รัฐสูญรายได้ภาษี 5 หมื่นล้าน กระตุ้นลงทุนกองทุน "Thai ESGX"
คลัง คาดมาตรการใหม่ กระตุ้นลงทุน ผ่านกองทุน Thai ESGX ทำรัฐสูญเสียรายได้ภาษีสูงถึง 50,000 ล้านบาท แต่ช่วยรักษาเสถียรภาพตลาดทุนไทย ลดแรงขาย LTF และส่งเสริมการลงทุนยั่งยืน ด้าน ก.ล.ต. หนุนเป็นทางเลือกให้นักลงทุน คาดตลาดทุนไทยมีชีวิตชีวามากขึ้น
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า การจัดตั้งกองทุน Thai ESGX หรือ Thai ESG Extra Fund มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนที่ยั่งยืนและช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และการบริหารเงินลงทุนของผู้ลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) รวมถึงส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของไทย
อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งกองทุนดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้รัฐสูญรายได้ทางภาษีประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท แต่ช่วยรักษาเสถียรภาพตลาดทุนไทย ลดแรงขาย LTF และส่งเสริมการลงทุนยั่งยืน ด้าน ก.ล.ต. หนุนเป็นทางเลือกให้นักลงทุน คาดตลาดทุนไทยมีชีวิตชีวามากขึ้น
มาตรการดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้ถือ กองทุน LTF สามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนทั้งหมดไปยังกองทุน Thai ESGX เพื่อคงสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยต้องดำเนินการภายใน 2 เดือนแรกหลังเปิดกองทุน และต้องถือหน่วยลงทุน Thai ESGX อย่างน้อย 5 ปี
มาตรการดังกล่าวประเมินว่าจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75% ของ 1.8 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าราว 1.35 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่สมัครใจไปต่อ หรือโยกมาลงทุนใน Thai ESGX ส่วนกลุ่มที่เหลือจะเป็นกลุ่มที่ขายออกนำเงินไปทำอย่างอื่น
ตลท. มั่นใจช่วยลดแรงขาย LTF – พยุงตลาดหุ้น
นาย อัสสเดช คงสิริ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า มาตรการนี้จะช่วยชะลอแรงขาย LTF ซึ่งครบกำหนดการถือครองของนักลงทุนจำนวนมากในปีนี้ และช่วยลดการไหลออกของเงินทุนจากตลาดหุ้น
ตั้งแต่ต้นปี68 ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงประมาณ 14% ส่งผลให้มูลค่าตลาดลดลงเกือบ 200,000 ล้านบาท จากหลายปัจจัยรอบด้านที่เข้ามากระทบตลาดทุนค่อนข้างมาก ดังนั้นการผลักดันกองทุน Thai ESGX อาจช่วยลดแรงกดดันและทำให้ตลาดหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น
ตลท. ยังชี้ว่าแนวทางนี้สอดคล้องกับโครงการ Jump Plus ที่สนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนเพิ่มมูลค่าธุรกิจและดำเนินงานอย่างยั่งยืน
ก.ล.ต. แนะนักลงทุนอย่าเพิ่งขาย LTF – เตรียมเปิดแพลตฟอร์มเช็กกองทุน
นาง พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า มาตรการนี้เพื่อส่งเสริมการออมในการลงทุนระยะยาว และส่งเสริมในเรื่องผู้ระดมทุน ขณะเดียวกันมาตรการนี้จะชะลอแรงขาย LTF ได้บ้าง ขณะนี้เดียวกันมองว่า มาตรการดังกล่าวเป็นปัจจัยบวก ที่จะทำให้ ผู้ถือหน่วย LTF มีทางเลือก เป็นสิ่งที่ ทางเลือก ย่อมดีกว่าไม่มีทางเลือก ส่วนจะส่งผลกับหุ้นทุกตัวในตลาดหรือไม่นั้น การตั้ง ESG เป็นหุ้นที่ต้องผ่านเงื่อนไข ESG ซึ่งปัจจุบันมีหุ้นที่อยู่ในเกณฑ์ 240 กว่าตัว อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มหุ้นที่อยู่ในเกณฑ์ ESG เพิ่มเติม
แนะนำให้นักลงทุน อย่าเพิ่งขาย LTF หากต้องการใช้สิทธิ์สับเปลี่ยนไปยัง Thai ESGX เพราะหากขายออกไปแล้วจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากกองทุนใหม่
นอกจากนี้ ก.ล.ต. กำลังเตรียม แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้นักลงทุนสามารถตรวจสอบ ข้อมูล LTF ที่ถืออยู่ และศึกษาขั้นตอนการสับเปลี่ยนไปยังกองทุน Thai ESGX ได้สะดวกขึ้น
แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้นักลงทุนเช็กข้อมูลได้ง่ายขึ้น และสามารถตัดสินใจได้ทันก่อนกำหนดเวลาที่ภาครัฐกำหนด
สมาคม บลจ. มั่นใจตลาดทุนคึกคักขึ้น – เงินใหม่ไหลเข้า
นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กล่าวว่า มาตรการนี้ไม่เพียงช่วย หยุดการไหลออกของเงินทุนจาก LTF แต่ยังช่วย ดึงเงินลงทุนใหม่เข้าสู่ตลาดทุนไทย
เม็ดเงินใหม่ที่จะเข้ามาสู่ตลาดจากกองทุน Thai ESGX จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ตลาดหุ้นไทยมีความคึกคักมากขึ้น นักลงทุนที่ถือ LTF ควรตัดสินใจให้เร็ว เพื่อใช้สิทธิ์ทางภาษีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ มาตรการนี้จะมีผลทันทีหลังจากกระทรวงการคลังประกาศใช้ นักลงทุนที่สนใจควรตรวจสอบรายละเอียดและดำเนินการให้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนด


