สีสันความงามผู้หญิง 10 ทศวรรษ
ย้อนไปดูเทรนด์การแต่งหน้าของผู้หญิงที่แตกต่างกันตามยุคสมัยตลอด 1 ศตวรรษ บางรูปแบบก็ถูกนำมาประยุกต์กลายเป็นสไตล์ใหม่ในตอนนี้
ย้อนไปดูเทรนด์การแต่งหน้าของผู้หญิงที่แตกต่างกันตามยุคสมัยตลอด 1 ศตวรรษ บางรูปแบบก็ถูกนำมาประยุกต์กลายเป็นสไตล์ใหม่ในตอนนี้
โดย...ชุติมา สุวรรณเพิ่ม
เครื่องประทินโฉมแต่งแต้มสีสันคือของจำเป็นของหญิงสาวที่มีความปรารถนาด้านความงามทุกยุคสมัย ในงาน Beauty Hall; Beauty Extravaganza ขอเผยเคล็ดลับแห่งความงามที่เกิดขึ้นในแต่ละสมัย ที่เปลี่ยนไปตลอดเวลาอย่างไม่หยุดยั้งและยังคงจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด
งดงามด้วยแร่ธาตุ "Mineral Makeup"
จากยุคก่อนคริสตกาลถึง 1910 พระนาง คลีโอพัตราคือผู้นำแฟชั่นแก่สตรีชาวอียิปต์ เมื่อกว่า 5,000 ปีก่อน โดยทรงใช้ผงสีฟ้าสดที่บดจากหินลิปิสลาซูลี (Lapis Lazuli) ทาหลัง พระเนตรและใช้ผงหินมาลาไคต์สีเขียวทาขอบพระเนตรด้านล่างทรงใช้ผงดินสีแดง (ผงดินสนิมเหล็ก) ทาพระโอษฐ์ และพระปรางและใช้สารจากต้นเฮนนาทาฝ่าพระหัตถ์เพื่อให้เป็นสีชมพูให้ดูเยาว์วัย
และถ้ากล่าวถึงก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ของวงการเครื่องสำอางของชาวตะวันออก "ชิเซโด" เครื่องสำอางจากประเทศญี่ปุ่นคิดค้นเครื่อง ประทินดูแลผิว โดยก้าวเข้าสู่วงการเครื่อง สำอางในปี 1897 ด้วยการเปิดตัว Eudermine โลชันทาผิวสูตรอนาคต ที่ยังคงได้รับความนิยมสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นับเป็นนวัตกรรมการดูแลผิวที่ยืนหยัดอยู่ในแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำของโลกมาได้ตลอดระยะเวลา 100 กว่าปี
สาวเรโทรออกงานอีกครั้ง!!!
แฟชั่นเรโทรหมุนกลับมากับการแต่งหน้ายุคทองของวรรณกรรมที่สื่อผ่านภาพยนตร์ขาว-ดำ การออกงานสังคม ฟุ้งเฟ้อด้วยงานราตรีและของมึนเมา ดาราในยุคนี้อย่าง Theda Bara, Josephine Baker เน้นสไตล์การแต่งหน้าที่ ต้องถมสีดวงตาให้เกินจริงเพื่อเน้นให้เห็นความคมชัดของใบหน้า เวลาออกกล้อง ใบหน้าที่ขาวนวลเนียน คิ้วที่เรียวเล็กมากถึงมากที่สุด อายแชโดว์สีดำที่ต้องเรียกว่า "ถม" ให้รอบดวงตาเป็นทางยาวและค่อยๆ จางลงจนเกือบ ถึงขมับ รวมถึงริมฝีปากที่อวบอิ่มด้วยสีแดงก่ำจนเกือบดำ เป็นเทรนด์สำหรับสาวๆ ในยุคทศวรรษที่ 1920 "ชาเนล" เลือกสีดำเป็นทุกสิ่ง และสีขาวคือความงามที่สมบูรณ์แบบ ใน ยุคนี้เองที่โลกต้อนรับดีไซเนอร์ที่เป็นตำนาน กาบรีแอล โกโก้ ชาแนล ที่สีประจำตัวของเธอก็คือสีอมตะ เธอกล่าวว่าสีดำเป็นทุกสิ่งและสีขาวคือความงามที่สมบูรณ์แบบ
