posttoday

ผู้ว่า ธปท. ชี้ แจกเงินดิจิทัลไม่ถึง 5.6 แสนล้าน กด จีดีพี ปีหน้าต่ำกว่า 4.4%

28 ตุลาคม 2566

“เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าแบงก์ชาติ ระบุ หากนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ใช้วงเงินไม่ถึง 5.6 แสนล้านบาท ยอมรับว่า จีดีพี ไทยในปี 67 จะปรับลดลงต่ำกว่า 4.4% จากที่คาดไว้

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ เปิดเผยว่าการประเมินการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีหน้า (2567) ของแบงก์ชาติที่ จีดีพี จะขยายตัวได้ 4.4% เป็นการรวมผลของ นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ใช้วงเงิน 5.6 แสนล้านบาท เศรษฐกิจไทยถึงจะเติบโตตามที่คาดการณ์ไว้

แต่หากการดำเนินนโยบายดังกล่าวไม่ได้ใช้วงเงินที่ระดับ 5.6 แสนล้านบาท ก็ต้องยอมรับว่า จีดีพี ไทยในปี 2567 จะปรับลดลงต่ำกว่า 4.4% แต่จะปรับเป็นเท่าไรยังประเมินไม่ได้ เพราะนโยบายแจกเงินดิจิทัลยังไม่มีความชัดเจน

เรื่องการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จนถึงตอนนี้การปรับเกณฑ์ การแจกเงินดิจิทัล ยังไม่มีความชัดเจน

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัว 2.7-2.8% คาดว่าอาจบวกลบอยู่ระดับใกล้เคียง แต่ตัวเลขไตรมาส 3 ที่ออกมาบางตัวชะลอกว่าที่มองไว้ แต่มีบางส่วนที่ฟื้นตัวได้ อย่าง ภาคการบริโภค ที่ขยายตัวได้ทั้ง 3 ไตรมาสอย่างแข็งแกร่งและดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมดูอ่อนแรงกว่าที่มองไว้

สำหรับปัจจัยความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกยังมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะความเสี่ยงใหม่ๆ รวมไปถึงปัญหาในตะวันออกกลาง ที่ทำให้ประเมินได้ยาก เพราะผลข้างเคียงมีเยอะ  ทำให้คาดการณ์ได้ยากในระยะข้างหน้า ทำให้เป็นที่มาของเวทีโลกในการปรับนโยบายที่เน้นเสถียรภาพเป็นหลัก 

ในส่วนของประเทศไทยนั้น ในแง่เสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมดี แต่ชะล่าใจไม่ได้ เพราะมีหนี้ครัวเรือน ที่ยังดูน่าเป็นห่วงเพราะอยู่ที่ระดับ 90.7% แม้จะลงจากระดับ 94% แล้วก็ตาม รวมทั้งสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ที่อยู่ที่ 61.7% ถือว่าเป็นระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา และสูงกว่าช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 จึงเป็น 2 เรื่องที่ต้องระวังและติดตามใกล้ชิด