posttoday

Squid Game แผลงฤทธิ์! ดันรายได้ Netflix ไตรมาส 2 พุ่งเกินคาด

18 กรกฎาคม 2568

"Squid Game" สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง! ซีรีส์ยอดฮิตจากเกาหลีใต้กลายเป็นพระเอกตัวจริง ดัน Netflix โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 สุดแกร่งเกินกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความสำเร็จของ Squid Game ซีซั่นสุดท้าย ซึ่งเปิดตัวในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 คือปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนผลประกอบการของ Netflix ในรอบนี้

 

โดยซีรีส์เรือธงเรื่องนี้ยังคงครองตำแหน่งคอนเทนต์ภาษาต่างประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาลของแพลตฟอร์ม และซีซั่นล่าสุดเพียงอย่างเดียวก็กวาดไปยอดผู้ชมไปสูงถึง 122 ล้านครั้ง

 

Squid Game แผลงฤทธิ์! ดันรายได้ Netflix ไตรมาส 2 พุ่งเกินคาด

 

อิทธิพล Squid Game ส่ง Netflix ทะยาน

 

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 (เมษายน-มิถุนายน) ของ Netflix ออกมาน่าประทับใจเกินคาด โดยมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 7.19 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 7.08 ดอลลาร์ ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

จากความสำเร็จดังกล่าว ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง ทำให้ Netflix ตัดสินใจปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ตลอดปี 2025 ขึ้นเป็น 44,800 - 45,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

จากเดิมที่คาดการณ์ไว้สูงสุดที่ 44,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าพลังของ Squid Game ไม่ได้หยุดอยู่แค่ยอดผู้ชม แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นและตัวเลขทางการเงินของบริษัท

 

Squid Game แผลงฤทธิ์! ดันรายได้ Netflix ไตรมาส 2 พุ่งเกินคาด


 

แม้ Squid Game ชูโรง แต่นักลงทุนยังคาดหวังมากกว่านี้

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวดีจากอิทธิพลของ Squid Game แต่ราคาหุ้น Netflix กลับปรับตัวลดลง 1.8% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ

 

นักวิเคราะห์จาก Investing.com มองว่า ตลาดและนักลงทุนคาดหวังการปรับเพิ่มเป้ารายได้ที่ "สูงกว่านี้มาก"

 

"แนวโน้มตลอดทั้งปีที่บริษัทประกาศออกมายังดูค่อนข้างระมัดระวัง ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับหุ้นที่ถูกคาดหวังความสมบูรณ์แบบไปแล้ว" นายโธมัส มอนเตโร กล่าว

 

"ในตอนนี้ ดูเหมือนว่ารายได้ในอนาคตของบริษัทอาจต้องพึ่งพาการขึ้นราคาค่าบริการต่อไป อย่างน้อยจนถึงปี 2026"

 

Squid Game แผลงฤทธิ์! ดันรายได้ Netflix ไตรมาส 2 พุ่งเกินคาด

 

ก้าวต่อไปของ Netflix หลังยุคทองของ Squid Game

 

Netflix ตระหนักดีว่าความสำเร็จไม่ได้มาจาก Squid Game เพียงเรื่องเดียว บริษัทจึงเดินหน้ากลยุทธ์สร้างรายได้จากหลายช่องทาง

 

ทั้งการขยายแพ็คเกจแบบมีโฆษณาเพื่อเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่ และการเพิ่มคอนเทนต์ถ่ายทอดสดอย่างมวยปล้ำ WWE เพื่อดึงดูดเม็ดเงินโฆษณา

 

สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ Netflix ยังมีซีรีส์ฟอร์มยักษ์จ่อคิวรอสร้างปรากฏการณ์ต่อจาก Squid Game ไม่ว่าจะเป็น "Wednesday" ซีซั่นใหม่ที่จะกลับมาในเดือนสิงหาคม

 

และบทสรุปสุดท้ายของ "Stranger Things" ที่จะออกฉายในช่วงปลายปี

 

ซึ่งต้องจับตาดูว่าคอนเทนต์เหล่านี้จะสามารถสร้างแรงกระเพื่อมและเข้ามาเป็นเสาหลักใหม่ให้กับแพลตฟอร์มได้สำเร็จหรือไม่ หลังหมดยุคทองของ Squid Game

 

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2