ชิงงบ 1.57 แสนล้าน หน่วยงานแห่ชงแผนกระตุ้นศก.กว่า 100 โครงการ
คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ยังไม่สรุปแผนใช้งบ 1.57 แสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ รอถกอีกครั้งสัปดาห์หน้า หลังหน่วยงานชงแผนกว่า 100 โครงการ พร้อมรอสำนักงบฯ-สศช.คัดกรองก่อนเสนอบอร์ดใหญ่
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 5/2568 ซึ่งมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่า ขณะนี้มีหน่วยงานภาครัฐเสนอแผนงานและคำของบประมาณเข้ามาจำนวนมาก ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ตามแผนเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะอนุมัติให้โครงการใด โดยต้องดำเนินการตรวจสอบรายเอียดเพื่อคัดกรองโครงการที่เหมาะสมก่อน ทั้งนี้ จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้งต่อไปภายในสัปดาห์หน้า
ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่ามีโครงการใดบ้างที่จะได้งบ โดยจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้าเลย
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้มีหน่วยงานภาครัฐเสนอโครงการเพื่อขอใช้งบ มากกว่า 100 โครงการ โดยขณะนีสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดและคัดกรองเบื้องต้น โดยยังไม่มีข้อสรุปว่าจะอนุมัติโครงการใดบ้าง ส่งผลให้การประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะยังไม่การประชุมในวันที่ 5 มิ.ย. 2568 ตามกำหนดเดิม
การพิจารณาโครงการต้องรอบคอบและพิจารณาให้ตรงเป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจมากที่สุด จึงต้องกลับไปดูรายละเอียดรายโครงการให้ชัดเจน เพราะหลายโครงการมีวงเงินสูงแต่ไม่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ โครงการที่เสนอเข้ามาแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่
- การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบน้ำ การคมนาคม โครงการขนาดเล็กในท้องถิ่น
- การพัฒนาชุมชน
- การส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งกำลังชะลอตัว
- โครงการที่มีผลต่อการจ้างงานและการกระจายรายได้อย่างรวดเร็ว
นายเผ่าภูมิระบุด้วยว่า แม้บางโครงการใช้งบสูง เช่น 80,000 ล้านบาท แต่หากไม่ตรงเป้าหมายหรือไม่มีความพร้อม ก็จะถูกคัดออก เพื่อให้เม็ดเงินลงสู่ระบบได้เร็วและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยยืนยันว่าทุกภาคส่วนกำลังเร่งทำงานอย่างเต็มที่ และการพิจารณาโครงการจะไม่ใช้ปริมาณเป็นตัววัด แต่เน้นประสิทธิภาพและผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นหลัก
ทุกอย่างต้องพร้อมก่อนถึงจะเสนอเข้าสู่บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ได้ เราไม่เร่งเคาะเพราะต้องการความรอบคอบ และไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำ
ทั้งนี รัฐบาลเร่งจัดทำคำของบประมาณปี 2568 โดยกำหนด 3 หลักเกณฑ์สำคัญสำหรับโครงการที่ขอใช้งบ ได้แก่
- ต้องลงทุนเพื่อกระจายเงินสู่เศรษฐกิจ – มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ชุมชน และการท่องเที่ยว เพื่อรักษาการจ้างงาน
- ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างอาชีพ – เน้นโครงการที่ช่วยภาคประชาชนและธุรกิจ พร้อมวางรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว
- ต้องดำเนินโครงการภายในปีงบ 2568 – ไม่อนุญาตให้แบ่งซื้อแบ่งจ้าง และหากเป็นโครงการก่อสร้างต้องมีแบบพร้อมดำเนินการ
โดยให้หน่วยงานเสนอชื่อโครงการที่พร้อมเข้ากลั่นกรองโดย 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสำนักงบประมาณ เพื่อให้สามารถนำเสนอเข้าสู่ คณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายใน มิถุนายน 2568 และเร่งเบิกจ่ายให้เกิดผลบวกต่อเศรษฐกิจได้ทันต่อสถานการณ์


