คลังตัดออก เงื่อนไขมีเงินในบัญชี 50 ล้าน ปลดล็อกให้คนไทยเข้าเล่นกาสิโนได้
คลังรื้อ ร่างพ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ใหม่ ยกเลิกเงื่อนไขการมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาท เปิดทางให้คนไทยที่เสียภาษี 3 ปีติดกันสามารถเข้าเล่นกาสิโนได้ ยังคงเก็บค่าเข้าที่ 5,000 บาทตามเงื่อนไขเดิม
การกำหนดเงื่อนไขให้คนไทยที่ต้องการเข้าเล่นกาสิโน ต้องมีเงินในบัญชีไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงการเล่นกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย ตามเป็นนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้
แต่ล่าสุด รัฐบาลประกาศปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยสามารถเล่นกาสิโนได้ง่ายขึ้น และลดช่องว่างทางกฎหมายที่อาจทำให้เกิดการเล่นพนันผิดกฎหมาย
วันนี้ 3 มีนาคม 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และตัดสินใจยกเลิกเงื่อนไขที่กำหนดให้คนไทยที่จะเข้าเล่นในกาสิโนต้องมีเงินในบัญชีถึง 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่า เป็นอุปสรรคสำคัญต่อคนส่วนใหญ่
นายจุลพันธ์อธิบายว่า หลังจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า บัญชีที่มีเงินเกิน 50 ล้านบาทในประเทศไทยมีเพียงแค่ 10,000 บัญชีเท่านั้น ซึ่งการกำหนดเงื่อนไขเช่นนี้แทบจะไม่ส่งผลดีใดๆ ในการควบคุมการเล่นกาสิโนในประเทศ และอาจทำให้คนที่ต้องการเล่นต้องหันไปเล่นในต่างประเทศหรือเล่นพนันอย่างผิดกฎหมายแทน
ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงตัดสินใจที่จะปรับเงื่อนไขใหม่ โดยให้คนไทยที่ต้องการเล่นกาสิโนต้องแสดงหลักฐานการชำระภาษีย้อนหลัง 3 ปีติดกันแทนการมีเงินในบัญชีจำนวนมาก แต่ยังคงมีการเก็บค่าเข้าเล่นกาสิโนที่ 5,000 บาทตามเงื่อนไขเดิม เพื่อรักษามาตรฐานและการควบคุมภายใน
การปรับแก้ไขดังกล่าวถือเป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยที่มีรายได้อย่างมั่นคงสามารถเข้าถึงการเล่นกาสิโนในประเทศได้ง่ายขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดการเล่นพนันผิดกฎหมาย และอาจสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมากในอนาคต
โดยคาดว่า ร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจรฉบับแก้ไขนี้จะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็วๆ นี้ และจะได้รับการพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรตามขั้นตอน เพื่อให้คนไทยมีโอกาสเข้าถึงบริการกาสิโนอย่างถูกกฎหมายและปลอดภัย
ทั้งนี้ เงื่อนไขในร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจรเดิม กำหนดให้คนไทยที่ต้องการเข้าเล่นกาสิโนต้องมีเงินในบัญชีฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท และคงสถานะดังกล่าวติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน ถือเป็นข้อกำหนดที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยเฉพาะระหว่างกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมีความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องนี้
กฤษฎีกาให้ความสำคัญกับการป้องกันไม่ให้คนไทยติดการพนัน จึงมองว่าเงื่อนไขดังกล่าวเป็นการช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง แต่กระทรวงการคลังกลับมองว่า เงื่อนไขนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการเล่นพนันผิดกฎหมายได้ เนื่องจากมีเพียงประมาณ 10,000 บัญชีในประเทศ ที่สามารถเข้าเงื่อนไขนี้ได้เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอในการลดปัญหาการเล่นพนันผิดกฎหมายที่ยังคงเกิดขึ้น และอาจผลักดันให้คนไทยลักลอบไปเล่นพนันในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน
ด้วยเหตุนี้ทั้งสองฝ่ายจึงต้องมีการหารือร่วมกันเพื่อหาจุดสมดุลในการแก้ไขกฎหมายในประเด็นนี้ โดยมุ่งเน้นที่การเปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงการเล่นกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย แต่ยังคงมีการควบคุมเพื่อป้องกันปัญหาการพนันในระยะยาว


