posttoday

จุลพันธ์ เผย ไม่แจกเงินเฟส2 ไฮซีซั่น ชี้ ปลายปี คลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

01 ตุลาคม 2567

จุลพันธ์ แจงโอนเงินหมื่นไม่สำเร็จ 3.8 แสนราย ยังโอนซ้ำได้อีก 3 รอบ ระบุแจกเงินเฟส2 ไม่แจกช่วงไฮซีซั่น อ้าง มีแรงบวกทางเศรษฐกิจอยู่แล้ว แย้มปลายปี มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่กังวลปม ศักดิ์ศรี งัดโครงการเที่ยวด้วยกัน รัฐบาลก่อนมาใช้ ขอยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก

ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ว่า ขณะนี้ดำเนินการโอนครบถ้วน มีผู้ที่โอนไม่ผ่าน 380,000 ราย แต่ยังมีการโอนซ้ำ3รอบคือ วันที่ 22 ต.ค. 22 พ.ย. 22ธ.ค. จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกลุ่มผู้พิการยังค้างอยู่ประมาณ 8,829 ราย สาเหตุมาจากการทำบัตร กรมบัญชีกลางได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าบางส่วนแล้ว บางคนมีทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมีบัตรผู้พิการ จึงมีการเปลี่ยนช่องทางการโอนเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เงินถึงเรียบร้อย ส่วนผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการ 372,458 ราย เป็นกลุ่มที่ไม่มีบัญชีหรือบัญชีปิดไปแล้วทางธนาคารถือว่าบัญชีไม่มีการใช้เงินกว่า 20,000 ราย และกลุ่มใหญ่คือ ยังมีผู้ที่ไม่ผูกบัญชีพร้อมเพย์ด้วยก็เลยโอนเงินไม่ได้

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ผู้ที่ยังไม่ตรวจเช็คสิทธิ์สามารถตรวจเช็คสิทธิ์ตัวเองได้ในช่องทางรัฐจ่าย ขณะนี้เงินเข้าระบบไปแล้วประมาณ 141,000 ล้านบาท เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการคาดการณ์ในเบื้องต้นจะโต 3.5% ส่วนการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์นั้น ตอนนี้เราต้องคิดเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว ถ้ารออีก 3 เดือน อาจจะเกิดผลทางลบต่อภาวะการทางเศรษฐกิจ เชื่อว่าการปรับครั้งนี้เป็นการปรับให้ตรงกับผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง

ยอมรับว่ามีการใช้นอกเหนือจากสิ่งที่เราหวัง แต่เมื่อเทียบกับสัดส่วนคิดเป็นจำนวนน้อยมาก และนำเรื่องนี้มาเป็นปัญหาจนไม่สามารถเดินหน้าโครงการไม่ได้ ในเฟสถัดไปพยายามทำในรูปแบบดิจิทัล รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้เม็ดเงินตรงกับสิ่งที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ทั้งหมดให้ได้

เมื่อถามว่า เฟส2จะแจกเพียง 5,000 บาท นายจุลพันธ์กล่าวว่า ยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ ซึ่งต้องรอกลไกในการตั้งคณะกรรมการการประชุม และมีการมอบหมายงานเพื่อทำข้อสรุป และนำเสนออีกครั้ง ยังมีเวลาอยู่ และต้องรอผลการประชุมจากคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ
 

ถามว่า หากปรับเปลี่ยนรูปแบบ การกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นไปตามเป้าเดิมของรัฐบาลหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจลดไปตามสัดส่วน แต่เม็ดเงินที่เติมลงไปไม่ได้หายไปไหน ยังมีสภาพคล่องในระบบ หมุนเวียนแต่อาจจะมีการรั่วไหลบ้าง แต่เม็ดเงินจะเป็นตัวหมุนในระบบเศรษฐกิจโดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น ถัดจากนั้นจะต้องดูระยะเวลาที่เหมาะสมในการเติมเม็ดเงินลงไป อีกรอบ เพื่อเป็นแรงบวกในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม

ถามอีกว่าจะต้องเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ หรือ จะเก็บไว้เป็นไพ่เด็ด ช่วงโลซีซั่น เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวหรือไม่ นายจุลพันธ์ ตอบว่า ยังไม่สามารถกำหนดหรือให้คำตอบได้ ห่างจากเฟสแรกไปก็ไม่ดี เพราะจะเกิดแรงเฉื่อย ดังนั้น ต้องเติมเข้าไปในจังหวะเวลาที่เหมาะสม นอกจากนี้ส่วนในช่วงปลายปีจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆออกมา ตอนนี้กำลังคุยอยู่ แต่จะเป็นคนครึ่งหรือเที่ยวด้วยกัน ยังไม่ได้ข้อสรุป

ถามว่ ากังวลหรือไม่ว่าหากเป็นโครงการเหล่านี้จะกลายเป็นข้อครหาว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เพราะเคยวิจารณ์โครงการนี้ไว้เยอะ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ต้องดูตามภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจ จะเอาเรื่องพวกนั้นมาเป็นตัวตั้งไม่ได้ คงไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นอุปสรรค แต่จะดูสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด การจะเอาศักดิ์ศรีมา คงไม่ใช่ แต่ต้องเอาประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก

เมื่อถามว่าเวลานี้เศรษฐกิจจะดีปัจจัยอยู่ที่อะไร นายจุลพันธ์กล่าวว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้นอยู่ที่ความเชื่อมั่น และเสถียรภาพของรัฐบาล รวมถึงนโยบายที่มีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อถามว่า เงื่อนไขของโครงการที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลต่อการตั้งเป้าการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ลดลงไปตามสัดส่วนในแต่ละรอบ แต่เม็ดเงินที่เติมลงไป ไม่ได้หายไปไหน เป็นสภาพคล่องที่เติมเข้าไปในระบบเงินยังหมุนเวียนอยู่ภายใน และอาจมีการรั่วไหลบ้าง แต่ต้องดูเรื่องความเหมาะสมในการเติมเม็ดเงินเข้าไปในระบบ เพื่อส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนจะแจกในช่วงเทศกาลเพื่อการใช้เงินที่มากขึ้นหรือไม่นั้น ยังไม่ขอตอบ ต้องดูอีกที

ถามอีกว่า หากเฟส2ห่างออกไป จะส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ รมช.คลังกล่าวว่า ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเราแบ่งฝ่ายชัดเจนแล้ว เราต้องคำนวณในจุดที่มีความเหมาะสมที่สุด ห่างไปก็ไม่ดี เพราะจะเกิดจังหวะเฉื่อย ความเหมาะสมคือ ไม่ห่างกันเกินไปและชิดกันเกินไป เมื่อเงินเข้าไปแล้วไม่เกิดแรงบวกทางเศรษฐกิจ ช่วงไฮซีซั่น เกิดแรงบวกทางเศรษฐกิจอยู่แล้วจากภาวะอื่นๆ