เปิดอินไซด์การเงินคนไทย Gen Y เริ่มหาคอร์สเรียนจัดการหนี้เพิ่มขึ้น
ฟินนิกซ์ เผยอินไซด์ ทักษะด้านการเงินคนไทย ปัญหาหนี้ ไม่ใช่ “ไม่มีเงิน” อย่างเดียว แต่ "ไม่รู้ ไม่เข้าใจ" การบริหารจัดการ ขณะที่กลุ่ม “แซนวิช เจเนอเรชัน” หรือ Gen Y แบกหนัก เริ่มหาคอร์สเรียน "การจัดการหนี้" มากขึ้น
แอปฟินนิกซ์ (FINNIX) แพลตฟอร์มสินเชื่อนาโนพลังเอไอหัวใจมนุษย์ จากบริษัท มันนิกซ์ จำกัด(MONIX) เปิดอินไซด์จากโครงการห้องเรียนออนไลน์ “เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์” ว่า
แม้ภาพรวมทักษะทางการเงินของคนไทยจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่จากผลสำรวจทักษะทางการเงินของไทย ปี 2565 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ ยังชี้ให้เห็นความเปราะบางด้านการเงินที่น่ากังวล คนไทยยังมีทัศนคติและพฤติกรรมในด้านการเงินที่น่าเป็นห่วง โดยกว่า 70% ไม่ได้วางแผนการเงินล่วงหน้า และมีเพียง 22.4% เท่านั้นที่มีเงินออมเพียงพอสำหรับกรณีฉุกเฉิน 6 เดือนขึ้นไป
ขณะที่ข้อมูลหนี้สินภาคครัวเรือนจากเครดิตบูโร ณ ไตรมาสสาม ปี 2566 ชี้ว่า คน Gen Y (25-43 ปี) เป็นกลุ่มที่มีหนี้ครัวเรือนและหนี้เสียในสัดส่วนที่สูงมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ
ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนว่าปัญหาทางการเงินของคนไทยไม่ได้เกิดจาก “ไม่มีเงิน” เพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจาก “ไม่รู้ ไม่เข้าใจ” ในการบริหารจัดการเงิน ซึ่งจะกลายเป็นต้นตอของภาระหนี้ในระยะยาวอีกด้วย
ปัญหานี้เองที่ทำให้ความรู้ทางการเงิน กลายเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตทางการเงินของคนไทย และเป็นเหตุผลที่ฟินนิกซ์ ขับเคลื่อนโครงการ “เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์” ตั้งแต่เดือนเมษายนในปีที่ผ่านมา ด้วยเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างทักษะและพฤติกรรมทางการเงินที่สอดรับกับความเป็นจริงของสังคมไทย ผ่าน 7 คอร์สออนไลน์
ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนการเงิน การบริหารหนี้ การจัดการรายรับ-รายจ่าย-การออม-การลงทุน ไปจนถึงการเลือกใช้สินเชื่ออย่างเหมาะสม โดยเนื้อหาถูกออกแบบให้เข้าใจง่าย ใช้งานได้จริง พร้อมแบบทดสอบท้ายบทเรียน ผู้สนใจสามารถเรียนฟรีได้ทุกที่ทุกเวลา
ผลลัพธ์จากการเรียนรู้จากทั้ง 7 คอร์สเรียนของฟินนิกซ์ ช่วยให้ผู้เรียนได้รับทักษะการเงินใน 4 ด้าน ประกอบด้วย
- การบริหารหนี้
- การจัดการเงินส่วนบุคคล
- การตัดสินใจทางการเงิน
- ความรู้ด้านผลิตภัณฑ์การเงิน
โดยพบพฤติกรรมการเรียนรู้และความสนใจของผู้เรียน ดังนี้ คอร์ส "เคล็ดลับวางแผนจ่ายหนี้ให้ชีวิตมีสุข" มียอดลงทะเบียนเรียนผ่านเว็บไซต์ฟินนิกซ์สูงสุด สะท้อนว่า “การจัดการหนี้” ยังคงเป็นปัญหาสำคัญในชีวิตการเงินของคนไทย สอดคล้องกับการที่ประเทศไทยมีหนี้ครัวเรือนและหนี้เสียอยู่ในระดับสูงมาก
ขณะเดียวกัน คอร์ส "4 ทักษะการเงินที่ทุกคนต้องมี" ครองแชมป์ยอดเรียนสูงสุดบน YouTube ตอกย้ำว่า คนไทยเริ่มให้ความสำคัญกับทักษะการเงินพื้นฐานที่สามารถปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
หนึ่งพฤติกรรมที่เด่นชัดคือ ผู้เรียนกว่า 80% เลือกเรียนผ่านมือถือ สะท้อนการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมการเรียนรู้สู่ยุคการเสพคอนเทนต์บนมือถือ (Mobile-First) ที่เน้นความคล่องตัว ซึ่งกลายเป็นวิถีหลักในการเข้าถึงความรู้ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังพบว่ามีอัตราการเรียนจบบนช่องทางโซเซียลมีเดีย เช่น YouTube อยู่ในระดับสูง แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการเรียนเนื้อหาที่ตรงประเด็น กระชับ และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
จากอินไซต์ของโครงการยังระบุว่า ผู้เรียนเป็นเพศชาย 60% และเพศหญิง 40% โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนวัยทำงาน แบ่งเป็น Gen Y 68% และ Gen X 31%
ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของเครดิตบูโรที่ชี้ว่า Gen Y คือ กลุ่ม “แซนวิช เจเนอเรชัน” หรือกลุ่มเดอะแบกของครอบครัว ที่ต้องดูแลทั้งพ่อแม่และลูก จึงมีภาระหนี้สูง
ข้อมูลนี้ยังสะท้อนว่า กลุ่มคนวัยทำงานกำลังเร่งเสริมความรู้การเงินเพื่อจัดการภาระหนี้และเตรียมความพร้อมทางการเงิน ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นยังมีสัดส่วนน้อย ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงโอกาสในการขยายการรับรู้เรื่องการเงินในคนรุ่นใหม่ต่อไป
นางสาวถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มันนิกซ์ จำกัด (MONIX) กล่าวว่า ตั้งใจให้ฟินนิกซ์เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยคนไทยสร้างรากฐานทางการเงินที่มั่นคง เชื่อว่าการส่งเสริมทักษะการเงินในทุกมิติของโครงการ ‘เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์’ ตั้งแต่การจัดการหนี้ไปจนถึงการวางแผนการเงินระยะยาวจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นคง และทำให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ ‘มีสุข’ ซึ่งปัจจุบันฟินนิกซ์ช่วยให้คนไทยมีทักษะการเงินที่ดีขึ้นแล้วกว่า 62,000 ราย สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้กว่า 6 เท่า
อีกทั้งอินไซต์ที่ได้จากโครงการนี้ยังช่วยสะท้อนความต้องการเรียนรู้ทักษะการเงินของคนไทย และจะเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาคอร์สและเนื้อหาใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้เรียนต่อไป
ในยุคที่เศรษฐกิจท้าทาย การรู้เท่าทันการเงินไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ฟินนิกซ์ยังย้ำเป้าหมายในการพัฒนาเนื้อหาให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้ชมและผลักดันสังคมไทยให้ก้าวสู่ความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว พร้อมเปิดโอกาสและขยายการเข้าถึงองค์ความรู้ทางการเงินผ่านช่องทางต่างๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป


