เทรนด์ 3D สุดฮอต พลิกโฉมตลาดเอวีไทย
ตลาดเครื่องเสียงและภาพในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตสูงขึ้นมาก สวนกระแสเศรษฐกิจที่มีจีดีพีโต 3.8% ซึ่งเป็นผลจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาให้ความสนใจกับการสร้างความบันเทิงภายในบ้านมากกว่านอกบ้าน
ตลาดเครื่องเสียงและภาพในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตสูงขึ้นมาก สวนกระแสเศรษฐกิจที่มีจีดีพีโต 3.8% ซึ่งเป็นผลจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาให้ความสนใจกับการสร้างความบันเทิงภายในบ้านมากกว่านอกบ้าน
โดย...ทีมข่าวธุรกิจ-ตลาด
ตลาดเครื่องเสียงและภาพในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตสูงขึ้นมาก สวนกระแสเศรษฐกิจที่มีจีดีพีโต 3.8% ซึ่งเป็นผลจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาให้ความสนใจกับการสร้างความบันเทิงภายในบ้านมากกว่านอกบ้าน
สำหรับตลาดรวมเครื่องเสียงและภาพ แบ่งออกเป็น ตลาดเครื่องเสียงระดับล่างหรือตลาดคอนซูเมอร์ทั่วไป ราคาเฉลี่ย 12 หมื่นบาทต่อชิ้น มีสัดส่วน 40% ตลาดเครื่องเสียงระดับกลาง ราคาเฉลี่ย 27 หมื่นบาทต่อชิ้น สัดส่วน 40% และตลาดเครื่องเสียงระดับบน หรือไฮเอนด์ มีราคาเฉลี่ยตั้งแต่ชิ้นละ 7 หมื่นบาทขึ้นไป
ทั้งนี้ ตลาดเครื่องเสียงและภาพที่อยู่ในหมวดของสินค้าในกลุ่มโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ หรือโฮมเธียเตอร์ ในช่วงปีที่ผ่านมามีพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีเกิดขึ้นมากมาย อย่างเช่น บลูเรย์ (Bluray) แอลอีดีทีวี ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดอย่างมากขณะนี้ จนกลายเป็น “เทรนด์” ใหม่ๆ ของจอทีวีที่มีคุณสมบัติเด่นหลายด้าน ทั้งความบาง ความคมชัด และขนาดจอที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
แต่หากจะวัดกันจริงๆ แล้ว เทรนด์เด่นในช่วงปีที่ผ่านมาคงจะไม่มีใครเกินหน้า “3D” หรือเทคโนโลยี 3 มิติ ไปได้ เพราะเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและกระจายตัวออกไปในแขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทีวี วิดีโอ เกม คอมพิวเตอร์ โปรดักชัน โฆษณา ฯลฯ จึงมีผลให้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี 3D กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับความสนใจและมีการเติบโตสูงมากในปีที่ผ่านมา และถูกจับตามองว่าจะยังคงร้อนแรงต่อเนื่องไป
วรเทพ ศรีชวาลา นายกสมาคมการค้าเครื่องเสียงและภาพ (ไทย) เปิดเผยว่า วิวัฒนาการของเทคโนโลยีภาพและเสียงที่พัฒนาการอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผู้ที่ชื่นชอบเครื่องเสียงและโฮมเธียเตอร์เองก็ให้ความสนใจกับเทคโนโลยีใหม่เสมอ ทำให้สมาคมการค้าเครื่องเสียงและภาพ (ไทย) จัดงาน Bangkok HiFi & AV Festival 2011 ขึ้น เพื่อให้สมาชิกผู้ประกอบการเครื่องเสียงและภาพมากกว่า 40 บริษัท ร่วมกันนำเสนอนวัตกรรมด้านเครื่องเสียงและภาพออกมาโชว์และจำหน่ายสินค้า
นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ๆ ให้แก่ผู้ที่เข้ามาร่วมชมภายในงานไปพร้อมกัน ผ่านทางนิทรรศการและสัมมนาวิชาการด้านเครื่องเสียงและภาพที่จัดให้มีขึ้นภายในงาน เป็นการสร้างความมั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้ชมงาน และสร้างความต้องการบริโภคสินค้าให้เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้บริโภคให้มากขึ้น โดยงานครั้งนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1720 มี.ค. ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ
