posttoday

อุตสาหกรรมไทยใกล้สิ้นลม! ส.อ.ท. แฉ 3 กับดักรั้งศักยภาพชาติ-ติดหล่มกฎหมายแสนฉบับ

29 ตุลาคม 2568

ประธานสภาอุตสาหกรรมฯ เตือนแรง! ไทยติดกับดักโครงสร้าง-กฎหมายล้าสมัย แรงงานแก่ เกาะตลาดเดิม สวนทางเวียดนามเร่งปรับโครงสร้าง ดึง FDI ทะยานแซงไทยทุกมิติ

KEY

POINTS

  • ประธานสภาอุตสาหกรรมฯ เตือนแรง!
  • ไทยติดกับดักโครงสร้าง-กฎหมายล้าสมัย แรงงานแก่ เกาะตลาดเดิม
  • สวนทางเวียดนามเร่งปรับโครงสร้าง ดึง FDI ทะยานแซงไทยทุกมิติ 

เสียงปรบมือในห้องสัมมนาคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ในหัวข้อ "ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานโลกต่ออาเซียนและประเทศไทย" ค่อยๆแผ่วลง

เมื่อ "เกรียงไกร เธียรนุกุล" ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวอย่างตรงไปตรงมา คำพูดของเขาไม่ได้เพียงสะท้อน "ความจริง" แต่เป็น "สัญญาณเตือนภัย" ครั้งใหญ่ต่ออนาคตเศรษฐกิจไทย

"เรากำลังอยู่ในจุดที่อุตสาหกรรมไทยอาจสิ้นลมหายใจ หากไม่เร่งปรับตัวใน 3 ด้านสำคัญ"

จากประเทศที่เคยเป็น "เสือตัวที่ 5 แห่งเอเชีย" วันนี้กลับกลายเป็นชาติที่ GDP โตไม่ถึง 2% ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่าง "เวียดนาม" วิ่งแซงหน้าด้วยความเร็วเหนือคาด

ไทยยังติดหล่มกับกฎหมายล้าสมัย, แรงงานแก่ และ โมเดลเดิม ที่ไม่ตอบโจทย์โลกใหม่ โลกที่เปลี่ยนด้วยเทคโนโลยี ความยั่งยืน และเกมภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่มีวันรอใคร

ความท้าทายของไทยไม่ได้มาเล่นๆ คุณเกรียงไกร แบ่งปัญหาเป็น 3 กับดักร้ายแรงที่ฉุดรั้งศักยภาพชาติ

1. แรงกระเพื่อมจากภูมิรัฐศาสตร์และการแยกขั้ว (Geopolitics & Decoupling) สงครามการค้าทั่วโลกและกระแส Decoupling ทำให้ซัพพลายเชนไทยปั่นป่วน การพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ สูงถึง 18.2% กลายเป็นดาบสองคม เมื่อถูกเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) แม้ไทยโดน 19% และเวียดนาม 20% แต่ผลกระทบต่อ GDP ไทยหนักกว่า เพราะเราปรับตัวไม่ทัน

2. กับดักเชิงโครงสร้าง ไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ โดยมีประชากรผู้สูงอายุถึง 14 ล้านคน คิดเป็น 21% ของประชากร 67 ล้านคน ปัจจุบัน อัตราการตายสูงกว่าอัตราการเกิด ปัญหาโครงสร้างนี้เปลี่ยนจาก "จุดแข็ง" แรงงานวัยทำงานจำนวนมาก ในอดีต มาเป็น "จุดอ่อน" ทำให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก

แรงงานลด รายได้ต่อหัวโตช้า และติดกับดักรายได้ปานกลาง (Middle-Income Trap) แม้รายได้ต่อหัวจะเพิ่มขึ้นจาก 5,000 เหรียญ เป็น 7,500 เหรียญ แต่หากจะก้าวสู่ประเทศรายได้สูง เป้าหมาย 13,000 เหรียญต่อหัวต่อปี ด้วยโมเดลธุรกิจและการเติบโต GDP ที่ไม่ถึง 2% ทำให้การก้าวสู่รายได้สูงอาจต้องใช้เวลาอีก 50 ปี จึงจะพ้นจากกับดักนี้ได้ เนื่องจากอุตสาหกรรมไทยส่วนใหญ่เป็น OEM ซึ่งสร้างมูลค่าในประเทศต่ำ

