คืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน กดดันราคาทองปิดร่วง 1,150 บาท
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน คืบหน้า กดดันทองคำโลกปรับลงสู่ 4,038 ดอลลาร์ ทองไทยปิดร่วงรวม 1,150 บาท ทองรูปพรรณ 63,350 บาท
KEY
POINTS
- ราคาทองคำในประเทศปิดตลาดปรับตัวลดลง 1,150 บาท โดยมีปัจจัยกดดันหลักจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
- ความสำเร็จในการเจรจาเบื้องต้นส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลง
- กองทุน SPDR Gold Trust ได้ลดการถือครองทองคำลง ซึ่งสะท้อนถึงแรงขายทำกำไรในระยะสั้นที่กดดันราคาเช่นกัน
สรุปราคาทองคำวันนี้ (27 ต.ค.2568) อัปเดตล่าสุด โดยสมาคมค้าทองคำ ประกาศ ราคาทองคำ 21 ครั้ง ปิดตลาด เมื่อเวลา 17.02 น. ส่งผลให้ความเคลื่อนไหวราคาทองคำตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ โดยรวมปรับลดลงรวม 1,150 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายเมื่อวานนี้ (25 ต.ค.2568)
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
- รับซื้อบาทละ 62,450.00 บาท
- ขายออกบาทละ 62,550.00 บาท
ราคาทองคำรูปพรรณ
- รับซื้อบาทละ 61,200.92 บาท
- ขายออกบาทละ 63,350.00 บาท
ราคาทองคำโลก (Gold Spot)
- 4,038.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
บทวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ระบุว่า ราคาทองคำาวันนี้ (27 ต.ค.2568) ปรับตัวลงสู่ระดับ 4,040 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงกดดันของความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งทำให้ความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง โดยทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในประเด็นสำคัญหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการควบคุมการส่งออก สารเฟนทานิล สินค้าเกษตร และภาษีขนส่ง ซึ่งจะเปิดทางให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลงนามข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ที่เกาหลีใต้ในปลายสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ Reuters ระบุว่า การเจรจาที่คืบหน้าเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อบรรยากาศการลงทุน แต่กลับสร้างแรงกดดันต่อราคาทอง นอกจากนี้ กองทุน SPDR Gold Trust ยังลดการถือครองทองคำลง 0.52% เหลือ 1,046.93 ตัน สะท้อนถึงแรงขายทำกำไรในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มทองคำยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันพุธนี้ หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่ ECB และ BOJ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม ซึ่งช่วยหนุนมุมมองเชิงบวกต่อทองในระยะกลาง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก RHB Retail Research มองว่าทองคำยังคงทรงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ และหากราคายังยืนหยัดได้ มีโอกาสกลับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้งในระยะต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน
- ขายทำกำไรไม้ซื้อถ้าไม่ผ่าน 4,108-4,137 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- หากผ่านได้ชะลอขาย และขยับ Trailing Stop มาเหนือทุนเพื่อ Lock กำไร
- ส่วนการเปิดสถานะ เข้าซื้อใหม่หากราคาไม่หลุด 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ตัดขาดทุนหากหลุด 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อถอยจุดเข้าซื้อไปที่แนวรับถัดไป