ด้าน สิทธิชัย วิริยะยุทธกร ประธานจัดงานดังกล่าว เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ภายในงานจะแบ่งเป็น 5 โซนด้วยกัน ได้แก่ 1.โซนนิทรรศการ นำเสนอนิทรรศการเกี่ยวกับเครื่องเสียงและภาพ ภายใต้แนวคิด “World of 3D” เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่ให้ความสนใจกับเทคโนโลยี 3D เป็นพิเศษ อาทิ การฉายภาพยนตร์ 3D ด้วยจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ เสมือนการจำลองโรงภาพยนตร์ 3D เข้ามาไว้ในบ้าน ทดลองเล่นเกม 3D และทดลองถ่ายภาพวิดีโอสามมิติด้วยกล้อง Camcorder 3D เป็นต้น
2.โซนช็อปปิ้ง นำเสนอผลิตภัณฑ์ทั้ง ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ แอกเซสซอรี แกดเจ็ต ฯลฯ จากผู้ประกอบการกว่า 100 บริษัท มาจำหน่ายในราคาพิเศษ พร้อมส่วนลดสูงสุด 50% และสิทธิพิเศษอื่นๆ อาทิ ผ่อน 0% นาน 36 เดือน 3.โซนหูฟัง ที่รวบรวมหูฟังหลากรูปแบบ หลายสไตล์ ในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 100 บาท และพบกับสุดยอดหูฟังมูลค่ากว่า 1 แสนบาท จากนักสะสมหูฟัง
4.โซนไฮเอนด์ พบกับการแสดงเครื่องเสียงและภาพระดับไฮเอนด์จากแบรนด์นำเข้าชั้นนำจากประเทศในยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น แต่ละชิ้นมีราคาเฉลี่ยกว่า 1 แสนบาทขึ้นไป มาจัดชุดโชว์ประสิทธิภาพเสียงให้ฟังกันอย่างเต็มที่ และ 5.โซนดูหนังฟังเพลง แบ่งออกเป็น 60 ห้อง สำหรับแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องเสียง โฮมเธียเตอร์ ในบรรยากาศที่แตกต่างกัน
การจัดงานครั้งนี้ได้รับความสนใจและความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพันธมิตรจำนวนมาก ทั้งสมาชิกในสมาคมการค้าเครื่องเสียงและภาพ (ไทย) เองที่มีอยู่กว่า 40 ราย ผู้ประกอบการในแวดวงเครื่องเสียงและภาพ นิตยสาร GM 2000 และนิตยสารในวงการฉบับอื่นๆ ชุมชนผู้นิยมฟังเพลงด้วยหูฟัง ฯลฯ ซึ่งทางผู้จัดคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 6 หมื่นคน แบ่งเป็นกลุ่มคนไทย 90% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10% เพิ่มขึ้นจากการจัดงานครั้งก่อนที่มีผู้เข้าชมงานกว่า 4.5 หมื่นคน
ทั้งนี้ คาดว่าสินค้าที่ถูกนำมาโชว์และจำหน่ายภายในงานจะมีมูลค่ารวมมากกว่า 300 ล้านบาท โดยมีทั้งสินค้านวัตกรรมใหม่และสินค้าที่ได้รับความนิยม โดยสมาคมใช้งบในการจัดงานกว่า 10 ล้านบาท เพื่อสร้างกระแสการรับรู้และเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้าร่วมชมงาน คาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะมีเงินสะพัดมากกว่า 120 ล้านบาท
ขณะที่มูลค่ารวมตลาดเครื่องเสียงในประเทศไทยในปีที่ผ่านมามีมูลค่าอยู่ระหว่าง 2,0003,000 ล้านบาท มีการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก แบ่งออกเป็นเครื่องเสียงระดับคอนซูเมอร์ทั่วไป มีสัดส่วน 40% เครื่องเสียงระดับกลาง มีสัดส่วน 40% และเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ 20%
ทั้งนี้ งาน Bangkok HiFi & AV Festival 2011 ในปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 22 จากเดิมใช้ชื่องานว่า Bangkok Internation HiFi & AV Festival จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2530 โดยชมรมเครื่องเสียงแห่งประเทศไทย ก่อนที่จะก่อตั้งเป็นสมาคมการค้าเครื่องเสียงและภาพ (ไทย) ในปี 2545 และเปลี่ยนชื่อเป็นงาน Bangkok HiFi & AV Festival 2011


