posttoday

เงินเฟ้อพ.ค.ลดลง 0.57% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่2 ไร้สัญญาณเงินฝืด

06 มิถุนายน 2568

พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อไทยพ.ค.ลดลง 0.57% จากราคากลุ่มอาหารสด-พลังงานลดลง คาดเงินเฟ้อมิ.ย.กลับมาบวก หลังติดลบ 2 เดือนติด ปรับคาดการณ์ปีนี้เหลือ 0.0-1.0%

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนพฤษภาคม 2568 อยู่ที่ 100.40 ลดลง 0.57% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สาเหตุหลักมาจากราคาสินค้ากลุ่มอาหารสดและพลังงานลดลง

เงินเฟ้อพ.ค.ลดลง 0.57% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่2 ไร้สัญญาณเงินฝืด

โดย ปัจจัยสำคัญที่กดเงินเฟ้อลง ได้แก่ ราคาพลังงานลดลง จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะราคาขายปลีกแก๊สโซฮอล์ในประเทศ เฉลี่ยเดือน พ.ค. อยู่ที่ 32.79 บาท/ลิตร ลดลงจาก 38.98 บาท/ลิตร หรือราว 6.19 บาท

ขณะที่ ราคาผักสดและผลไม้ลดลง ตามปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ผลสำรวจราคาผัก 32 รายการใน พ.ค. พบว่ามี 29 รายการราคาลดลง เหลือเพียง 3 รายการที่ปรับขึ้น 

 

อย่างไรก็ตาม หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ยังปรับเพิ่ม 0.89% จากราคาสินค้ากลุ่มเนื้อสัตว์ อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม ข้าวและผลิตภัณฑ์จากแป้ง รวมถึงน้ำตาลที่สูงขึ้น แม้ราคาผัก ไข่ไก่ และไก่ย่างจะลดลง

 

ในทางกลับกัน หมวดสินค้าอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 1.51% โดยเฉพาะราคาพลังงาน ของใช้ส่วนตัว เสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

 

ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงาน เพิ่มขึ้น 1.09% เร่งตัวจากเดือนเมษายนซึ่งอยู่ที่ 0.98%

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมิถุนายน 2568 จะกลับมาเป็นบวกที่ระดับ 0.2%–0.4% โดยมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ ฐานราคาปีก่อนต่ำลง โดยเฉพาะหมวดผักสดที่ราคาสูงในปีที่แล้วจากภัยธรรมชาติ ,ราคาน้ำมันดิบโลกต่ำลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันภายในประเทศลดลงตาม ,ภาครัฐลดค่าไฟฟ้า Ft เหลือ 3.98 บาท/หน่วย (เริ่ม พ.ค.–ส.ค.) ช่วยลดภาระค่าครองชีพ และกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจและโปรโมชั่นจากภาคเอกชน ช่วยพยุงราคาสินค้า

เงินเฟ้อติดลบ 2 เดือน แต่เราคาดว่าเดือนหน้า เงินเฟ้อน่าจะกลับมาเป็นบวกได้ โดยในเดือนมิ.ย.นี้คาดไว้ที่ 0.2-0.4% เนื่องจากฐานในปีก่อนต่ำ 

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่อาจกดดันให้เงินเฟ้อสูงขึ้น เช่น ราคาสินค้าเกษตรบางรายการที่เริ่มปรับขึ้น เช่น มะพร้าว มะขามเปียก กาแฟ เกลือ น้ำมันพืช และเนื้อสุกรใ

 

จากแนวโน้มดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปปี 2568 ใหม่ จากเดิม 0.3%–1.3% (ค่ากลาง 0.8%) เหลือ 0.0%–1.0% (ค่ากลาง 0.5%) เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน

 

สำหรับ ข้อมูลล่าสุดเดือน เม.ย. 2568 พบว่าไทยมีอัตราเงินเฟ้อติดลบ 0.22% ต่ำสุดเป็นอันดับ 7 จาก 133 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก และต่ำที่สุดในอาเซียนจาก 8 ประเทศที่ประกาศตัวเลข เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม ฯลฯ

 

โดย แนวโน้มเงินเฟ้อ รายไตรมาส พบว่า ไตรมาส 2 คาดอยู่ที่ -0.1% ถึง 0% ,ไตรมาส 3 อยู่ที่ 0.1% ถึง 0.3% และ ไตรมาส 4 ปรับขึ้นเป็น 0.7% ถึง 0.9%

 

สำหรับ ผลกระทบจากมาตรการทางภาษีนำเข้าสหรัฐฯ นายพูนพงษ์ ว่า ต้องรอผลการเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศ เพื่อประเมินผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดในอีก 90 วัน แต่ยืนยันว่ารัฐบาลติดตามใกล้ชิดและมีมาตรการรองรับไว้แล้ว
 

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี