posttoday

ครม.ไฟเขียวเติมเงินบัตรสวัสดิการ 2 เดือน รับเพิ่ม 1,700 บาทต่อคน

30 กันยายน 2568

ครม. เห็นชอบโครงการเพิ่มวงเงินสวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการ 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2568 จำนวน 850 บาทต่อคนต่อเดือน รวม 1,700 บาทต่อคน

KEY

POINTS

  • คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการเพิ่มวงเงินให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.4 ล้านคน
  • ผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเดือนละ 850 บาท เป็นเวลา 2 เดือน (พฤศจิกายน-ธันวาคม 2568) รวมทั้งสิ้น 1,700 บาทต่อคน
  • มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2568

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มวงเงินสวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งปี 2568 ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม กระทรวงการคลังเสนอ

 

โครงการเพิ่มวงเงินฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาค่าครองชีพ และจัดประชารัฐสวัสดิการเพิ่มเติมเป็นการชั่วคราวให้แก่ผู้มีบัตรฯ ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางสูงและได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว โดยจะเป็นการบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้มีบัตรฯ รวมถึงช่วยเพิ่มกำลังซื้อ และเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2568 ส่งผลให้เกิดการบริโภค การผลิต และการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นลูกโซ่ ทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวม

กลุ่มเป้าหมาย

ผู้มีบัตรฯ ตามฐานข้อมูลโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 กันยายน 2568 จำนวนไม่เกิน 13.4 ล้านคน ทั้งนี้ กรณีที่รัฐบาลจะดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป ควรพิจารณาดำเนินการโดยไม่รวมผู้มีบัตรฯ ที่ได้รับสิทธิในโครงการเพิ่มวงเงินฯ ข้างต้น เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนของกลุ่มเป้าหมาย

 

วิธีดำเนินการ

กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ช่วยเหลือผู้มีบัตรฯ ผ่านวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่นๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยผู้มีบัตรฯ จะได้รับวงเงินเพิ่มอีกจำนวน 850 บาทต่อคนต่อเดือน (โดยเพิ่มเติมจากวงเงินที่ได้รับเดิมจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน) เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2568 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 1,700 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
 

ระยะเวลาดำเนินการ

2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2568

 

งบประมาณ

ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 22,780 ล้านบาท โดยจัดสรรให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำหรับกองทุนฯ 

 

โครงการเพิ่มวงเงินฯ โดยขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 22,780 ล้านบาท จะทำให้ผู้มีบัตรฯ มีวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสวัสดิการที่ผู้มีบัตรฯ พึงพอใจและมีการใช้ประโยชน์เกือบเต็มวงเงิน โดยการเพิ่มวงเงินดังกล่าวจะทำให้ผู้มีบัตรฯ มีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น และเป็นการเพิ่มยอดขายกับร้านธงฟ้าฯ และร้านอื่นๆ ที่ผู้มีบัตรฯ ไปใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศโดยรวม

 

"คาดว่าการดำเนินโครงการเพิ่มวงเงินฯ จะส่งผลให้ GDP ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.07-0.08 ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ และเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้มีบัตรฯ" นายสิริพงศ์ กล่าว

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมครม. ยังได้มีมติเห็นชอบกันเงินเหลือจ่ายจากงบประมาณปี 2568 เพื่อจ่ายหนี้สาธารณะที่รัฐบาลได้ก่อไว้ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงิน โดยจะโอนงบประมาณจำนวน 35,960 ล้านบาท ให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตาม มาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