1 ก.พ คิกออฟ มาตรการ Mobile Banking ตัดตอนโจรออนไลน์ - ปิดสวิตช์ 30 เม.ย.68
“ประเสริฐ” เผย 1 ก.พ.68 ชื่อเบอร์โทรศัพท์ไม่ตรงบัญชี Mobile Banking ปิดสวิตช์ 30 เม.ย.68 พบบัญชีเสี่ยงมิจฉาชีพ 2.4 ล้านเบอร์ แนะประชาชนที่ได้รับข้อความแจ้งเตือนผ่านแอปธนาคาร เร่งติดต่อผ่านศูนย์บริการมือถือ ย้ำไม่มีการแจ้งผ่าน SMS พร้อมดู 5 เงื่อนไขยกเว้นชื่อไม่ตรงบัญชี
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า กระทรวงดีอี เริ่มคิกออฟ มาตรการ “Mobile Banking” เร่งสกัด “บัญชีม้า” ตัดตอน “โจรออนไลน์” 1 ก.พ.2568 หากตรวจพบรายชื่อเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ไม่ตรงบัญชี Mobile Banking ประชาชนจะได้รับข้อความผ่านแอปพลิเคชันของแบงก์ เพื่อให้ประชาชนยืนยันตัวตันผ่านศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือ ภายในวันที่ 30 เม.ย. 2568
ทั้งนี้ หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด บริการ Mobile Banking อาจถูกระงับการใช้งาน ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับข้อความแจ้งเตือน ยังไม่ต้องดำเนินการแต่อย่างใด และข้อย้ำว่าธนาคารไม่มีการแจ้งเตือนผ่าน SMS โดยจะเริ่มทยอยแจ้งผ่านแอปพลิเคชันธนาคารระหว่างวันที่ 1-28 ก.พ.2568
สำหรับการ Cleaning Mobile Banking เพื่อให้ชื่อผู้ใช้งาน Mobile Banking ตรงกับชื่อเจ้าของซิมหมายเลขโทรศัพท์มือถือ โดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ,ค่ายมือถือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ,ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ และธนาคาร ได้ดำเนินการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์จำนวนกว่า 120 ล้านหมายเลข แล้วเสร็จเมื่อสิ้นเดือน พ.ย. 2567 และได้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
- กลุ่มที่ 1 ลูกค้าที่ ค่ายมือถือ แจ้งเป็น M (ชื่อเจ้าของซิม และ Mobile Banking ตรงกัน) มีจำนวนประมาณ 75.8 ล้านหมายเลข คิดเป็นร้อยละ 63.02
- กลุ่มที่ 2 ลูกค้าที่ ค่ายมือถือ แจ้งเป็น N (ชื่อเจ้าของซิม และ Mobile Banking ไม่ตรงกัน) มีจำนวนประมาณ 30.9 ล้านหมายเลข คิดเป็นร้อยละ 25.68
- กลุ่มที่ 3 ลูกค้าที่ ค่ายมือถือ แจ้งกลับมาเป็น P (ไม่พบชื่อเจ้าของซิม/ไม่มีข้อมูล) มีจำนวน 13.5 ล้านหมายเลข คิดเป็นร้อยละ 11.29
กลุ่ม P (ไม่พบชื่อเจ้าของซิม) กลุ่มลูกค้าที่เปิดบัญชีตั้งแต่ปี 2565 และเปิดใช้งาน Mobile Banking ก่อนปี 2566 ที่ตรวจสอบจากค่ายมือถือแล้ว แต่ไม่พบชื่อเจ้าของซิม ดำเนินการพร้อมกัน 2.4 ล้านเลขหมาย โดยกรณี หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ใช้ลงทะเบียนกับธนาคารมีข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ สามารถติดต่อศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือที่ใช้บริการด้วยตนเอง เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม กระทรวงดีอี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการพิจารณายกเว้น ในกลุ่มบุคคลดังต่อไปนี้
1.เบอร์มือถือที่จดทะเบียนในชื่อหน่วยงานราชการ (เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด) หรือองค์กรที่ใช้โดยพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ จะได้รับการพิจารณาเป็นข้อยกเว้น และไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามมาตรการนี้
2.ลูกค้าที่มีความจำเป็น หรือข้อจำกัดเฉพาะ เช่น ไม่สามารถเปลี่ยนเบอร์มือถือได้ เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมาย หรือเอกสาร สามารถยื่นคำขอยกเว้น พร้อมเอกสารประกอบแสดงเหตุผลต่อธนาคาร
3.กลุ่มบุคคลในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ บุตร พี่น้อง ปู่ ย่า ตายาย คู่สมรส (จดทะเบียน) โดยจะต้องแสดงเอกสารความสัมพันธ์ต่อธนาคาร ได้แก่ เอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น ทะเบียนบ้าน สูติบัตร ทะเบียนสมรส เป็นต้น และเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ เช่น ใบกำกับภาษี ใบเสร็จ ค่าโทรศัพท์
4.นิติบุคคล ได้แก่ บริษัทเอกชน หรือนิติบุคคลตามกฎหมาย (กรณีที่ลงทะเบียนในนามนิติบุคคล และให้พนักงานในองค์กรใช้งาน) จะต้องมีเอกสารรับรองจากบริษัท ที่มีข้อความระบุชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และอนุญาตให้ใช้เบอร์โทรศัพท์ผูก Mobile Banking
5.ผู้ที่ต้องได้รับความดูแลตามกฎหมาย ได้แก่ ผู้ไร้ความสามารถ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ และผู้พิการ จะต้องนำเอกสารตามคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้อนุบาล หรือเอกสารตามคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้พิทักษ์ บัตรผู้พิการ หรือเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้ มายื่นแสดงต่อธนาคาร


