Apple ลุยตลาด "Mini App" หั่นค่าต๋งกว่าครึ่ง ดึงนักพัฒนาเข้าระบบ
Apple งัดกลยุทธ์ใหม่ ลุยตลาด "Mini App" หั่นค่าต๋งกว่าครึ่ง หวังดึงนักพัฒนาเข้าระบบ หลัง Tencent เจ้าของ WeChat ตอบรับร่วมวง
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Apple ประกาศเปิดตัวโปรแกรมพาร์ทเนอร์ใหม่เมื่อวันพฤหัสบดี โดยมีเป้าหมายเพื่อเจาะตลาด "Mini App" ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะแอปย่อยที่ทำงานอยู่ภายใน "Super App" ต่างๆ ซึ่งจะเปิดช่องให้ Apple สามารถสร้างรายได้จากเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงในหมู่นักพัฒนา
โปรแกรมดังกล่าว มีชื่อว่า "Mini Apps Partner Program" จะหักส่วนแบ่งรายได้ในอัตรา 15% จากการซื้อ-ขายภายในแอป (In-App Purchases) ของมินิแอปและเกม
Apple ระบุว่า อัตรานี้ถือเป็น "ส่วนลด" ให้ครึ่งหนึ่งจากเกณฑ์ปกติที่นักพัฒนาส่วนใหญ่ต้องจ่ายที่ 30% เมื่อใช้ระบบชำระเงินของ Apple
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สำนักข่าว Bloomberg รายงานในวันเดียวกันว่า Tencent ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจากจีน เจ้าของ WeChat ซึ่งเป็น "เจ้าตลาด" มินิแอปรายใหญ่ที่สุด ได้ตอบรับเข้าร่วมโปรแกรมนี้แล้ว
ประเด็นนี้ถือเป็นผลสืบเนื่องจากการเจรจาที่ยืดเยื้อมากว่าหนึ่งปี หลังจากที่ผ่านมา กลุ่มผู้สร้างมินิแอปบน WeChat มักพยายามหาช่องทางเพื่อหลีกเลี่ยงระบบชำระเงินของ Apple และดึงผู้ใช้ไปจ่ายเงินผ่านช่องทางภายนอกแทน
โปรแกรมใหม่นี้จึงถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ที่จะ "ดึง" บรรดานักพัฒนาซอฟต์แวร์เหล่านี้ให้กลับเข้ามาอยู่ในระบบที่ Apple ต้องการ และที่สำคัญคือ "การันตี" รายได้ให้กับบริษัทมากขึ้น
ขณะเดียวกัน การที่ Apple เลือกเปิดโปรแกรมนี้ให้แก่นักพัฒนาทุกคน (Open to all) ยังช่วย "สยบข้อครหา" ที่ว่า
Apple กำลังสร้างกฎพิเศษหรือ "เลือกปฏิบัติ" ให้กับบริษัทผู้ทรงอิทธิพลอย่าง Tencent ซึ่งมีฐานผู้ใช้ WeChat มหาศาลกว่าพันล้านคน
นอกเหนือจาก WeChat กระแสซูเปอร์แอปยังได้รับความนิยมอย่างสูงในภูมิภาคอื่น เช่นในญี่ปุ่น ผ่านเครือข่ายโซเชียลอย่าง Line หรือแพลตฟอร์ม Max ในรัสเซีย ที่ผนวกรวมบริการสื่อสารและการเงินไว้ในที่เดียว
อย่างไรก็ตาม Apple ได้ตั้งเงื่อนไขสำหรับมินิแอปที่จะเข้าร่วมโปรแกรมว่า ต้องมาจากผู้พัฒนาที่เป็น "บุคคลที่สาม" ที่ไม่ได้ถูกควบคุมโดยผู้พัฒนาซูเปอร์แอปหลักทั้งทางตรงและทางอ้อม
การปรับนโยบายครั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Apple เพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันรอบด้าน ทั้งจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของนักพัฒนาและหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก
โดยเฉพาะในสหภาพยุโรป (EU) ที่ Apple ถูกบีบให้ต้องผ่อนปรนนโยบาย App Store อย่างหนัก และเปิดทางให้ผู้พัฒนาสามารถรับชำระเงินผ่านช่องทางอื่นได้ ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน


