posttoday

“Universal Robots" จุดประกายอุตสาหกรรมไทยด้วยโคบอท ในงาน Collaborate 2025

09 ตุลาคม 2568

Universal Robots จัดงาน Collaborate Thailand 2025 เวทีหุ่นยนต์โคบอทใหญ่ที่สุดในอาเซียน จุดประกายอุตสาหกรรมไทยสู่ยุคอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

KEY

POINTS

  • Universal Robots (UR) จัดงาน “Collaborate Thailand 2025” ซึ่งเป็นงานแสดงหุ่นยนต์โคบอท (Cobot) ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เพื่อนำเสนอนวัตกรรมระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (AI) แก่ภาคอุตสาหกรรมไทย
  • มีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่สำคัญ ได้แก่ แพลตฟอร์ม AI Accelerator ที่ผสาน AI เข้ากับโคบอท และหุ่นยนต์โคบอทรุ่นใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานที่ซับซ้อนและแม่นยำยิ่งขึ้น
  • งานนี้ตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านระบบอัตโนมัติในภูมิภาค โดยชี้ว่าการใช้หุ่นยนต์เป็นความจำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมไทยเพื่อรับมือปัญหาขาดแคลนแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

งานหุ่นยนต์โคบอทที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จุดประกายอนาคตระบบอัตโนมัติไทย

กรุงเทพฯ กำลังกลายเป็นศูนย์กลางสำคัญของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในภูมิภาค เมื่อ Universal Robots (UR) ผู้นำระดับโลกด้านหุ่นยนต์โคบอทจากเดนมาร์ก จัดงาน “Collaborate Thailand 2025” ภายใต้แนวคิด “Collaborative Automation: The Future of Industry” ซึ่งถือเป็นงานหุ่นยนต์โคบอทที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน มีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน พร้อมการจัดแสดงหุ่นยนต์โคบอทกว่า 15 หน่วย

 

งานนี้จัดขึ้นที่โรงแรม The Athenee กรุงเทพฯ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนนวัตกรรมล่าสุดด้านระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับภาคการผลิตและอุตสาหกรรมบริการ รวมถึงเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงนักพัฒนา ผู้ผลิต และผู้ใช้งานหุ่นยนต์จากทั่วภูมิภาค

 

“Universal Robots" จุดประกายอุตสาหกรรมไทยด้วยโคบอท ในงาน Collaborate 2025

 

“โคบอท” มาจาก “Collaborative Robot” หมายถึง หุ่นยนต์ที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัยในพื้นที่เดียวกัน ต่างจากหุ่นยนต์อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมที่ต้องอยู่ในกรงเหล็กหรือพื้นที่จำกัดเพื่อความปลอดภัย

 

โคบอทถูกออกแบบให้มีเซนเซอร์ตรวจจับแรงและการเคลื่อนไหว สามารถหยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อสัมผัสมนุษย์ ทำให้เหมาะกับโรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ที่ต้องการระบบอัตโนมัติแต่ไม่อยากลงทุนสูงหรือปรับโครงสร้างใหญ่

 

นอกจากนี้ โคบอทยังตั้งโปรแกรมได้ง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก และทำงานได้หลายแบบ เช่น การยกชิ้นส่วน การบัดกรี การตรวจสอบคุณภาพ ไปจนถึงงานบรรจุหีบห่อ เป็น “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” ที่ทำให้แรงงานมนุษย์มีประสิทธิภาพมากขึ้นแทนที่จะถูกแทนที่

 

“Universal Robots" จุดประกายอุตสาหกรรมไทยด้วยโคบอท ในงาน Collaborate 2025

 

การเปิดตัวแพลตฟอร์ม AI Accelerator และโคบอทรุ่นใหม่

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงานปีนี้คือการเปิดตัว AI Accelerator แพลตฟอร์มที่ผสาน AI เข้ากับหุ่นยนต์โคบอทได้อย่างเต็มรูปแบบ ทำงานบนชิป NVIDIA Jetson AGX Orin พร้อมใช้เครื่องมือ Isaac จาก NVIDIA เพื่อให้ผู้พัฒนาและผู้ผลิตสามารถสร้างแอปพลิเคชันด้าน AI สำหรับโคบอทได้ง่ายขึ้น โดยระบบนี้สามารถประมวลผลงานซับซ้อนแบบเรียลไทม์ เช่น