มาถึงยุคทศวรรษที่ 1930 วาดคิ้วให้โก่ง ระบายริมฝีปากหยักแหลมดั่งปีกแห่งคิวปิด นี่คือช่วงเวลาที่หญิงสาวเริ่มออกมาทำงานนอกบ้าน เป็นตัวของตัวเอง ที่ก่อให้เกิดเฟมินิสต์ลุค สิ่งที่เห็นได้ชัดจากสาวในยุคนี้คือการวาดคิ้ว ที่ยังคงเล็กเรียวโก่งมากขึ้นด้วยสีน้ำตาลแดง เน้นแต่งดวงตาคมเข้ม แบบสโมกกี อายส์ ไม่ได้เน้น สีดำเพียงอย่างเดียว ทว่านำโทนสีเทา-ดำมา ใช้ ผสานกับการแต่งดวงตาด้วยสีเงินตะกั่ว แล้วใช้เส้นดำตัดขอบตาและชั้นตาให้ดูลึก และริมฝีปากที่หยักมุมที่เรียกว่า Cupid's Bow Lips ให้ความรู้สึกแห่งลุคของการเป็นสาวเก๋ เฟมินิสต์ตัวจริง
เครื่องสำอางยุคนี้ "ลังโคม" โดย อาร์มอง เปอติอง ส่งครีมมหัศจรรย์แห่งยุค "นูทรีซ์" ในปี 1936 ที่ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันนี้
ส่วนสาวๆ ยุคทศวรรษที่ 1940 เลือกสวยงามตามแบบสีสันจากงานศิลปะ ผู้หญิงในยุคนั้นเริ่มกล้าที่พูดแสดงความคิดเห็น ผู้หญิงไม่ใช่เครื่องประดับบารมีของผู้ชายอีกต่อไป หมด ยุคของการปรุงแต่งที่ฟุ้งเฟ้อ คืนสู่ความเป็นธรรมชาติของผิวหน้าที่ตกแต่งเพียงเบาบาง ด้วยการเขียนคิ้วตามแนวเส้นเดิมที่ได้รับการตกแต่งเพียงเล็กน้อย ดวงตาที่แทบจะไม่จำเป็นต้องมีสีสันมาก แต่เน้นการใช้มาสคาราเพื่อส่งให้ขนตางอนโค้ง ดวงตาเป็นประกาย และริมฝีปากสีน้ำตาลแดงเนื้อ Matt เป็นที่นิยม ตามด้วยการปัดแก้มสีแอปปริคอท หรือสีแดงแอปเปิลเพียงเบาบางให้แลดูมีเลือดฝาดเป็นสาวสุขภาพดี
ตรงกับแนวคิดการเปิดตัวเครื่องสำอางแบรนด์ "Lancaster" ที่ส่องนำทางโดยวิทยาการ เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนยังคงแสดงออกถึงความงาม ไม่ว่าจะวัยใดหรือมีรูปแบบการดำเนินชีวิตเช่นไร เช่นเดียวกับน้ำหอม "Miss Dior" ในค.ศ. 1940 หลังจากนั้นอีก 14 ปี ได้เผยคอลเลกชันลิปสติกสีส้มมากถึง 8 เฉด
ความหรูหราอย่างเจ้าหญิงฮอลลีวูด เริ่ม ยุคทศวรรษที่ 1950 สร้างเสน่ห์ให้กับคิ้วและดวงตา อีกหนึ่งแบรนด์เครื่องสำอางที่เติบโตมาจากสายแฟชั่น "จีวองชี" สร้างความฮือฮากับมาสคาราปรากฏการณ์ใหม่ที่มีจุดเด่นที่แปรงปัดขนตาแบบกลม ทำให้ปัดขนตาได้งอนงามทุกเส้น หรือ "ชู อุเอมูระ" เลือกเปิดตัว Unmask Cleansing Oil โดยนำเอาศิลปะ ธรรมชาติ และวิทยาศาสตร์ เข้ามาไว้เป็นหนึ่งเดียว โดยใช้ "น้ำ" เป็นส่วนผสมหลัก
ทศวรรษ 1960 เจอความซ่าของสาวดิสโก้
เพื่อปาร์ตี้ในคืนยุคนี้ สาวดิสโก้ที่รักสีสันสดใสและชัดเจน สีส้ม สีฟ้าเทอร์คอยส์เป็นสี หลักที่โดดเด่น และมีการผสมผสานระหว่างความเยือกเย็นและความอบอุ่นที่ลงตัว การแต่งหน้าลุคนี้เป็นการเผยผิวธรรมชาติผสมผสานได้ทั้งแก้มสีชมพู ส้มและน้ำตาล ลิปสติกสีชมพูและสีส้ม และมนต์เสน่ห์แห่งดวงตาที่มาจากการรวมตัวกันของดินสอเขียนตาสีต่างๆ มีการใช้เทคนิคใหม่ๆ อย่างการใช้ Glitter เพื่อให้ โหนกคิ้ว โหนกแก้ม และริมฝีปากดูแวววาว เด่นชัด ทำให้การแต่งหน้าสไตล์นี้เข้ากับทรงผมเกล้าหางม้าสูงหรือดัดหยิกจนพองฟู
