รัฐบาลเดินหน้าปราบ "บริษัทผี" เพิ่มมาตรการเข้ม ป้องกันประชาชนถูกหลอก
รัฐบาลประกาศสงครามปราบ"บริษัทผี" ที่จดทะเบียนขึ้นมาเพื่อหลอกประชาชนในทุกรูปแบบ เดินหน้าเพิ่มมาตรการเข้มงวด
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการป้องกันนิติบุคคลที่จดทะเบียนโดยมีเจตนาที่จะใช้หลอกลวงประชาชน หรือที่เรียกว่า "บริษัทผี" โดยกระทรวงพาณิชย์มีเป้าหมายที่จะกำจัดนิติบุคคลเหล่านี้ให้หมดสิ้นไป
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการยกร่างคำสั่งนายทะเบียนกลาง เพื่อเรียกเอกสารเพิ่มเติมในกรณีที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งสำนักงาน เพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าของสถานที่ยินยอมให้ใช้เป็นสำนักงานนิติบุคคลจริง เช่น สัญญาเช่า หรือหนังสือยินยอมจากเจ้าบ้าน โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผ่านกระบวนการประชาพิจารณ์ตามกฎหมาย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังได้พัฒนาระบบตรวจสอบสถานที่ตั้งสำนักงานนิติบุคคล เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่าบ้านหรือที่อยู่ของตนเองถูกนำไปใช้เป็นที่ตั้งของนิติบุคคลหรือไม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์
หากประชาชนพบว่ามีการนำที่อยู่ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรืออีเมล [email protected] (เฉพาะกรุงเทพฯ) หรือสายด่วน 1570
กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังได้ร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการตรวจสอบสถานที่ตั้งนิติบุคคลตามที่ผู้ขอจดทะเบียนแจ้งไว้ โดยจะมีการปักหมุดและแสดงภาพถ่ายในรูปแบบแผนที่ Google Map เพื่อให้ตรวจสอบที่ตั้งบริษัทได้อย่างชัดเจน
หากพบว่านิติบุคคลมีที่ตั้งไม่ตรงกับที่แจ้งจดทะเบียน จะมีหมายเหตุในหนังสือรับรองว่า "ไม่มีสถานที่ตั้งจริง" เพื่อเตือนให้ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจด้วยระมัดระวัง และจะดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท นอกจากนี้ การแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานยังถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังเข้มงวดกับการจดทะเบียนของบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชี HR-03 ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หากบุคคลเหล่านี้มายื่นจดทะเบียนนิติบุคคล หรือแจ้งชื่อเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วนหรือกรรมการบริษัท จะต้องมาแสดงตน หากไม่มาจะไม่ได้รับการจดทะเบียน และจะส่งข้อมูลไปยังศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) เพื่อติดตามต่อไป
สำหรับกรณีที่มีนิติบุคคลใช้ที่อยู่เดียวกันในการจัดตั้งบริษัทหลายแห่งนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำลังพัฒนาระบบวิเคราะห์พฤติกรรมนิติบุคคล หรือ Intelligence Business Analytic System (IBAS) เพื่อรวบรวมข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนทั่วไป เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น


