Token X พลิกโฉมการลงทุน แปลงสินทรัพย์จริงสู่โทเคน เชื่อมต่อตลาดทุนดิจิทัล
โลกการลงทุนกำลังเปลี่ยน โทเคนดิจิทัลไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คืออนาคต Token X พร้อมก้าวเป็นหัวหอก “คู่คิดธุรกิจ” เปิดโอกาสใหม่สู่การระดุมทุนดิจิทัล
KEY
POINTS
- มูลค่าตลาด RWAs แตะ 600 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้
- Token X พร้อมเป็น คู่คิด ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สู่จุดหมายการเงินดิจิทัล
- ชูจุดแข็ง ร่วม Project Guardian ปั้นมาตรฐานสากลเชื่อมต่อร่วมกันทั่วโลก
ลองนึกภาพอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าหลายร้อยล้าน หรือสิทธิบัตรนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกจำกัดอยู่ในโลกการเงินแบบเดิม กำลังถูก "แปรสภาพ" กลายเป็นโทเคนดิจิทัลที่นักลงทุนทั่วไปทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้เพียงปลายนิ้ว
นี่คือหัวใจของ (Real-World Assets หรือ RWAs) การเปลี่ยนสินทรัพย์จริง ไม่ว่าจะจับต้องได้หรือเป็นเพียงสิทธิในเชิงกฎหมาย ให้กลายเป็น Asset-backed token บนเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยรายงานล่าสุดจาก Boston Consulting Group (BCG) เผยว่าการ Tokenization ของสินทรัพย์ในโลกจริง หรือ RWAs ปีนี้จะมีมูลค่า 600 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ประมาณการมูลค่าที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ 18.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2576
โอกาสนี้ไม่ได้มาเล่น ๆ แต่การก้าวเข้าสู่โลกนี้ไม่ง่าย หากขาดพันธมิตร หรือ “คู่คิด” ที่เข้าใจทั้งเทคโนโลยีและข้อกำกับทางกฎหมายอย่างลึกซึ้ง และ Token X คือหนึ่งในผู้เล่นหลักที่หลายองค์กรจับตามอง
“จิตตินันท์ ชาติสีหราช” CEO ของ Token X บริษัทลูกของ SCB X เปิดเผยถึงโอกาสและกลยุทธ์ของ Token X ว่า การเปลี่ยน "สินทรัพย์ดั้งเดิม" ให้กลายเป็น "สินทรัพย์ดิจิทัล" ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ แต่คือการเปิดประตูสู่การเงินยุคใหม่ ที่กำลังสร้างโอกาสครั้งใหญ่ให้กับทุกองค์กรธุรกิจ
จิตตินันท์ ชาติสีหราช CEO ของ Token X
ทำไมต้อง Token X
“จิตตินันท์” พาย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นในการเกิด Token X เมื่อปี 2564 ซึ่งถือเป็น "ปีทอง" ของสินทรัพย์ดิจิทัล ในช่วงนั้น ตลาดดิจิทัลเริ่มมีความสนใจในเรื่องของคริปโตเคอร์เรนซี่และ Metaverse โดยมีสถาบันการเงินชั้นนำอย่างเช่น DBS และ J.P. Morgan เริ่มมีบทบาทชัดเจนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
ประจวบเหมาะกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีการเปิดใบอนุญาต ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล Initial Coin Offering (ICO portal) แน่นอนว่า Token X คือบริษัทลูกของ SCB X ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำในด้านการเงินและเทคโนโลยีการเงินจึงหนีไม่พ้นที่ต้องเข้าไปร่วมวงในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งนับเป็นอนาคตการเงินยุคใหม่
Token X จึงเกิดขึ้น พร้อมให้บริการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มจากการให้บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจโทเคนดิจิทัล (Tokenization Consultancy Service) การให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) การให้บริการออกแบบ พัฒนาระบบงานบล็อกเชนและเทคโนโลยีอื่นที่เกี่ยวข้องกับโทเคนดิจิทัล ซึ่งรวมถึงการจัดทาและให้บริการเครือข่ายบล็อกเชน (Technology Development and Blockchain Related Services) เป็นต้น ที่สำคัญองค์กรธุรกิจสามารถนำสินทรัพย์แบบดั้งเดิมเข้าไประดมทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Initial Coin Offering (ICO) เป็นการระดมทุนรูปแบบหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วย โดยบริษัทจะเสนอและ กำหนดขายโทเคนดิจิทัลที่กำหนดสิทธิหรือผลประโยชน์ต่างๆ ของผู้ลงทุน เช่น ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการอ้างอิง หรือสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือ บริการที่เฉพาะเจาะจงและกำหนดให้ผู้ลงทุนที่ต้องการจะร่วมลงทุนสามารถเข้าร่วมได้ โดยการนำคริปโทฯ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศไว้บนเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. หรือเงินมาจองซื้อโทเคนดิจิทัลที่ออกโดยผู้ออกโทเคนดิจิทัล (Issuer) ผ่าน Token X ในฐานะ ICO Portal โดยมีการกำหนดและบังคับสิทธิที่จะได้รับด้วย smart contract บนเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งขั้นตอน ICO นั้นต้องทำตามระเบียบข้อกำหนดของผู้กำกับดูแลในแต่ละประเทศอย่างเคร่งครัดลักษณะเดียวกับการระดมทุนแบบ IPO
สินทรัพย์ที่สามารถแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ในรูปแบบโทเคนดิจิทัล (Asset Tokenization)เพื่อระดมทุนได้ นอกจากอสังหาริมทรัพย์ หรือ โครงการต่างๆในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานแล้ว โครงการเกี่ยวกับความยั่งยืน คาร์บอนเครดิต และซอฟต์พาวเวอร์ เช่น ดนตรี ภาพยนต์ งานศิลปะ ก็สามารถระดมทุนด้วยโทเคนได้
สร้างโอกาสลงทุนโทเคนแบบเป็นรูปธรรม
หนึ่งในตัวอย่างการใช้งานจริงที่น่าสนใจ คือการที่ Origin Property ในการเปิดตัวโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนชื่อ “เรียลเอ็กซ์” ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงการลงทุนในคอนโดลักชัวรี่ใจกลางเมือง เช่น พาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์, พญาไท และทองหล่อ ได้โดยไม่ต้องซื้อทั้งยูนิต นักลงทุนสามารถร่วมเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของโครงการผ่านการถือโทเคน และรับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาสจากค่าเช่า ทำให้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กลายเป็นเรื่องง่ายและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น
อีกกรณีหนึ่งคือ บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO ที่ได้ร่วมมือกับ Token X เพื่อนำโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาสู่โลกดิจิทัล โดย DITTO มีสิทธิ์ในการปลูกและดูแลป่าชายเลนกว่า 48,000 ไร่ เพื่อสร้างคาร์บอนเครดิต DITTO จึงใช้บริการ Token X ในการออกโทเคนดิจิทัลเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต เปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคธุรกิจทุกระดับเข้ามาลงทุนและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาจากสำนักงาน ก.ล.ต.
ไม่เพียงแต่สร้างผลตอบแทน แต่ยังได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและช่วยลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ถือเป็นการใช้โทเคนดิจิทัลที่ผสานเป้าหมายทางธุรกิจเข้ากับพันธกิจด้านความยั่งยืนอย่างแท้จริง
ไม่หยุดพัฒนา พร้อมเจอสิ่งใหม่เสมอ
ทีมงานของ Token X ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา วันนี้อาจเป็นเรื่องใหม่ แต่เมื่อตื่นมาพรุ่งนี้ เขาก็จะต้องเจอเรื่องใหม่อีก จิตตินันท์ กล่าว พร้อมเล่าว่า วัฒนธรรมการทำงานของ Token X อาจจะนิยามได้ว่าเป็นลูกผสมระหว่าง สตาร์ทอัพ กับ องค์กรใหญ่ เพราะเรามีทั้งสองด้านอยู่ในตัว
อย่างแรก คืออยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับ (Regulator) และดำเนินงานภายใต้ใบอนุญาตที่ชัดเจน ทำให้ต้องมีมาตรฐานในเรื่อง กฎระเบียบ และ ธรรมาภิบาล (Governance) ที่เข้มงวด
แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งที่กำลังทำคือการบุกเบิกสิ่งใหม่ ๆ ในโลกของดิจิทัลและบล็อกเชน ซึ่งยังไม่มีแบบแผนตายตัวหรือสูตรสำเร็จ
สิ่งนี้ทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานของทีมต้องมีความยืดหยุ่น และเต็มไปด้วยความท้าทาย ต้องโฟกัสไปที่ ผลลัพธ์ มากกว่ากระบวนการ ทีมงานทุกคนจึงต้องมีความ กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ คิดนอกกรอบ และพร้อมปรับตัวตลอดเวลา
ร่วมโครงการ Guardian สร้างมาตรฐานสากลร่วมกัน
https://www.mas.gov.sg/schemes-and-initiatives/project-guardian
เพื่อให้ตลาดการเงินดิจิทัลเติบโตได้จริง ระบบต่าง ๆ ต้องเชื่อมโยงกันได้ แพลตฟอร์มที่หลากหลายต้องมี มาตรฐานกลาง ที่ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายและปลอดภัย การสร้างตลาดการเงินใหม่จำเป็นต้องมีผู้เล่นที่เชื่อถือได้ ทุกคนในระบบต้องสามารถไว้วางใจกันได้ เพื่อสร้างความมั่นคงในตลาด
นั่นคือสาเหตุทำให้ Token X เข้าร่วมโครงการ Guardian โครงการระดับโลกในการยกระดับวงการสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่ง Token X ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Guardian โครงการความร่วมมือที่ริเริ่มโดย Monetary Authority of Singapore (MAS) หรือธนาคารกลางสิงคโปร์ ร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเงิน จุดเริ่มต้นของโครงการนี้เกิดจากเป้าหมายสำคัญ 2 เรื่อง คือ การสร้างสภาพคล่อง และ การเพิ่มประสิทธิภาพ ให้กับตลาดการเงิน
สิ่งที่น่าสนใจคือ Project Guardian ถูกออกแบบมาในรูปแบบ Sandbox คือการทดลองจริงในสเกลที่ควบคุมได้ เพื่อทดสอบว่า Asset Tokenization หรือการเปลี่ยนสินทรัพย์จริงให้เป็นโทเคนดิจิทัล จะช่วยสร้างผลลัพธ์ตามเป้าหมายได้จริงหรือไม่
“จิตตินันท์” เล่าว่า การเข้าร่วม Project Guardian ไม่ใช่แค่การเป็น “ผู้สังเกตการณ์” แต่เป็นการลงมือทำจริง เพื่อพิสูจน์ว่า Asset Tokenization สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงินได้จริง ทั้งในเรื่องสภาพคล่องและประสิทธิภาพ
สิ่งสำคัญคือ โครงการนี้เป็นลักษณะ Cross-Country Deal ซึ่ง Token X ต้องเข้าใจทั้งกฎหมายในประเทศไทยและกฎหมายของประเทศคู่ค้า เพื่อให้แพลตฟอร์มเชื่อมต่อกันได้อย่างราบรื่น และนี่คือโอกาสสำคัญในการทดสอบว่าเราจะเดินหน้าไปสู่ การเงินยุคใหม่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ จึงเป็นการเรียนรู้และพิสูจน์ในโลกจริงว่าความฝันเรื่อง “การเงินไร้พรมแดน” ใกล้จะเป็นจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ
Token X “คู่คิด” แปลงสินทรัพย์จริงสู่ดิจิทัล
Token X วางเป้าหมายชัดเจนในการเป็น Tokenization Success Partner หรือ “คู่คิด” ด้านการแปลงสินทรัพย์จริงสู่ดิจิทัล สำหรับองค์กรที่ต้องการก้าวเข้าสู่ตลาดโทเคนอย่างมั่นใจ
ในระยะสั้น บริษัทมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจ ICO ภายใต้ใบอนุญาตของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยเน้นการสร้างความเชี่ยวชาญทั้งในด้านการออกโทเคนที่ครอบคลุมทุกประเภทสินทรัพย์และทุกกรณีการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์รูปแบบใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น
เพื่อรองรับตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว Token X จึงพัฒนาทั้งทีมที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Advisory) และทีมเทคโนโลยีอย่างเข้มแข็ง โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบ Smart Contract และแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่น สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีบริการ Infra as a Service เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายอื่นสามารถเข้ามาใช้เทคโนโลยีของ Token X ได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนพัฒนาระบบเอง ช่วยให้การเริ่มต้นธุรกิจในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น
ในมุมมองระยะยาว Token X มองว่าการทำ Tokenization เป็นเพียง “ก้าวแรก” ของการพัฒนาตลาดการเงินแห่งอนาคต บริษัทจึงวางเป้าหมายต่อยอดเทคโนโลยีและขยายขอบเขตของการแปลงสินทรัพย์ไปสู่การสร้าง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ที่ใช้บล็อกเชนเป็นโครงสร้างหลัก
โดยเชื่อมั่นว่าเมื่อเทคโนโลยีและตลาดมีการพัฒนาต่อเนื่อง จะเห็นการเติบโตของระบบการเงินดิจิทัลที่ครอบคลุมและสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาดทุนได้อย่างแท้จริง


