เอกนิติ นั่งหัวโต๊ะคณะอนุฯสอบเส้นเงินเทา ลั่น ธ.ค. เห็นรอยรั่วระบบการเงิน
เอกนิติ รองนายกฯ และรมว.คลัง นั่งประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบเส้นทางเงินเทา เชื่อมทุกหน่วยงาน ตั้งเป้าเห็นรอยรั่วในระบบการเงินไทยภายในเดือน ธ.ค.นี้
KEY
POINTS
- นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ เพื่อตรวจสอบเส้นทางเงินเทาที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
- คณะอนุกรรมการฯ จะบูรณาการข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น ธปท., ปปง., และ สตช. เพื่อติดตามธุรกรรมที่ซับซ้อนและยกระดับมาตรฐานการเงิน
- ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องค้นพบร่องรอยและช่องโหว่ของเส้นทางเงินเทาในระบบการเงินของไทยให้ได้ภายในเดือนธันวาคมนี้
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบเส้นทางการเงินและการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการอาชญกรรมทางเทคโนโลยีขึ้น ขึ้นมา 1 ชุด โดยมอบหมายให้ตนเป็นประธาน ซึ่งคณะอนุกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่ ตรวจสอบเส้นทางการเงินและการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นส่วนหนึ่งของคณะชุดใหญ่ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งเรียกว่า "คณะสแกมเมอร์" โดยหัวใจสำคัญของคณะอนุกรรมการชุดนี้คือการยกระดับมาตรฐานของเงินต่างๆ ที่เอามาใช้ให้ทัดเทียมสากล ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นที่จะไม่ทำแค่ในระยะสั้น
คณะอนุกรรมการชุดนี้จะประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเชื่อมโยงการทำงานระหว่างกัน ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), DSI, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), กระทรวงยุติธรรม, และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการยังได้กำหนดรองประธานสำคัญ ซึ่งประกอบด้วย ผบ.ตร., รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี
นายเอกนิติ กล่าวเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการบูรณาการข้อมูลและการทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่มีการทำธุรกรรมที่ตรวจจับยาก เช่น คริปโตฯ เรื่องนี้ต้องใช้ทุกหน่วยงาน มายกระดับมาตรฐานให้ทัดเทียมสากล อย่างคริปโตฯ ที่ตรวจยาก การทำ Connect the dot ก็เพราะแบบนี้
"โดยตั้งใจว่าเรื่องนี้ อย่างน้อยในเดือน ธ.ค.นี้ จะต้องเห็นเส้นทางรอยรั่ว อยู่ตรงไหน อย่างไร มีความมุ่งมั่นที่ไม่ใช่ทำเพียงระยะสั้น แต่ยกระดับให้เป็นมาตรฐาน เป้าหมายคือการเชื่อมจุดตรวจสอบเงินเทาแต่ละจุด connect the dot และใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้เห็นเส้นทางรอยรั่วในระบบเศรษฐกิจไทยภายในเดือนธ.ค.นี้ รวมถึงต้องคำนึงถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย " นายเอกนิติ กล่าว
นอกจากนี้ นายเอกนิติ กล่าวถึงการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ว่า ล่าสุด นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ตนเป็นประธานคณะยุทธศาสตร์การเจรจา และได้หารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ผ่านช่องทางออนไลน์ 1 ครั้ง โดยหารือถึงกรอบที่ได้ลงนามในอาเซียน ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์คต่อเนื่องจากรัฐบาลก่อนหน้า การตกลงในขั้นนี้เป็นเพียงกรอบเท่านั้น ส่วนรายละเอียดสินค้า เช่น สินค้าใดจะเสียภาษีเท่าไหร่ หรือได้รับการยกเว้น ต้องหารือร่วมกับเอกชนและกระทรวงพาณิชย์เพิ่มเติม
“สิ่งที่ต้องเปิดดู หากไทยไม่มีสินค้านั้น เช่น รถยนต์พวงมาลัยคนละข้าง ก็ไม่ถือว่าน่ากังวล นอกจากนี้ ไทยมี FTA หลายฉบับ สามารถนำมาเป็นมาตรฐานในการเจรจาได้ ข้อดีของกรอบเจรจาคือช่วยยกระดับความโปร่งใส เช่น การยกเลิกเรื่องรางวัลนำจำ ซึ่งสหรัฐฯ มองว่าอาจเป็นต้นทุนหรืออุปสรรคการค้า เราต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียอย่างรอบคอบ” นายเอกนิติ กล่าว
นายเอกนิติ ยังกล่าวถึงถ้อยแถลงของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนและการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าจะไม่ใช้นโยบายค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ธปท.จะออก statement ย้ำว่า กลไกของธปท.มีหน้าที่รักษาเสถียรภาพราคาและค่าเงินตามปกติ ไทยไม่ได้บิดเบือนระบบ แต่หากพบสิ่งผิดธรรมชาติ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย


