posttoday

สุวิกรม อัมระนันทน์ หนุ่มวิศวะ ภาค สาระ-บันเทิง

22 มกราคม 2553

แม้ว่าจะไม่ได้ติดใจเขาในบทบาท นักแสดงหรือการร้องเพลง แต่อดชื่นชมความมั่นใจที่อ่านได้จากท่วงท่า วาจา และแววตาไม่ได้....

แม้ว่าจะไม่ได้ติดใจเขาในบทบาท นักแสดงหรือการร้องเพลง แต่อดชื่นชมความมั่นใจที่อ่านได้จากท่วงท่า วาจา และแววตาไม่ได้....

โดย...น้องสาวตัวร้าย

ดิฉันนั่งเน่า...เฉาใจ ระหว่างรอพบหน้าแขกรับเชิญคอลัมน์นี้ บริเวณหน้าอาคารเรียนรวม 5 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี บางมด

"ทำไมป่านนี้เขายังไม่มา..." ได้แต่ รำพึงในใจ

เราได้ยินเสียงเขาจากคลื่น "104.5 แฟต เรดิโอ" ทุกวันเสาร์ เวลา 20.00-22.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 11.00-15.00 น. เห็นเขาในรายการ "เจาะใจ" ช่อง 5 ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 22.30- 24.00 น. ทำหน้าที่พิธีกรรายการ หนึ่งวันเดียวกัน ช่องทีวีไทย ทุกวันอาทิตย์ เวลา 22.05 น. และสัมภาษณ์คนดัง รายการ ดิ ไอดอล ทางช่อง 9 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 23.30 น.

เขามาโน่นแล้ว เปอร์-สุวิกรม อัมระนันทน์ เดินปรี่ข้ามถนนมากล่าว ทักทายดิฉัน

แม้ว่าจะไม่ได้ติดใจเขาในบทบาท นักแสดงหรือการร้องเพลง แต่อดชื่นชมความมั่นใจที่อ่านได้จากท่วงท่า วาจา และแววตาไม่ได้ วันนี้จึงขอมาทำความรู้จักในมุม "นักศึกษา" ธรรมดาคนหนึ่ง

สุวิกรม อัมระนันทน์ หนุ่มวิศวะ ภาค สาระ-บันเทิง สุวิกรม อัมระนันทน์

"คุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผม เลือกเรียนวิศวกรรมศาสตร์อย่างมาก" เขาเฉลยหนึ่งในเหตุผลที่เลือกวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาโยธา สาขาโยธานานาชาติ ที่บางมด

"ตั้งแต่เด็กคุณพ่อตั้ง เล่าให้ฟังว่า บ้านหลังที่ครอบครัวอยู่ พ่อสร้างเองทั้งหลัง ทั้งที่ความจริง วิศวกรคงแค่คำนวณโครงสร้างเท่านั้น แต่พ่อทำงานในเชิงช่างได้ด้วย ผมเห็นทีวีพัง...พ่อก็ซ่อมได้ รถพัง พัดลมเสีย หลอดไฟดับ ประตูตก แท็งก์น้ำเสีย อะไรพังพ่อซ่อมได้หมด ไม่เคยเรียกช่างแม้แต่ครั้งเดียว...ผมว่าเท่ว่ะ (หัวเราะ) ผู้ชายคนหนึ่งที่สามารถดูแลบ้าน ครอบครัว เป็นพ่อบ้านที่ดี มันเท่มาก อยากเป็นแบบนั้นบ้าง"

"แหม...ดิฉันรับสมัคร พ่อบ้านอย่างคุณค่ะ อุปส์!" ได้แต่คิดในใจ

"อีกส่วนหนึ่งคือ กระบวนความคิดในแบบวิศวกรรม มันเป็นระบบระเบียบ ผมอยากในแนวความคิดนี้เพื่อไปทำงานอย่างอื่น ให้ตัวเองมีความรอบคอบ ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ว่ามันจะเกิดอะไรบ้าง และ ป้องกันอย่างไรได้บ้าง เพราะถ้าคุณ สร้างตึก สร้างสะพาน ถนน แล้วพัง ก็หายนะแน่นอน และอย่างที่บอก... คุณพ่อ (วุฒิพร อัมระนันทน์) เป็นวิศวกรโยธาอยู่แล้ว อาจจะเป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นเองโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ"

