posttoday

LHFG คงเป้าสินเชื่อปี 66 โต 8-10% ดันพอร์ตสินเชื่อสิ้นปีนี้แตะ 2.36 แสนล้าน

26 กรกฎาคม 2566

LHFG คงเป้าสินเชื่อปี 66 เติบโต 8-10% เน้นกลุ่ม Higher Yield ดันพอร์ตสินเชื่อคงค้างสิ้นปีนี้แตะ 2.36 แสนล้านบาท ล่าสุดเปิดบริการ Digital Lending ปักธงสิ้นปีนี้ยอดปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลพุ่ง 1 พันล้านบาท ห่วงการเมืองไม่นิ่ง กระทบต่างชาติชะลอลงทุนไปก่อน รอดูความชัดเจน

นายฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG เปิดเผยว่า ทิศทางอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทย ในช่วงครึ่งหลังปี 2566 คาดจะกลับมาเติบโตดีขึ้น ตามการใช้จ่าย การบริโภค และบริการที่มีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้คงคาดการณ์จีดีพีไทยในปี 2566 เติบโต 3.6-3.7% ดีกว่าปี 2565 ที่เติบโต 2.6% 
 
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทย ยังคงมีความเสี่ยงเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง หนี้ครัวเรือน ปัญหาเงินเฟ้อ แม้จะปรับลดลงมามากแล้วก็ตาม และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ รวมไปถึงปรากฏการณ์เอลนีโญ  

อย่างไรก็ตาม LHFG ยังคงแผนยุทธศาสตร์ในปี 2566 เช่นเดิม โดยทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลัง มุ่งเติบโตในพอร์ตสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นหรือกลุ่ม Higher Yield เน้นการขยายฐานลูกค้า การเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม ตามการเติบโตของสินเชื่อ การใช้ Ecosystem ให้มีประโยชน์มากที่สุดในการ Cross-sell และมุ่งเน้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้วยการขับเคลื่อน Digital   

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน Sustainable Banking การดำเนินธุรกิจอย่างมีสำนึก และมีส่วนช่วยรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และ หลักธรรมาภิบาลที่ดี การออกผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนสิ่งแวดล้อม และการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจ

ส่วนสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันที่ยังคงมีความไม่ชัดเจนนั้น มองว่าจะส่งผลต่อการชะลอการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ แต่ไม่ได้มีการยกเลิกการลงทุนแต่อย่างใด ยังคงมีการเข้ามาลงทุนในไทยตามเดิม เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอดูความชัดเจนของสถานการณ์การเมือง

นางสาวชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank กล่าวว่า แผนธุรกิจปี 2566 ธนาคารยังคงตั้งเป้าหมายสินเชื่อเติบโต 8-10% คิดเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่ประมาณ 20,000 ล้านบาท จากในช่วงครึ่งปีแรก สินเชื่อเติบโต 4.8% คิดเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่ 6,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่อคงค้าง 221,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 236,000 ล้านบาท

“สินเชื่อในปีนี้ที่ตั้งเป้าเติบโต 8-10% จากปีก่อน ไม่คิดว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถอดถอยทั่วโลก และฟื้นตัวช้า ดังนั้นสินเชื่อในครึ่งปีแรกเติบโต 4.8% ก็ถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ และพยายามรักษาการเติบโตให้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย” นางสาวชมภูนุช กล่าว    

ขณะเดียวกัน ในเดือน ก.ค.นี้ ธนาคารมีการให้บริการ Digital Lending หรือการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านช่องทางดิจิทัล โดยตั้งเป้าหมายจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 1,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2566 จากปัจจุบันมีการปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทางปกติไปแล้ว 100 ล้านบาท

นายวรวุฒน์ โตเจริญธนาผล หัวหน้ากลุ่มงานการเงินและบัญชี LHFG กล่าวว่า รายได้ค่าธรรมเนียมในปี 2566 คาดว่าจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10-15% หลังจากในช่วงครึ่งปีแรก -14.8% เนื่องจากตลาด Fund และ Securities ไม่ค่อยดี อย่างไรก็ตาม จะมี FX sales และ Trade Finance Fee เข้ามาชดเชยได้บ้าง 

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LH Fund กล่าวว่า กลยุทธ์ครึ่งหลังของปี 2566 บริษัทยังคงเน้นขยายฐานลูกค้ากองทุนส่วนบุคคล ทั้งสถาบันและลูกค้ารายใหญ่พิเศษ (Ultra High Net Worth) 

โดยแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนเพิ่มการประกอบธุรกิจทรัสตี ซึ่งปัจจุบันบริษัทปฏิบัติหน้าที่ทรัสตีของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยเพิ่มการประกอบธุรกิจทรัสตีของทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน (Private Equity Trust) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Trust) และทรัสต์สำหรับธุรกรรมการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่อ้างอิงกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์ (Trust for Real Estate-Backed ICO)

นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Securities กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 บริษัทยังมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าที่มีศักยภาพ การพัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสมกับความผันผวนของตลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อปรับโครงสร้างรายได้ให้มีความแข็งแกร่งรองรับการชะลอตัวของปริมาณการซื้อขายที่ซบเซา 

ข่าวล่าสุด

เจาะรายละเอียด อย.ปลดล็อก ยา ‘ATMP’ ตามความเสี่ยง 3 ระดับ!