เครื่องสำอางโดดเด่นยุคนี้ "คลินิกข์" เน้นสีสันในยุคทศวรรษ 1960 ด้วยการทำความสะอาดและเน้นการปรนนิบัติดูแลผิวหน้า ด้วย Concept ผลิตภัณฑ์ที่ Allergy Tested and 100 Percent Fragrance Free ปลอดภัยต่อการแพ้และไม่มีน้ำหอมเป็นส่วนผสม
และมาถึงการแต่งหน้ายุคทศวรรษที่ 1970 เน้นการแต่งหน้าให้สวย คมชัด เผยผิวเนียนบนใบหน้า ยุคบุปผาชนครองเมือง Benefit ในยุคนี้เริ่มจากการเป็นร้านเล็กๆ ในซานฟรานซิสโก โดยเปิดตัวครีมลบรอยหมองคล้ำรอบดวงตา ซึ่งทำให้หญิงสาวทุกคนตกหลุมรักเข้าอย่างจัง และ Sisley ในปี 1976 ผลิตเครื่องสำอางช่วยถนอม ปกป้อง และแก้ปัญหาความงามด้วยวิถีธรรมชาติ พร้อมบำรุงสุขภาพผิวพรรณอย่างปลอดภัย
เตรียมความงามเริ่มต้นทศวรรษใหม่
เครื่องสำอาง M.A.C ก่อตั้งขึ้นในโทรอนโต แคนาดา ในปี 1984 ตอบสนองเมกอัพอาร์ทิสต์มืออาชีพที่ทำงานท่ามกลางแสงไฟ และสตูดิโอ ได้รับความนิยมเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในแวดวงแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นช่างแต่งหน้า นางแบบ นายแบบ ช่างภาพ และนักข่าวทั่วโลก ภายใต้คอนเซปต์ All Race, All Sex, All Age ที่รวมทัศนคติที่ทันสมัย มีศิลปะไม่เหมือนใคร และมีเอกลักษณ์บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง
อีกแบรนด์ที่เกิดจากฝีมือ เมกอัพ อาร์ทิสต์ ชื่อดังของนิวยอร์ก "นาร์ส" ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1994 โดยการสร้างสรรค์ของ ฟรองซัวส์ นาร์ส ที่ไม่ถูกใจกับสีสันของเครื่องสำอางที่วางขายอยู่ในท้องตลาด เขาจึงเริ่มคิดค้นเครื่องสำอางของตัวเอง โดยเริ่มจากลิปสติก 12 เฉดสีเป็นเจ้าแรก และอีกหลายแบรนด์ที่มีจุดเริ่มต้นเพราะการ ลุ่มหลงการแต่งหน้า "บ็อบบี้ บราวน์" ใช้สีสันคลาสสิกในโทนธรรมชาติที่เหมาะสมและใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน "ลอร่า เมอร์ซิเยอร์" เน้นความสวยที่ไม่ต้องมีอายุเข้ามาเกี่ยวข้อง เปิดตัวเมื่อปี 1996 โดยการนำเอาจุดเด่นคือ นำเอาธรรมชาติความสวยของผู้หญิง ไม่ว่าเธอจะอายุเท่าไหร่ ผิวอย่างไร มาเป็นแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์
และรับศตวรรษใหม่กับอิสระทางความสวย ยุคมิลเลนเนียม ที่มีความหลากหลายมีทั้งการย้อนยุค และหยิบจับเอาเทรนด์การแต่งหน้าของทั้ง 9 ยุคที่ผ่านมาเข้ามาเป็นเทรนด์ในแต่ละ ซีซันอยู่ตลอดเวลา สาวๆ หยิบสีสันและรูปลักษณ์ของการระบายสีบนใบหน้าในแต่ละยุคมาปรับใช้ให้เข้ากับตนเอง ซึ่งก็คือกุญแจดอกสำคัญในการไขความงามของหญิงสาวยุคปัจจุบัน


