พลังงาน สั่ง กฟผ. เร่งขุดถ่านหินแม่เมาะ หวั่นกระทบค่าไฟฟ้า

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานบอร์ดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (รมว.พน.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการจ้างเหมา ขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะ 

ล่าสุดผลการสอบสวนข้อเท็จจริงสิ้นสุดแล้ว และไม่พบความผิดเกี่ยวกับทุจริตหรือการประพฤติมิชอบ ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับที่กำหนดไว้ โดย กฟผ. จะเดินหน้าเซ็นสัญญากับผู้ชนะการประมูล และเร่งขุดขนถ่านหินจากทุกสัญญาที่มี เพื่อให้มีถ่านหินเพียงพอในการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะให้ได้เต็มที่ โดยไม่มีผลกระทบต่อค่าไฟในรอบถัดไป

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสอบสวนได้ตั้งข้อสังเกตว่า กฟผ. ไม่ควรเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะ โรงที่ 8 ถึง 11 เนื่องจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนไม่รุนแรงตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวในปี 2567 ทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ผันผวนสูงถึง 14-15 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู

ในการนี้ กฟผ. ได้ปรับสัดส่วนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าเพื่อให้ต้นทุนต่ำสุดและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องเดินเครื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ โรงที่ 8 ถึง 11 ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้า LNG ได้ประมาณ 18 ลำ มูลค่า 65,000 ล้านบาท และลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าประมาณ 11-13 สตางค์ต่อหน่วย

สำหรับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง กฟผ. ได้เปิดโอกาสให้บริษัทที่มีศักยภาพจำนวน 6 ราย เข้าร่วมการประมูล โดยพิจารณาเทคโนโลยี แผนการดูแลรักษาเครื่องจักร อุปกรณ์ที่สำคัญ รวมถึงประสบการณ์และข้อเสนอด้านราคา คณะกรรมการสอบสวนได้แนะนำให้ปรับปรุงระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างให้รัดกุมมากขึ้น ซึ่ง กฟผ. ยินดีรับคำแนะนำดังกล่าวและจะดำเนินการปรับปรุงระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างให้ดีขึ้น

หลังจากนี้ กฟผ. จะเร่งขุดขนถ่านหินให้ได้เต็มที่ตามขั้นตอน และมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะ และค่าบริการไฟฟ้าของประชาชนในระยะยาว

จากนี้ กฟผ. จะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อลงนามสัญญาว่าจ้างผู้ชนะการประมูล และจะเร่งดำเนินการในทุกสัญญาการขุดขนถ่านหินที่มีอยู่ ตลอดจนใช้สรรพกำลังของ กฟผ. ที่จะขุดขนถ่านหินให้ได้เต็มที่ เพื่อให้สามารถเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้เต็มกำลังและไม่ส่งผลกระทบต่อราคาค่าไฟประชาชนต่อไป