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนแนะนำ สะสม ICHI ราคาปิด 12 บาท แนวต้านทางเทคนิค 13 บาท รายงานกำไรปกติ 1Q66 ที่ 222 ลบ. เติบโต +114% YoY และ +15% QoQ ทำระดับสูงสุดรอบ 27 ไตรมาส และดีกว่าคาดของเราราว 10% กำไร 1Q66 คิดเป็น 30% ของคาดการณ์ทั้งปี โดยแนวโน้มกำไร 2Q66 คาดเติบโต YoY และ QoQ ทำระดับสูงสุดรายไตรมาสของปี 2566 จากปัจจัยหนุนทางฤดูกาลของหน้าร้อน ประเมินเบืองต้นคาดกำไรที่ 230-250 ลบ. เราคาดกำไรปี 2566 ที่ 740 ลบ. เติบโต +15% YoY ทำระดับสูงสุดรอบ 8ปี ซื้อขายที่ PER2566 ระดับ 21.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ราว 23-25 เท่า

เก็งกำไร ROJNA ราคาปิด 6.35 บาท แนวต้านทางเทคนิค 6.80 บาท ราคาหุ้น Laggard หุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม โดย YTD ปรับตัวขึ้น +1% เทียบกับ WHA +14% และ AMATA +10% และ Valuation ยังถูกทีระดับ PBV เพียง 0.7 เท่า vs AMATA 1.4 เท่า และ WHA 2.2เท่า คาดกำไรปกติ 1Q66 มีแนวโน้มเติบโต YoY จากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP ที่ได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นค่า Ft ขณะที่ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมคาดเติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยหนุนของการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตมายังไทยเพื่อลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์

เก็งกำไร PTG ราคาปิด 13.80 บาท แนวต้านทางเทคนิค 14.50 บาท เราประเมินว่างบ 1Q66 ของ OR ที่ออกมาดีกว่าคาด จะส่งผลให้เกิดแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน เช่น PTG เราคาดกำไรปกติ 1Q66 ที่268 ลบ. เติบโต 61% YoYและพลิกกลับจากขาดทุน QoQ จากปริมาณขายน้ำมันรวมใน 1Q66 ที่เร่งตัวขึ้น ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1,475 ล้านลิตร อีกทั้งแนวโน้มกำไร 2Q66 คาดเติบโต QoQ จากผลบวกตามฤดูกาลเพราะเข้าสู่ฤดูเพาะปลูกของภาคการเกษตร เราคาดกำไรปี 2566 เติบโต +62% YoY เป็น 1.5 พันลบ. ซื้อขายที่ PER2566 ระดับ 14.9 เท่า 

เก็งกำไร TTB ราคาปิด 1.52 บาท แนวต้านทางเทคนิค 1.57 บาท แนวรับ 1.50 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 1.45 บาท กลุ่มธนาคารได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งรอบใหม่ คาดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจข้องรัฐบาลใหม่จะช่วยหนุนความต้องการใช้สินเชื่อให้เร่งตัวขึ้น

ข่าวล่าสุด

SCB WEALTH กวาด 6 รางวัลระดับโลก สะท้อนความเป็นเลิศในทุกมิติการบริหารความมั่งคั่ง