มติครม.ถอนร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์พ้นสภา
มติครม.ถอนร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ้นการพิจารณาของสภาฯ เหตุมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาคสังคมต้องไปทำความเข้าใจ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ 27/2568 เมื่อวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2568 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง (กค.) ให้ถอน “ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ...” ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเคยเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งมีสาระสำคัญในการกำหนดให้สามารถประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีกลไกการกำกับดูแลผ่านคณะกรรมการ 2 ระดับ ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร และคณะกรรมการบริหารสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีสำนักงานควบคุมฯ เป็นหน่วยธุรการ พร้อมทั้งวางหลักเกณฑ์การอนุญาต และมาตรการควบคุมให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีมาตรฐานและเหมาะสม
ก่อนหน้านี้ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 อนุมัติหลักการร่างกฎหมายดังกล่าวตามที่ กค.เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) ตรวจพิจารณาเป็นกรณีเร่งด่วน โดยนำความเห็นจากคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม. คณะที่ 5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประกอบพิจารณา ก่อนเสนอคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
ต่อมา คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ได้ตรวจพิจารณาและปรับปรุงรายละเอียดและสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวให้ชัดเจนขึ้น และ ครม.มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 พร้อมให้ส่งร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเสนอสภาฯ ต่อไป
ภายหลัง ครม.มีมติเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 ซึ่งมีมติให้นำร่าง พ.ร.บ. เข้าบรรจุในระเบียบวาระของสภาผู้แทนราษฎร
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ในการประชุม ครม.ครั้งที่ 27 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเห็นว่า กระทรวงการคลังได้เสนอขอถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง และมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 อีกทั้งร่าง พ.ร.บ.นี้ยังมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาคสังคม จึงเห็นควรถอนออกจากการพิจารณาเพื่อทบทวนใหม่
ดังนั้น สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจึงเสนอให้ ครม.รับทราบ และหากไม่มีข้อทักท้วงหรือเห็นแย้ง ให้ถือเป็นมติ ครม. ซึ่งที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ


