posttoday

เผ่าภูมิ สั่งตรวจสอบ 104 ราย แห่คืนใบอนุญาต พิโกไฟแนนซ์

11 มิถุนายน 2568

“เผ่าภูมิ” แจงคืนใบอนุญาตพิโกไฟแนนซ์ 104 ราย เป็นตัวเลขปกติ แต่พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงรอบด้าน เล็งแก้เกณฑ์ปล่อยกู้ข้ามจังหวัด กระจายการให้บริการทางการเงินมากขึ้น

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่ขณะนี้มีผู้ประกอบการธุรกิจพิโกไฟแนนซ์มีปัญหาหนี้เสีย (NPL) จำนวนมาก และได้มีการทยอยคืนใบอนุญาตแล้วกว่า 104 ราย ว่า ยืนยันว่าการคืนใบอนุญาตของผู้ประกอบการเป็นเรื่องปกติ เป็นไปตามกระบวนการปกติ และตัวเลขดังกล่าวไม่ได้เยอะจนมีนัยสำคัญ แต่ตามข้อเท็จจริง ควรดูทั้งระบบ เพราะตามปกติแล้วก็จะมีทั้งผู้ที่คืนใบอนุญาต และเข้ามาขอใบอนุญาตเพิ่มด้วย

 

ส่วนเรื่อง NPL ก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ โดยตอนนี้ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังไปประมวลผลต่าง ๆ อยู่ เพราะตามข่าวที่ออกมาอาจจะเป็นการพูดถึงขาออกเพียงอย่างเดียว ทำให้กระบวนการในการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ยังไม่ครบถ้วน ข้อเท็จจริงคือต้องดูจำนวนสุทธิของการคืนและการขอใบอนุญาตทั้งหมด

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการแก้ไขหลักเกณฑ์เพื่อให้ผู้ให้บริการพิโกไฟแนนซ์สามารถปล่อยกู้ข้ามจังหวัดได้ หรือปล่อยกู้ได้ในหลาย ๆ จังหวัด เพื่อทำให้เกิดการกระจายของการให้บริการพิโกไฟแนนซ์ได้มากยิ่งขึ้น และลดมิติขอการจำกัดในการกระจายสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้มากขึ้น เนื่องจากปัญหาของประเทศไทยในปัจจุบันคือ ไม่สามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้อย่างมีศักยภาพ ดังนั้นอะไรที่เป็นข้อจำกัดก็ควรจะมีการทบทวนเพื่อให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น

 การปล่อยกู้ข้ามจังหวัดเป็นเรื่องสำคัญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็เห็นตรงกันกับเรื่องนี้ และจะมีการพัฒนาไปสู่การแก้ไขข้อกฎหมาย ซึ่งตอนนี้อยู่ในกระบวนการแล้ว เพื่อให้เกิดการกระจายการให้บริการพิโกไฟแนนซ์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากพิโกไฟแนนซ์เป็นกลไกในการต่อสู่กับหนี้นอกระบบ และเรามองว่าไมมีความจำเป็นต้องไปยึดติดกับพื้นที่ การผูกกับจังหวัดเป็นการจำกัดการให้บริการ การปลดล็อกตรงนี้จะทำให้ผู้ให้บริการที่มีศักยภาพสามารถปล่อยกู้ข้ามจังหวัดได้

รมช.การคลัง ยังกล่าวถึงกรณีค่ายรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ค่ายหนึ่งที่กำลังประสบปัญหา ทั้งจดทะเบียนป้ายขาวไม่ได้ นำรถเข้าซ่อมในศูนย์บริการของบริษัทเป็นเวลานาน อีกทั้งศูนย์บริการยังทยอยปิดตัว ซึ่งกระทบการให้บริการหลังการขาย ในขณะที่ได้มีการเข้ารับการอุดหนุนตามมาตรการอีวีของภาครัฐแล้ว ว่า เรื่องนี้ต้องพิจารณาในภาพรวม จะพิจารณานโยบายโดยเจาะเป็นรายผู้ประกอบการคงไม่ได้ 

 

ทั้งนี้ จะต้องดูความเหมาะสมและความสมดุลระหว่างนโยบายในการกระตุ้นอีวี และการสนับสนุนเชิงอุตสาหกรรม ต้องมีการปรับ จูน เพื่อทำให้ผู้ประกอบการสามารถผลักดันนโยบายของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องดูกระบวนการที่เหมาะสม ซึ่งได้สั่งการให้กรมสรรพสามิตหารือในรายละเอิียด พิจารณาตามเงื่อนไขของมาตรการ หากผู้ประกอบการรายได้ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขก็ต้องมีมาตรการออกมาจัดการ

ข่าวล่าสุด

ทรัมป์เรียกร้องให้อิหร่าน “ยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข”