posttoday

ฮอลลีวูดระส่ำ! ดีล Netflix-Warner Bros. หวั่นทุบหม้อข้าวคนทำหนัง

08 ธันวาคม 2568

Netflix ทุ่ม 8.27 หมื่นล้านดอลลาร์ ควบรวม Warner Bros. ฮอลลีวูดระส่ำ! หวั่นทุบหม้อข้าวคนทำหนังและผูกขาดตลาดเบ็ดเสร็จ

 

เพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่ Netflix ยักษ์ใหญ่แห่งวงการสตรีมมิงประกาศดีลประวัติศาสตร์มูลค่า 8.27 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. บรรยากาศในอุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลกอย่างฮอลลีวูดก็เปลี่ยนไปสู่ภาวะที่หลายฝ่ายเรียกว่า "โหมดตื่นตระหนกเต็มพิกัด" ทันที

 

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการซื้อขายธุรกิจธรรมดา แต่นักวิเคราะห์และคนในวงการต่างมองว่า อาจเป็นการรุกฆาตสำหรับธุรกิจโรงภาพยนตร์แบบดั้งเดิม และอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นสัญญาณแห่ง "จุดจบของฮอลลีวูด" ในรูปแบบที่เราคุ้นเคย

 

คลื่นลูกแรกที่ถาโถมเข้าใส่ Netflix คือแรงต้านจาก สมาคมนักเขียนแห่งอเมริกา (WGA) ที่ออกแถลงการณ์คัดค้านแบบ "หัวชนฝา" โดยระบุชัดเจนว่าดีลนี้ต้องถูกระงับทันที

 

"หากปล่อยให้สตรีมมิงยักษ์ใหญ่ควบรวมกับบริษัทคู่แข่ง ผลที่ตามมาคือหายนะของคนทำงาน ทั้งการเลิกจ้าง กดค่าแรง และสภาพการทำงานที่เลวร้ายลง ส่วนผู้บริโภคก็ต้องรับกรรมจากราคาค่าสมาชิกที่แพงขึ้นและทางเลือกที่น้อยลง"

 

กว่าที่ Netflix จะคว้าชิ้นปลามันอย่าง  Warner Bros. มาได้ ต้องผ่านสมรภูมิการประมูลที่ดุเดือด โดยเฉพาะกับคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Paramount และ Comcast 

 

เดิมที Paramount ถูกมองว่าเป็นเต็งหนึ่ง เพราะเสนอซื้อกิจการทั้งหมดและมีแต้มต่อทางการเมือง จากการที่ เดวิด เอลลิสัน (ผู้บริหารสตูดิโอ บุตรชาย ลาร์รี เอลลิสัน ผู้ร่วมก่อตั้ง Oracle) มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งน่าจะช่วยกรุยทางด้านกฎหมายได้ง่าย

 

ฮอลลีวูดระส่ำ! ดีล Netflix-Warner Bros. หวั่นทุบหม้อข้าวคนทำหนัง

 

 

อย่างไรก็ตาม Netflix พลิกเกมกลับมาชนะด้วยข้อเสนอที่จะซื้อเฉพาะส่วนสตูดิโอภาพยนตร์ โทรทัศน์ และธุรกิจสตรีมมิง (หลังจาก Warner Bros. แยกส่วนธุรกิจทีวีเน็ตเวิร์กออกไปตามแผน)

 

ทำให้ทีมกฎหมายของ Paramount ถึงกับส่งหนังสือประท้วงว่ากระบวนการพิจารณานี้ "ไม่โปร่งใสและเอนเอียง" ก่อนที่ Netflix จะประกาศชัยชนะอย่างเป็นทางการ

 

แม้ Netflix จะชนะการประมูล แต่หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ดีลนี้มีกำหนดปิดจบในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2026 แต่ต้องผ่านการตรวจสอบทางกฎหมายอย่างเข้มข้นจากหน่วยงานกำกับดูแล 

 

ล่าสุด เอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต คู่ปรับตลอดกาลของบริษัท Big Tech ออกโรงฉะแหลกว่าดีลนี้คือ "ฝันร้ายของการผูกขาด"

 

"การควบรวมระหว่าง Netflix และ Warner Bros. จะก่อให้เกิดมหาอำนาจทางสื่อที่คุมตลาดสตรีมมิงไว้เกือบครึ่ง บีบให้ผู้บริโภคไม่มีทางเลือก" วอร์เรนกล่าว พร้อมย้ำว่าหน่วยงานรัฐต้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างโปร่งใส ห้ามมีการวิ่งเต้นหรือใช้เส้นสายเด็ดขาด

 

ทั้งนี้ หากดีลล่มด้วยเหตุผลทางกฎหมาย Netflix จะต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าธรรมเนียมยกเลิกสัญญา (Breakup fee) สูงถึง 5.8 พันล้านดอลลาร์

 

ฮอลลีวูดระส่ำ! ดีล Netflix-Warner Bros. หวั่นทุบหม้อข้าวคนทำหนัง

Netflix ดับไฟดราม่า มั่นใจดีลผ่านฉลุย 

 

ท่ามกลางความกังวล เท็ด ซารานดอส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (Co-CEO) ของ Netflix ได้กล่าวในงานประชุมนักวิเคราะห์เมื่อเช้าวันศุกร์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นโดยระบุว่า

 

"ผมมั่นใจในกระบวนการตรวจสอบ และขอยืนยันว่าดีลนี้ดีต่อผู้บริโภค ดีต่อนวัตกรรม และดีต่อคนทำงาน" ซารานดอสกล่าว "เราพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐเต็มที่ และมั่นใจว่าจะได้รับไฟเขียวแน่นอน"

 

ซารานดอสยังระบุว่า Netflix ตั้งใจจะให้ HBO บริหารงานอย่างอิสระในรูปแบบเดิม และจะยังคงให้ Warner Bros. ผลิตรายการทีวีป้อนเครือข่ายอื่นๆ ต่อไป ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่ Netflix ไม่เคยทำมาก่อน

 

ประเด็นที่คอหนังทั่วโลกจับตาคือชะตากรรมของ "โรงภาพยนตร์" เพราะในขณะที่ Warner Bros. กวาดรายได้ถล่มทลายจาก Box Office ในปีนี้ แต่โมเดลของ Netflix กลับเน้นลงสตรีมมิงให้เร็วที่สุด

 

ซารานดอสยืนยันว่า "ทุกอย่างที่ Warner Bros. วางแผนจะฉายในโรงภาพยนตร์ จะยังคงดำเนินไปตามปกติ" แต่เขาทิ้งท้ายด้วยวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจว่า ในระยะยาว "กรอบเวลาการฉายจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง" เพื่อให้ภาพยนตร์เข้าสู่ระบบสตรีมมิงได้เร็วขึ้น

 

"ข้อโต้แย้งหลักของผมอยู่ที่ระยะเวลาผูกขาดในโรงที่นานเกินไป ซึ่งเรามองว่าไม่ได้เป็นมิตรกับผู้บริโภคเท่าที่ควร" ซารานดอสทิ้งท้าย

 

"ผมมองว่าการผูกขาดฉายในโรงนานเกินไป ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผู้บริโภค" ซีอีโอ Netflix กล่าวทิ้งท้าย

 

อ้างอิง:

ข่าวล่าสุด

มาเลเซียออกโรง! วอนไทย-กัมพูชา ถอยคนละก้าว กลับสู่โต๊ะเจรจา