เปอร์เป็นลูกชายคนกลางของบ้าน พี่สาวและน้องชายอยู่ในวัยไม่ใกล้เคียงกันนัก แต่ทุกคนในบ้านรักกัน เขาไม่เคยฝันว่าจะเป็นโน่นนี่เหมือนเด็กคนอื่น หัวใจมุ่งมาทางวิศวะตั้งแต่แรกเริ่ม ทว่าเขาไม่ได้อยากเป็นวิศวกร

"ผมบอกทุกคนว่าผมอาจจะไม่เป็นวิศวกรโยธาก็ได้ เพียงแต่เอาแนวความคิดมาฝึกใช้กับชีวิตประจำวันที่ต่อยอดได้ มีคนเล่าให้ฟังตั้งแต่ยังไม่เข้ามหาวิทยาลัย เกิดผลดีหลายอย่าง เช่นว่า เจ้าของ ร้านเอ็มเค จบวิศวกรรม ที่จุฬาฯ (ฤทธิ์ ธีระโกเมน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์) เราสังเกตว่าทุกครั้งที่เราอยากสั่งอาหารหรือเติมน้ำชา ไม่ต้องเรียกพนักงาน เขามาบริการสะดวก รวดเร็ว แถมร้านดูทันสมัย ใช้พ็อกเกตพีซีรับออร์เดอร์ ทั้งหมดทั้งสิ้นถูกจัดการ โดยการวางระบบที่ดี ด้วยความคิดแบบวิศวกร

พนักงานเอ็มเคสามารถยกอาหารมาเสิร์ฟครั้งละมากๆ ด้วยคนคนเดียว เพราะเขามีถาดแบบคอนโดมิเนียม อันนั้นออกแบบโดยวิศวโยธาจริงๆ เลยนะ แทนที่จะใช้จาน ซึ่งซ้อนได้น้อย และที่เขาใช้พ็อกเกตพีซี ไฮโซ ไฮเทค ต้องลงทุนเยอะจัง ในความเป็นจริงแล้ว คุ้มค่า ระยะยาวเป็นการลดต้นทุนกระดาษในการจดสั่งอาหารในแต่ละสาขา ซึ่งมีมากมาย รวดเร็ว ประหยัดเวลา ลดจำนวนพนักงานได้

เขามีการซ้อมระบบกับพนักงานว่า ทุกๆ กี่นาทีต้องเดินวนรอบร้านอย่างไร ผ่านโต๊ะไหน วางระบบอย่างดี จุดนี้คือต้องพัก ต้องหยุด นั่นทำให้เอ็มเคประสบความสำเร็จอย่างมาก

ส่วนตัวผมวางตัวเองไว้ว่าจะทำธุรกิจส่วนตัวสักอย่าง ที่ผ่านมาที่บ้านไม่เคยกดดันว่าผมจะเป็นอะไร ไม่ว่าจะเรียนวิศวะ หรือทำงานในวงการบันเทิง ก็ขอให้เป็นคนดี"

สุวิกรม อัมระนันทน์ หนุ่มวิศวะ ภาค สาระ-บันเทิง

ชีวิตในมหาวิทยาลัยของหนุ่มคนนี้ไม่หวือหวาอย่างที่ดิฉันเดา เปอร์ไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนฝูงเลย เขาบอกว่าทำมาเยอะแล้วสมัยมัธยม และความสนใจในปัจจุบันของเขามุ่งไปที่การเรียน การทำงาน และสิ่งอื่นๆ มากกว่า ทุกวันของเขาจึงตั้งหน้าตั้งตาเรียน อ่านตำราตั้งโต ซึ่งเต็มไปด้วยภาษาอังกฤษ แต่เขาก็ขยันและพยายามมากพอที่จะลุย

"วิชาที่ผมถนัดคงเป็นภาษาอังกฤษ เรียนพิเศษตั้งแต่ป.3-ม.ปลาย แต่มันอาจจะไม่เกี่ยวกับวิศวกรรมเท่าไร ข้อได้เปรียบคือใช้อ่านหนังสือ ตำราได้มาก ถ้าจะให้คะแนนตัวเองในเรื่องการเรียน ผมว่า 3 เต็ม 4 นะ ส่วนที่หายไปคือเรื่องส่ง การบ้าน (หัวเราะ)

