รุกฆาตวงการสื่อ! Netflix ขึ้นแท่นตัวเต็งฮุบ Warner Bros
Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ จ่อปิดดีลซื้อ Warner Bros Discovery หวังผงาดผู้นำสื่อครบวงจร ท่ามกลางกระแสคัดค้านปมผูกขาดตลาด
KEY
POINTS
- Netflix ขึ้นแท่นตัวเต็งในการเข้าซื้อกิจการ WBD โดยเสนอราคาที่ 28 ดอลลาร์ต่อหุ้น (เน้นจ่ายเป็นเงินสด) ซึ่งสูงกว่าราคาปิดตลาดและข้อเสนอของคู่แข่งอย่าง Paramount
- ดีลนี้จะทำให้ Netflix ครอบครองลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่ (Harry Potter, Game of Thrones, DC Comics) เปลี่ยนสถานะสู่การเป็นเจ้าของสตูดิโอครบวงจร ลดการพึ่งพาผู้ผลิตภายนอก
- Paramount กล่าวหาว่าบอร์ด WBD ลำเอียงเข้าข้าง Netflix ขณะที่บุคลากรในฮอลลีวูดเตรียมเรียกร้องสภาคองเกรสให้แทรกแซง เพราะหวั่นเกรงวิกฤตการผูกขาดในอุตสาหกรรม
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า บริษัท Netflix Inc. กำลังเร่งเครื่องเจรจาซื้อกิจการในส่วนธุรกิจสตูดิโอภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และสตรีมมิ่งของ Warner Bros Discovery (WBD) โดยสถานะล่าสุดถือเป็นการเจรจาเพียงรายเดียว (Exclusive talks) ตัดหน้าคู่แข่งรายอื่นทั้งหมด
Warner Bros Discovery บริษัทแม่ของช่องดังอย่าง HBO กำลังอยู่ในช่วงปรับโครงสร้างองค์กร ได้เปิดรับข้อเสนอซื้อกิจการรอบที่สองในสัปดาห์นี้
โดยมีบิ๊กเนมอย่าง Netflix, Paramount Skydance และ Comcast ตบเท้าเข้ายื่นข้อเสนอ แต่ดูเหมือนว่า Netflix จะกลายเป็น "ม้ามืด" ที่มาแรงที่สุด
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ข้อเสนอของ Netflix นั้นดึงดูดใจที่สุดด้วยตัวเลข 28 ดอลลาร์ต่อหุ้น และส่วนใหญ่เป็นการชำระด้วยเงินสด ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดของ WBD เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาที่ 24.54 ดอลลาร์ ถือว่าให้ราคาสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
แถมยังเกทับข้อเสนอของ Paramount ที่ให้ราคาเกือบ 24 ดอลลาร์ต่อหุ้น (ซึ่งรวมธุรกิจเคเบิลทีวีอย่าง CNN, TNT และ TBS เข้าไปด้วย)
นักวิเคราะห์มองว่า การเดินเกมครั้งนี้คือความพยายามของ Netflix ที่จะฉีกหนีรูปแบบรายได้จากการเก็บค่าสมาชิกรายเดือนแบบเดิมๆ
หาก Netflix ปิดดีลนี้ได้สำเร็จ จะเปรียบเสมือนการติดปีกพยัคฆ์ เพราะจะได้ครอบครองสุดยอดแฟรนไชส์ทำเงินอย่าง "Harry Potter", "Game of Thrones" และจักรวาล "DC Comics" ทันที
ซึ่งจะเปลี่ยนสถานะจากแค่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ให้กลายเป็นมหาอำนาจสื่อที่คุมเบ็ดเสร็จตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ (Vertically Integrated)
การเข้าถือครองสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา (IP) จะช่วยให้ Netflix ไม่ต้องง้อสตูดิโอภายนอกอีกต่อไป ทั้งยังเปิดโอกาสให้ขยายอาณาจักรไปยังธุรกิจเกม อีเวนต์ และสินค้าลิขสิทธิ์ได้อย่างเต็มตัว
ด้านสำนักข่าว Bloomberg ยังเผยข้อมูลว่า Netflix มั่นใจในดีลนี้มาก ถึงขนาดยอมเสนอ "ค่าปรับหากดีลล่ม" (Breakup fee) สูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์
เพื่อสร้างความมั่นใจหากหน่วยงานกำกับดูแลไม่อนุมัติการซื้อขาย โดยคาดว่าทั้งสองบริษัทอาจประกาศข้อตกลงอย่างเป็นทางการได้ภายในไม่กี่วันนี้
ข่าวการควบรวมกิจการยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วฮอลลีวูด Variety สื่อบันเทิงชื่อดังรายงานว่า กลุ่มผู้ทรงอิทธิพลในวงการภาพยนตร์เริ่มรวมตัวกันเพื่อกดดันให้สภาคองเกรสสหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซง
เพราะเกรงว่าดีลนี้จะนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจและการผูกขาดในอุตสาหกรรม
ขณะเดียวกัน สถานการณ์การแข่งขันก็ทวีความดุเดือด เมื่อ CNBC เปิดเผยจดหมายจากทีมกฎหมายของ Paramount ที่ส่งถึงบอร์ดบริหาร Warner Bros โดยระบุชัดเจนว่า
กระบวนการขายครั้งนี้ "ไม่มีความยุติธรรม" และเอื้อประโยชน์ให้กับ Netflix มากกว่าผู้ประมูลรายอื่น
"เราขอเรียกร้องให้พวกคุณตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนขึ้นมาดูแลเรื่องนี้ เพื่อความโปร่งใสต่อผู้ถือหุ้น" ข้อความบางส่วนจากทนายฝั่ง Paramount ระบุ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Paramount เคยยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ WBD ทั้งหมดด้วยมูลค่าราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ถูกบอร์ดบริหารของ Warner Bros ปัดตกไป ก่อนที่จะประกาศขายสินทรัพย์อย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา


