posttoday

นักวิเคราะห์ แนะ “ALL” ชำระหนี้หุ้นกู้ด่วน

06 มกราคม 2566

ราคาหุ้น “ALL” ร่วงหนักอยู่ที่ระดับ 0.23 บาทต่อหุ้น ลดลง 11.54% ฟาก นักวิเคราะห์ แนะ “ออลล์ อินสไปร์” เร่งขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ หาเงินใช้หนี้ชะรำหุ้นกู้

ตามติดกันต่อกับกรณีของ “ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์” หลังจากที่เป็นข่าวคราวเรื่องราวใหญ่โตเกี่ยวกับการเบี้ยวชำระหนี้หุ้นกู้ ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นในวันนี้ (6 ม.ค.) ปรับตัวลงมาอยู่ระดับ 0.23 บาทต่อหุ้นลดลง 11.54%  เป็นที่แน่นอนว่าย่อมเป็นปัญหาที่เป็นลูกโซ่ต่อเนื่องในระยะยาวอย่างแน่นอนหากปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาโดยด่วน

 

และจากความคิดเห็นของนักวิเคราะห์อิสระ ได้กล่าวไว้ว่า สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ในมุมมองของนักวิเคราะห์ เห็นสมควรให้ ออลล์ อินสไปร์ รีบและเร่งในการหาเงินมาใช้หนี้ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขายโครงการที่มีการพัฒนาแล้วเสร็จให้หมด หรือจะเป็นการขายทรัพย์สิน เพื่อนำมาจ่ายหนี้หุ้นกู้ เนื่องจากมาตรการการออกหุ้นกู้มันใช้ไม่ได้แล้ว ดังนั้นจึงแนะนำและเห็นสมควรให้ “ออลล์ อินสไปร์” รีบหาเงินมาในส่วนของปัญหาที่เกิดขึ้นเสียก่อน

 

ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าสถานการณ์โควิด -19 ซึ่งช่วงเวลาที่ตึงเครียด และมีปัญหามากที่สุดเริ่มตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 ต่อเนื่องมาถึงช่วงกลางปี 2565 ได้สร้างปัญหาในเรื่องของกระแสเงินสดต่อเนื่องให้กับหลายธุรกิจที่ต้องการกำลังซื้อจากคนไทย รวมไปถึงกำลังซื้อจากต่างชาติด้วย เพราะ ณ เวลานั้นไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์จะยาวนานแค่ไหน และจะมีผลกระทบใดตามมาอีกหรือไม่ อีกทั้งหลายธุรกิจตอนนั้น เลือกที่จะปิดกิจการทั้งแบบชั่วคราว และถาวร เพื่อเลี่ยงรายจ่ายที่เกิดขึ้น 

 

โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น่าจะเป็น 1 ในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบชัดเจนที่สุด เพราะการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมนั้นใช้เงินจำนวนมาก และเป็นการสร้างภาระหนี้สินก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่คนทั่วไปจะสร้างได้ตามฐานะทางการเงินของตนเอง เมื่อความมั่นใจในสถานการณ์ทางการเงินของตนเองในระยะยาวไม่มีก็คงไม่มีใครอยากสร้างหนี้สินก้อนใหญ่ ยกเว้นคนที่ต้องการซื้อจริงๆ หรือคนที่ไม่มีผลกระทบจากเรื่องเหล่านี้

 

ซึ่งการดำเนินธุรกิจต่างๆ สิ่งที่จำเป็นที่สุด คือ เรื่องของกระแสเงินสด เพราะเมื่อใดก็ตามที่กระแสเงินสดขาดมือ หรือไม่สามารถหามาหมุนเวียนได้ก็อาจจะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ และถึงขั้นต้องปิดกิจการได้ถ้าเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 รุนแรงและยังไม่เห็นทิศทางของปัญหานี้ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายจึงเร่งปิดการขาย และโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่สร้างเสร็จแล้วให้ได้มากที่สุด 

 

แม้ว่าจะเป็นการปิดการขายด้วยราคาขายที่ลดลงมากก็ตาม เพื่อสร้างกระแสเงินสดในบริษัท ช่วงปี 2563 จึงเป็นช่วงเวลาที่เห็นผู้ประกอบการออกแคมเปญต่างๆ มาต่อเนื่องเพื่อสร้างความน่าสนใจและทยอยปิดโครงการกันหลายโครงการในช่วงเวลานั้น นอกจากนี้ช่วงของสถานการณ์โควิด-19 สร้างปัญหาให้กับผู้ประกอบการหลายราย โดยเฉพาะในรายเล็ก รายกลางที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ เพราะเงินทุนหมุนเวียนหรือกระแสเงินสดอาจจะขาดมือ แต่หาช่องทางในการระดมทุนได้ยาก 

 

แต่การออกหุ้นกู้สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์อาจจะเป็นทางออกที่น่าสนใจ และได้เงินรวดเร็วมาก แต่ต้องไม่ลืมว่าอัตราดอกเบี้ยอาจจะสูง และเมื่อผิดนัดชำระหนี้สินก็สร้างความเสียหายได้แบบทันที เนื่องจากผู้เสียหายมีหลายคน ไม่เหมือนกับการขอสินเชื่อธนาคาร แต่ธนาคารในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ก็เข้มงวดไม่ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการง่ายๆ เงื่อนไขในการพิจารณามากขึ้น วงเงินที่ให้สินเชื่อก็ลดลง และมีข้อบังคับต่างๆ มากขึ้น การออกหุ้นกู้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุด 

 

แต่ก็เห็นผู้ประกอบการหลายรายที่มีปัญหาเพราะหุ้นกู้ เนื่องจากไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ย หรือจ่ายเงินเมื่อครบกำหนดได้ ดังที่เป็นข่าวทั้งในต่างประเทศ และประเทศไทย สาเหตุหลัก คือ การขาดกระแสเงินสด หรือไม่มีรายได้เข้าบริษัทในช่วงที่ผ่านมา และถ้าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แล้วมีปัญหาในเรื่องของกระแสเงินสดก็แสดงว่าไม่สามารถออกหุ้นกู้หรือระดมทุนเพิ่มเติมได้อีกแล้ว

 

อย่างไรก็ตามแม้ที่ผ่านมา “ออลล์ อินสไปร์” จะมีแผนในการแตก 3 ไลน์ธุรกิจใหม่ออกมา ซึ่งประกอบด้วย 1.ธุรกิจบริหารสินทรัพย์  พร้อมจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงการควบรวมกิจการ และพร้อมเข้าประมูลกับสถาบันการเงิน 2.ธุรกิจบริหารหนี้สิน เป็นการเข้าซื้อหนี้เสียมาบริหาร ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และ 3.ธุรกิจคาร์บอนเครดิต โดยการร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งจะดำเนินธุรกิจ One Stop Service ซื้อ ขาย พัฒนา คาร์บอนเครดิต ผ่านบล็อกเชน

 

และด้วยแผนธุรกิจที่ได้วางแผนเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว ไม่ว่าจะแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อลดการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หวังสร้างรายได้เพิ่ม หรือแม้กระทั่งเพิ่มเงินทุนสร้างสภาพคล่อง หรือแม้จะเป็นการจะเริ่มต้นอะไรใหม่ก็ตาม “ออลล์ อินสไปร์ ต้องจัดการกับปัญหา “หนี้” ที่เกิด ณ ปัจจุบัน อย่างเร่งด่วนเสียก่อน