ธปท. ถก ปปง. เร่งตรวจสอบปมส่งออกทองคำไปกัมพูชามากผิดปกติ
ธปท. หารือ ปปง. เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีส่งออกทองคำไปกัมพูชามีปริมาณมากผิดปกติ ระบุยังไม่พบการเก็งกำไรค่าเงินบาท-เงินไหลเข้าผิดปกติ
KEY
POINTS
- ธปท. หารือ ปปง. เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีส่งออกทองคำไปกัมพูชามีปริมาณมากผิดปกติ
- ระบุยังไม่พบการเก็งกำไรค่าเงินบาท และเงินไหลเข้าผิดปกติ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) ตลาดพันธบัตรมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 1,200 ล้านดอลลาร์ แต่ตลาดหุ้นยังไหลออกสุทธิ
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ยังไม่เห็นสัญญาณการเก็งกำไรในค่าเงินบาทที่ผิดปกติ โดยทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นและมากกว่าภูมิภาค ปัจจัยหลักประมาณ 80-90% มาจากดอลลาร์อ่อนค่า
ขณะเดียวกัน ทองคำมีความเชื่อมโยงกับค่าเงินสูงขึ้นเฉลี่ย 0.7% ซึ่งสูงกว่าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่ง ธปท.พยายามหารือกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ค้าทองคำ และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ นอกจากนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดมากกว่าที่คาด และการเมืองที่มีความชัดเจนขึ้น ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่ากว่าภูมิภาค
“ธปท.ได้เข้าไปดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทผันผวนเร็วและแรงเกินไป ทั้งในฝั่งแข็งค่าและอ่อนค่า เพื่อไม่ให้ผันผวนนำคนอื่นมากเกินไป รวมถึงเพื่อให้ผู้ประกอบการในประเทศสามารถปรับตัวได้” นางสาวชญาวดี กล่าว
สำหรับแนวโน้มกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ไหลเข้ามา ณ วันที่ 17 ก.ย.2568 ในตลาดพันธบัตรอยู่ที่ 534 ล้านดอลลาร์ และตลาดหุ้นขายออกสุทธิ 100 ล้านดอลลาร์ หากดูตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) ตลาดพันธบัตรมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 1,200 ล้านดอลลาร์ แต่ตลาดหุ้นยังไหลออกสุทธิ
นางสาวชญาวดี กล่าวว่า ประเด็นที่มีความเป็นห่วงธุรกรรม Net Error and Omission (NEO) หรือข้อผิดพลาดและตกหล่นสุทธิ จะมีส่วนกดดันให้เงินบาทแข็งค่านั้น หากดูข้อมูลย้อนหลังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2557-2566 จะพบว่ามูลค่าธุรกรรมดังกล่าวมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่ากลุ่มประเทศรายได้ปานกลางในเอเชียที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5% ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมด และคาดว่าของไทยจะทยอยปรับลดลงอีกหากมีการปรับข้อมูลจริงในเดือน ก.ย.ที่จะออกมา
ขณะที่การส่งออกทองคำไปกัมพูชาที่มีปริมาณมากผิดปกตินั้น ขณะนี้ ธปท.อยู่ระหว่างหารือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่


