เผ่าภูมิ ลั่นรัฐบาลเร่งเดินหน้าดึงดูดต่างชาติ หนุนเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง
เผ่าภูมิ เผยรัฐบาลใหม่ลุยสร้างความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย ชู เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอม-ไทยฮับการเงินภูมิภาค พร้อมดึงเม็ดเงินการลงทุนโดยตรง และตลาดหุ้นไทย
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Thailand Focus 204 ภายใต้หัวข้อ “ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง จุดพลังการเติบโต” ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงผงกหัวขึ้นมาแล้ว โดยคาดว่าปี 2567 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 2.3-2.8% ต่อปี เมื่อเศรษฐกิจไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น ทุกอย่างสะท้อนกลับมาที่ตลาดหลักทรัพย์ของไทยให้อยู่ในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะสร้างแรงดึงดูดนักลงทุนไทยและต่างประเทศ รวมถึงสร้างดึงดูดให้เศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศให้เลือกเข้ามาลงในตลาดหลักทรัพย์ของไทย คือ เติบโตอย่างความมีประสิทธิภาพ ความเชื่อมั่นของผู้นำรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานกํากับที่จะทําให้ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่น่าเชื่อถือ น่าดึงดูดในตลาดมีทิศทางที่สดใส และเป็นในเชิงบวก
ดังนั้นรัฐบาลจึงมีนโยบายดึงดูดการลงทุนเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยสร้างแรงจูงใจ ที่หลากหลายให้กับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้แสดงให้เห็นว่า มีการก่อตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้นมากถึง 64% ซึ่ง 63% นั้นเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และอุตสาหกรรมยานยนต์ ทำให้รัฐบาลเล็งเห็นถึงการจัดวางตำแหน่งประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมมูลค่าสูง (High-valued industry) ซึ่งรัฐบาลได้วางเป้าหมายจะสร้างนโยบายเพิ่มแรงจูงใจให้กับผู้ที่ต้องการลงทุนในไทย เพื่อที่จะจุดประกายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคในที่สุด โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยว เกษตรกรรม เศรษฐกิจดิจิทัล และการเงิน ด้วยมุ่งหวังที่จะให้ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการเงินระดับภูมิภาคในอนาคต
ในขณะเดียวกันนั้น รัฐบาลมีมาตรการหลากหลายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลงทุนทางการเงินที่มีพัฒนาการในหลายแง่มุม โดยเฉพาะธรรมาภิบาลที่ดีขึ้น ทำให้ผู้ลงทุนมองเห็นว่าประเทศไทยน่าลงทุนมากขึ้น หรือกองทุนวายุภักษ์ที่จะเปิดในปีนี้ เป็นมาตรการที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่รัฐบาลจะนำมาปัดฝุ่นใหม่ เราปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศไทยอยู่ในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมมูลค่าสูงและพลังงานสีเขียว ซึ่งภาคการท่องเที่ยวจะเป็นอุตสาหกรรมหลักของไทย โดยเฉพาะนโยบาย Entertainment Complex ที่เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้ เพราะจะเป็นการรวมความบันเทิงอันหลากหลาย เช่น Concert Halls และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ไว้ในสถานที่เดียว
“เม็ดเงินมันหมุนอยู่ในประเทศด้วยเงินก้อน ไม่ว่าจาะงบประมาณ หรือเงินลงทุนอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งมันก็วนวนอยู่ในอ่าง แนวคิดของเพื่อไทยก็คือแนวคิดของการที่จะดึงเม็ดเงินใหม่เข้ามาสู่ในประเทศ เช่น นโยบาย Entertainment Complex รวมถึงนโยบายเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ซี่งเรื่องนี้ต้องรอรัฐบาลใหม่แถลงความชัดเจนก่อน” นายเผ่าภูมิ กล่าว
การพัฒนาระบบเศรษฐกิจประเทศไทยให้หลากหลายเป็นความมุ่งหวังในการสร้างความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ซึ่งรัฐบาลยังมีการขยายโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง เช่น การขยายสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ การพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง และการเชื่อมต่อระหว่างชายฝั่งอันดามันและอ่าวไทยเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์แห่งการเชื่อมต่อระดับภูมิภาค
“หากมองไปในอนาคตข้างหน้าจะเห็นว่าไทยพร้อมแล้วที่จะเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค เรามีทั้งความยืดหยุ่น และการปรับตัวทางเศรษฐกิจในระดับสูง ทั้งนี้ขอเชิญชวนผู้ลงทุนทุกท่านให้มองหาโอกาสในการลงทุนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทางการเงิน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือการเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทที่มีศักยภาพในประเทศไทย เพื่อให้เราทุกคนเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน”นายเผ่าภูมิกล่าว