ชีวิตนักศึกษาก็คือ การศึกษาบางอย่างจากคนที่เขาเคยทำกันมาแล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือตัวคนเรียนต้องศึกษาค้นคว้าและสร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ พัฒนาชีวิตตัวเอง สิ่งที่จะมาบรรจุในตำราเป็นสิ่งที่มาจากคนรุ่นก่อนเสมอ คนเราอยากรู้อะไรเป็นอะไรก็ต้องเข้ามาเรียน ถ้ามหาวิทยาลัยไม่มีสิ่งที่ต้องการจะรู้ คุณก็ต้องหาต้องค้นคว้าเอง แต่ที่นี่มีอาจารย์ที่คอยสอนเราด้วยการเป็นแบบอย่าง และไม่ใช่แค่ให้วิชาที่เรียนอย่างเดียว"

คนนามสกุลเด่นอย่างเปอร์ สารภาพว่าต้องไม่ทำให้ชื่อเสียงบรรพบุรุษเสื่อมเสียเด็ดขาด

"ผมไม่กดดันนะ เรารู้สึกเสมอว่า บรรพบุรุษของเราสร้างชื่อเสียง ทำดีมากันหมด เราควรเป็นหนึ่งในนั้น รู้สึกภาคภูมิใจ มันท้าทายตรงที่ว่า เราจะทำได้ดีเสมอ หรือดีกว่านี้ไหม

ทุกวันนี้ยังไม่คิดว่าทำดีแล้ว ยังต้องทำให้ดีกว่านี้ พูดอย่างนี้ไม่ได้หลงชื่อเสียง ผมแค่อยากจะเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ทำอะไรก็ได้ที่จะทำประโยชน์ให้กับคนทั่วไป ทั้งตัวเราและคนอื่นด้วย

สิ่งที่ผมทำอยู่ในปัจจุบัน โชคดีและมีโอกาส และพยายามจะสานมันต่อไป ตอนที่ผมได้เป็นพิธีกรรู้สึกโชคดีมาก ได้พูดคุยเรื่องราวต่างๆ กับคนต่างๆ ได้รู้เท่าที่ผมรู้ ผมมีโอกาสได้ไปสัมผัส ศึกษา และรับฟังเรื่องมากมาย สิ่งที่ทำได้คือถ่ายทอดให้มากที่สุด ผมอยากทำให้ดีและมีประสิทธิภาพ ผมรู้อะไร ผมจะให้คนทางบ้านรู้ด้วย ผมไม่รู้อะไร ก็จะเรียนรู้ไปพร้อมกัน นี่คือจุดประสงค์

ผมก็เป็นเหมือนนักศึกษาคนอื่น เกือบ 4 ปีที่ผ่านมาทำหน้าที่คือตั้งใจเรียน เวลาว่างก็เล่นฟุตบอล กอล์ฟ หรือออกไปเจอเพื่อนตามสมควร ผมเป็นตัวผมอย่างไรตั้งแต่ก่อนจะเข้าวงการก็เป็นอย่างนั้นไม่เปลี่ยน บางทีคนชอบมองผมดีเกินกว่าที่ผมเป็น ความจริงผมก็คนธรรมดา

"นอกจากเป็นมนุษย์ธรรมดา แล้วยังอยู่ในทีวี" ดิฉันแย้งว่าเขาไม่ธรรมดา

"เสน่ห์ของผมอาจจะเป็นสิ่งที่บ้านปลูกฝัง ผมมีจรรยา ศีลธรรมในตัว คิดในแง่ดี ทำสิ่งที่ดี อาจจะไม่ดีทั้งหมด แต่พยายามเป็น เราอาจไม่ได้อยู่ในทุกกรอบ หรือดูเรียบร้อยเสมอ แต่ไม่ทำให้ใคร เดือดร้อน"

ดิฉันอึ้ง ทึ่งไปกับความคิดอ่านของหนุ่ม 21 หยกๆ คนนี้พักหนึ่ง ก่อนเขาจะเฉลยอะไรบางอย่าง

"ต้องขออภัยด้วยครับที่มาช้า...เมื่อกี้ไปช่วยคนหนึ่งเข็นรถที่ลานจอด" เขาบอกเหตุผลที่ทำให้ดิฉันเฉาในตอนต้น แต่ถึงตอนนี้ คุณก็คงสดชื่นขึ้นหลังจากได้รู้จักหนุ่มวิศวะ ในภาคสาระ-บันเทิงคนนี้

 

ข่าวล่าสุด

สธ. ปั้นนโยบายขึ้นทะเบียนยา ATMPs ‘เร็วที่สุดในอาเซียน’ ดัน 'Medical Economy'