posttoday

หุ้นไทยปิดตลาด 1,554.65 จุด ลดลง 10.35 จุด

16 มีนาคม 2566

“ตลาดหุ้นไทย” ปิดตลาดอยู่ที่ 1,554.65 จุด ลดลง 10.35 จุด หรือ 0.66% “บล. ยูโอบี” ชี้ หุ้นไทยรับแรงกดดันจากปัญหาแบงก์สหรัฐและยุโรป และฟันด์โฟลว์ไหลไปสินทรัพย์ปลอดภัย หรือหุ้นที่ให้ผลตอบแทนคล้ายพันธบัตร ชี้พรุ่งนี้อาจแกว่งตัวนิ่งๆ ด้วยแนวรับ 1,545 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน ซึ่งดัชนีทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,538.10 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,554.65 จุด ลดลง 10.35 จุด หรือ 0.66% มูลค่าซื้อขาย 69,633.94 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. PTTEP มูลค่า 3,309.41 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 136 บาท ลดลง 8.50 บาท หรือ 5.88%

2. KBANK มูลค่า 3,178.50 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 129.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.52%

3. SCB มูลค่า 100 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 10.10 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.99%

4. BANPU มูลค่า 2,179.34 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 10.20 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ 3.77%

5. AOT มูลค่า 2,118.43 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 70.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.35% 

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเนื่องจาก 3 ปัจจัยหลักคือ ความกังวลต่อเนื่องจากการล่มสลายของ Silicon Vallley Bank หรือ SVB การย่อตัวลงของหุ้นธนาคาร Credit Suisse  และฟันด์โฟลว์ไหลออกจากตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยไปอยู่ในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างพันธบัตร หรือหน้าหุ้นที่ให้ผลตอบแทนคล้ายพันธบัตร เช่นกลุ่มสื่อสารมวลชน ค้าปลีก และโรงไฟฟ้าเป็นต้น 

โดยวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจแกว่งตัวนิ่งๆ ด้วยแนวรับ 1,545 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด ด้วยปัจจัยต่อเนื่องจากวันนี้ และวันพรุ่งนี้ควรลงทุนในหน้าหุ้นที่พื้นฐานดี P/E ไม่แพง มีปันผล และ Down Side อยู่ในวงจำกัด ได้แก่ BJC MAJOR TU และ MAKRO เป็นต้น