3. กฎหมายล้าสมัยและระบบที่สร้างปัญหา ประเทศไทยเป็น "มหาอำนาจทางกฎหมายของโลก" ด้วยจำนวนกฎหมายที่มีกว่าแสนฉบับ ซึ่งถูกมองว่าเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและ FDI 

คำถามคือ ประเทศไทยอยากเป็นประเทศ "สีขาว หรือ สีเทา"

เพราะระบบที่เป็นอยู่ทำให้เกิดความเคยชินกับการทุจริตที่ผู้คน "เตรียมควักตังค์ไว้ก่อน" หากเรายอมรับอุตสาหกรรมที่เป็น "เทาและดำ" ก็จะดึงดูดได้แต่บริษัทประเภทนั้น

โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก จะไม่ย้ายฐานมา หากระบบนิเวศ (Ecosystem) ของเรายังคงเต็มไปด้วยปัญหา

แต่ข่าวดีก็คือ ภาคเอกชนไม่ยอมนิ่ง!

ส.อ.ท. วางแผนแม่บท 4 เสาหลักเพื่อพลิกฟื้นอุตสาหกรรมไทย ตั้งแต่การปรับตัวสู่ Digital & AI Transformation, การผลักดัน Innovation นวัตกรรม, ขยาย Global Access ไปจนถึงการสร้างความยั่งยืน Go Green โดยจับมือกับรัฐและต่างชาติ เพื่อเปลี่ยนประเทศไทยจาก "กับดัก" เป็น "โอกาส" ท่ามกลางโลกที่แข่งขันอย่างดุเดือด

บทเรียนจากเวียดนาม & แผนปฏิบัติ ส.อ.ท.

เวียดนามกลายเป็นกรณีศึกษาให้ไทยเรียนรู้ พวกเขาไม่ต้องการเป็น "ไทยรุ่นสอง" ที่โตช้า ติดกับดักรายได้ปานกลาง และเสียเวลาไปกับระบบราชการหนาแน่น

รัฐบาลเวียดนามลดกระทรวง ลดคน ปรับงบประมาณเพื่อการพัฒนาเพิ่มขึ้น และลงทุนกับนวัตกรรม-เทคโนโลยีทันที ทำให้ประเทศก้าวสู่เศรษฐกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้จริง

สำหรับไทย ส.อ.ท. วางแผนเชิงรุก 4 เสาหลัก เพื่อตอบสนองความท้าทายนี้

  1. Digital & AI Transformation ดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ ยกระดับบริษัทไทยกว่า 6,000 แห่งด้วย AI และดิจิทัล เพื่อเพิ่มรายได้ต่อคน มากกว่า 3 - 4 เท่า
  2. Innovation นวัตกรรม สนับสนุน Startup และ SME ผ่านกองทุน Innovation One และ One Innovation Council (OIC) ร่วมกับต่างชาติในกลุ่ม Biotech และเทคโนโลยีใหม่
  3. Global Access การขยายตลาดโลก ลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ ลงเหลือ 10–12% จากปัจจุบันอยู่ที่ 18.2% พร้อมสร้างผู้ส่งออกหน้าใหม่ผ่านโครงการ SME Go Global
  4. Go Green ความยั่งยืน ปรับตัวสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ รับกติกาโลกด้านความยั่งยืน และเตรียมพร้อมสู่เป้าหมาย Net Zero 2050

"การแข่งขันในปัจจุบันต้องเร็วและเฉียบขาด ภาครัฐและเอกชนต้องจับมือกันเพื่อปรับโครงสร้าง กฎหมาย และระบบนิเวศให้เป็น ‘สีขาว’ เพื่อดึงดูด FDI และบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกเข้าประเทศ"

ประเทศไทยกำลังอยู่ที่ทางแยกสำคัญ จะเลือกเดินตามวิถีเดิมที่เสี่ยงต่อการถูกแซง หรือก้าวสู่อนาคตใหม่ด้วยนวัตกรรม ความยั่งยืน และความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน.

ข่าวล่าสุด

'วราวุธ' ยื่นใบลาออกหัวหน้าชาติไทยพัฒนา เตรียมซบ ภูมิใจไทย