รู้จักร้านเฟรนไชส์ Flying Tiger Copenhagen ทำไมฮิตทั่วโลก
ทำความรู้จักเฟรนไชส์ Flying Tiger Copenhagen (ฟลายอิง ไทเกอร์ โคเปนเฮเกน) แบรนด์ดังจากเดนมาร์กคือใคร ทำไมถึงเป็นที่นิยมทั่วโลก เข้ามาเปิดสาขาแรกในไทย จุดขายคืออะไร
ทุกวันนี้ “ร้านขายของจิปาถะ” กลายเป็นส่วนหนึ่งของคนไทยไปแล้ว เราคุ้นเคยกับ Daiso จากญี่ปุ่นที่จุดกระแส “ของชิ้นละ 60 บาท” หรือแบรนด์ดังอย่าง MINISO จากจีนที่เข้ามาสร้างกระแสด้วยดีไซน์ทันสมัยในราคาที่เข้าถึงได้ ให้กลายเป็นโมเดลธุรกิจยอดฮิต รวมถึง Moshi Moshi แบรนด์ไทยที่เติบโตจากร้านเล็ก ๆ ในสำเพ็ง จนมีสาขาทั่วประเทศ
แต่รู้หรือไม่ว่า… ไม่ได้มีแค่เอเชียเท่านั้นที่หลงใหลเสน่ห์ของร้านของจิปาถะ เพราะในโลกตะวันตกก็มีแบรนด์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกเช่นกัน นั่นก็คือ Flying Tiger Copenhagen (ฟลายอิง ไทเกอร์ โคเปนเฮเกน) จากประเทศเดนมาร์ก ร้านขายสินค้าวาไรตี้ ไลฟ์สไตล์ รวมความ “ดีไซน์สนุก” “ฟังก์ชันใช้ได้จริง” และ “ราคาจับต้องได้” ไว้ด้วยกัน จนสร้างยอดขายได้ถึง หลักหมื่นล้านบาทต่อปี
จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ จากตลาดนัดสู่แบรนด์ระดับโลก
เรื่องราวของ Flying Tiger Copenhagen เริ่มขึ้นเมื่อกว่า 30 ปีก่อน จากแผงขายร่มเล็ก ๆ ในตลาดนัดที่เดนมาร์กของ เลนนาร์ต ไลบอสชิตซ์ (Lennart Lajboschitz) และภรรยา “ซุซ” (Suz) ในปี 1988 ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดร้านจริงจังในย่านชุมชนของโคเปนเฮเกน ใช้ชื่อว่า “Zebra” และขายสินค้าจิปาถะอย่างร่ม แว่นกันแดด ถุงเท้า และของเหลือสต็อก
สิ่งที่ทำให้ Zebra แตกต่างคือบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง วันเปิดร้าน เลนนาร์ตแจกกาแฟและคุกกี้ให้กับลูกค้า และทุกวันเสาร์ก็จะมีโชว์มายากลเล็ก ๆ ให้เด็ก ๆ ที่มากับพ่อแม่
กระทั่งปี 1995 ร้านใหม่ชื่อ “Tiger” ก็ถือกำเนิดขึ้น โดยของทุกชิ้นในร้านมีราคาเพียง 10 โครนเดนมาร์ก เท่านั้น ซึ่งบังเอิญว่าคำว่า “สิบโครน” ในภาษาเดนมาร์กออกเสียงคล้ายกับคำว่า “ไทเกอร์” จึงกลายเป็นชื่อที่จดจำง่ายและได้รับความนิยมในทันที
จากร้านเล็กในโคเปนเฮเกน สู่แบรนด์ระดับโลก
เวลาผ่านไปกว่า 30 ปี Tiger ได้เติบโตจนกลายเป็น Flying Tiger Copenhagen แบรนด์ค้าปลีกสินค้าจิปาถะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีเฟรนไชส์มากกว่า 1,100 สาขาใน 41 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมยุโรป เอเชีย และออสเตรเลีย โดยในเอเชียก็มีสาขาแล้วทั้งในญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และ ประเทศไทย ซึ่งเพิ่งเปิดสาขาแรกที่ “เอ็มสเฟียร์” กรุงเทพฯ
ปรัชญา สินค้าดีไซน์สนุก เพื่อ “ความสุขในชีวิตประจำวัน”
Flying Tiger Copenhagen ไม่ได้ขายเพียง “ของใช้” แต่ขาย “ประสบการณ์การใช้ชีวิต” ตามปรัชญา “Richer life Experiences from Products” หรือ “สร้างความสุขที่มากขึ้นผ่านสินค้า”
ตามคำบอกเล่าของ Martin Jermiin ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ Jens Aarup Mikkelsen ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (International) บริษัท Zebra A/S ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกไลฟ์สไตล์ Flying Tiger Copenhagen กล่าวว่า สินค้าทุกชิ้นได้รับการออกแบบเองทั้งหมดที่โคเปนเฮเกน โดยทีมดีไซเนอร์จะใส่ “สัมผัสพิเศษ” “ความใหม่” และ “ความสดชื่น” ลงไปในทุกดีเทล สินค้าครอบคลุม ตั้งแต่ของเล่น เครื่องเขียน ของใช้ในครัว ของตกแต่งบ้าน ไปจนถึงของจัดปาร์ตี้ และยังเปลี่ยนสินค้าใหม่ทุกเดือนกว่า 13 แคมเปญ ทำให้ทุกครั้งที่เข้าร้านคือประสบการณ์ใหม่เสมอ
เปิดสาขาแรกในไทยมีอะไรบ้าง
สำหรับประเทศไทย บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้คว้าสิทธิ์เฟรนไชส์เข้ามาเปิดที่สาขาแรกชั้น 2 เอ็มสเฟียร์ ในราคาที่เข้าถึงได้ และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ มีสินค้ากว่า 1,700 SKU (รายการ) รวม 14 กลุ่มสินค้า
หนึ่งในจุดแข็งของ Flying Tiger Copenhagen คือราคาที่จับต้องได้ โดยสินค้ามีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 100 บาท และเริ่มต้นเพียง 50-60 บาทเท่านั้น เหมาะกับยุคที่ผู้บริโภคมองหาความสุขเล็ก ๆ จากการ “ช้อปปิ้งแบบฮีลใจ” โดยไม่ต้องใช้งบสูง
สินค้าจากเดนมาร์ก สู่ชั้นวางทั่วโลก
สินค้าของ Flying Tiger Copenhagenทุกชิ้นถูกออกแบบในเดนมาร์กและกระจายผ่านศูนย์กลางโลจิสติกส์ในจีน ก่อนจะส่งออกไปยังทุกประเทศทั่วโลก โดยสินค้าที่วางขายจะเหมือนกันทุกสาขา แต่ในไทยสามารถนำเข้าได้ประมาณ 75% เนื่องจากข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ เช่น การรับรองจาก อย. หรือ มอก.
แม้บางชิ้นอาจมีราคาสูงกว่าคู่แข่งเล็กน้อย แต่จุดแข็งสำคัญคือ “ความยูนีค” และ “ดีไซน์เฉพาะตัว” ที่หาไม่ได้จากที่อื่น ซึ่งทำให้ Flying Tiger Copenhagen ยังคงเป็นแบรนด์ขวัญใจคนรักสินค้าดีไซน์ทั่วโลก