การตรวจจับวัตถุ (Object Detection)

การวางแผนเส้นทางอัจฉริยะ (Smart Path Planning)

การตรวจจับจุดบกพร่องในสายการผลิต (Defect Detection)

 

นอกจากนี้ Universal Robots ยังเปิดตัวหุ่นยนต์โคบอทรุ่นใหม่ ได้แก่ UR8 Long, UR15, รวมถึงรุ่นเฉพาะตลาด UR7e และ UR12e ที่มีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นสูงขึ้น ตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และโลจิสติกส์ พร้อมเปิดตัวซอฟต์แวร์ PolyScope X และบริการหลังการขายระดับโลก URCare เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ

 

“Universal Robots" จุดประกายอุตสาหกรรมไทยด้วยโคบอท ในงาน Collaborate 2025

 

พันธมิตร UR+ และกรณีศึกษาจากภาคอุตสาหกรรมไทย

ภายในงานยังมีการสาธิตโซลูชันจริงจากพันธมิตรในเครือ UR+ ครอบคลุมตั้งแต่งานบรรจุภัณฑ์ งานประกอบ ไปจนถึงงานตรวจสอบคุณภาพ หนึ่งในกรณีศึกษาที่โดดเด่นคือ Toyoda Gosei (Thailand) ที่นำแนวคิดกลไกแบบญี่ปุ่น “คาราคุริ (Karakuri)” มาผสานกับหุ่นยนต์โคบอทของ UR เพื่อช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อนในสายการผลิต เพิ่มความปลอดภัย และส่งเสริมทักษะของวิศวกรรุ่นใหม่ในไทย

 

ตัวแทนจาก Teradyne Robotics ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Universal Robots กล่าวบนเวทีว่า

“ในยุคที่แรงงานขาดแคลนและต้นทุนสูง ระบบอัตโนมัติไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่คือความจำเป็นสำหรับผู้ผลิต ตอนนี้คำถามไม่ใช่ ‘ทำไมต้องใช้หุ่นยนต์’ แต่คือ ‘เราจะเริ่มใช้ได้เร็วแค่ไหน’”

 

“Universal Robots" จุดประกายอุตสาหกรรมไทยด้วยโคบอท ในงาน Collaborate 2025

 

ไทยกำลังเร่งก้าวสู่ยุคหุ่นยนต์โคบอทเต็มรูปแบบ

ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดศักยภาพสูงของ Universal Robots ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ที่มีฐานการผลิตใหญ่ที่สุดในภูมิภาค

นาย Colin Soh ผู้อำนวยการฝ่ายขายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Teradyne Robotics กล่าวย้ำว่า ไทยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งทั้งด้านบุคลากรทักษะสูง โครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรม และการสนับสนุนจากภาครัฐที่ชัดเจน ทำให้ไทยมีโอกาสก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านระบบอัตโนมัติในอาเซียน

 

การเติบโตของตลาดหุ่นยนต์ในประเทศไทย

ข้อมูลจากหลายสถาบันระบุว่า ไทยกำลังเข้าสู่ช่วง “ขาขึ้น” ของการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติอย่างจริงจัง

รายงานของ IMF และสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (IFR) ระบุว่า ไทยมีจำนวนหุ่นยนต์ในภาคการผลิตเพิ่มจากราว 1,500 เครื่องในปี 2008 เป็นมากกว่า 21,000 เครื่องในปี 2018 และยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2023 มีการนำเข้าหุ่นยนต์เพื่อการผลิตมากกว่า 3,600 เครื่อง 

ตลาดหุ่นยนต์ในไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) มากกว่า 11.5% ระหว่างปี 2025–2031 

ตลาดซอฟต์แวร์หุ่นยนต์ (Robot Software) ในไทยมีมูลค่ากว่า 158 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และคาดว่าจะเติบโตเกือบ 30% ต่อปีในช่วง 2024–2030 

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ยังคาดว่า ภายในปี 2030 หุ่นยนต์จะเข้ามาทำงานแทนแรงงานมนุษย์ในภาคการผลิตมากถึง 15% ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 ที่ผลักดันให้ประเทศขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีขั้นสูง และระบบอัตโนมัติ

 

 

ข่าวล่าสุด

กัมพูชาเปิดฉากยิงช่องอานม้า ฝ่ายไทยสูญเสีย ยังปะทะเดือด