posttoday

ล่ำสูงงัดกลยุทธ์ชนะน้ำมันปาล์มแพง

03 พฤษภาคม 2554

ออกสินค้าใหม่มาร์จินสูงเล็งลงทุนปลูกที่เวียดนาม

ออกสินค้าใหม่มาร์จินสูงเล็งลงทุนปลูกที่เวียดนาม

ล่ำสูงดิ้นหนีต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบแพง หันรุกน้ำมันสุขภาพ เล็งลงทุนปลูกปาล์มเวียดนาม

นายสมชัย จงสวัสดิ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) หรือ LST ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มภายใต้ยี่ห้อ “หยก” เปิดเผยว่า ปัจจุบันการแข่งขันของราคาน้ำมันปาล์มอยู่ในระดับสูง เนื่องจากราคาวัตถุดิบราคาน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นมาตลอด จนขณะนี้อยู่ที่ราคาเฉลี่ย 35 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มจากปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 29 บาทต่อกิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่สามารถที่จะปรับราคาขายน้ำมันปาล์มได้ เนื่องจากปัจจุบันราคาขายได้ชนเพดานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดแล้ว

ทั้งนี้ บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ที่จะหันไปผลิตน้ำมันเพื่อสุขภาพมากขึ้น ซึ่งมีราคาสูงกว่าน้ำมันปาล์มปกติและมีส่วนต่างกำไรระดับ 20% สูงกว่าน้ำมันปาล์มที่อยู่ที่5% เท่านั้น ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาประมาณ 1 ปีแล้ว จนขณะนี้ทำให้สัดส่วนรายได้ของน้ำมันเพื่อสุขภาพอยู่ที่ 5% ของรายได้รวม ส่วนน้ำมันปาล์ม “หยก” อยู่ที่ 30-35% ที่เหลือจะเป็นรายได้จากการขายน้ำมันปาล์มภาคอุตสาหกรรม 30-33% อีกประมาณ 25% เป็นรายได้จากการขายเนย

ในขณะเดียวกันบริษัทมีการลงทุนปริมาณสวนปาล์มเพิ่มเนื่องจากสวนปาล์มของบริษัทลูกประมาณ 50% ของพื้นที่มี 4 หมื่นไร่ ใกล้ครบสัมปทานในอีก 4 ปีข้างหน้า ดังนั้นจะต้องมองหาพื้นที่เพาะปลูกในต่างประเทศเพิ่ม เพราะในเมืองไทยมีข้อจำกัดด้านพื้นที่การปลูกปาล์ม โดยส่วนใหญ่กว่า 90% เป็นพื้นที่รายย่อย 5-10 ไร่ ดังนั้นมีความยากลำบากในการรวบรวมเป็นพื้นที่ใหญ่ สนใจไปลงทุนที่เวียดนาม

“บริษัทสนใจที่จะไปลงทุนพื้นที่ปลูกปาล์มที่เวียดนาม โดยคาดว่านับจาก 2 ปีนี้ หรือประมาณปี 2556 จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลการลงทุนและศึกษาความคุ้มค่าการลงทุนเพื่อเสนอขออนุมัติจากคณะกรรมการ” นายสมชัย กล่าว

สำหรับต้นทุนการปลูกปาล์มในช่วง 3 ปีแรก จะตกไร่ละ 1.5 หมื่นบาท ซึ่งยังไม่รวมราคาที่ดิน ส่วนแหล่งเงินทุนไม่น่าจะมีปัญหาคงใช้เงินกู้ส่วนหนึ่ง ซึ่งยังไม่สามารถกำหนดมูลค่าลงทุนได้ทั้งหมด เนื่องจากต้องได้ข้อสรุปขนาดของพื้นที่ก่อน

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของ LST จะดีขึ้นกว่าปี 2553 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 198 ล้านบาทคิดเป็นกำไรหุ้นละ 0.24 บาทลดลงมากเมื่อเปรียบเทียบปี 2552 กำไรสุทธิ 358 ล้านบาท หรือ 0.44 บาท

 

ข่าวล่าสุด

สนง.สลากฯ ชูยุทธศาสตร์ปี 69 ลดสลากใบ เพิ่มสลากดิจิทัล–N3 คุมสมดุลตลาด