คลัง ย้ำข้อมูลส่วนบุคคลไม่รั่ว-ล้วงเงินฝากผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ไม่ได้
คลัง การันตีแอปพลิเคชั่น "ทางรัฐ" มีความมั่นคง-ปลอดภัย100% เชื่อมต่อธนาคาร แต่ไม่สามารถสั่งเบิก-ถอน-โอนเงินจากบัญชีได้ ฟุ้งอิมพอร์ตทีมต่างชาติมาดูแลระบบป้องกันโจมตี-ล้วงข้อมูล
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.กระทรวงการคลัง กล่าวถึงกระแสข่าวการเตือน “อย่าเพิ่งลงทะเบียนรับสิทธิโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet” เนื่องจากมีความเสี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลในแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” รั่วไหล จนสร้างความกังวลว่า ข้อมูลจะตกอยู่ในมือของแก๊ง Call Center ว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องระบบรักษาความปลอดภัยของแอปฯ “ทางรัฐ” เป็นระบบมาตรฐานสากล โดยขณะนี้รัฐบาลมีทีมงานจากต่างประเทศที่มีความเชียวชาญสูง มาช่วยซัพพอร์ตระบบเพื่อป้องกันโจมตีระบบข้อมูล ดังนั้นจึงยืนยันว่า แอปฯ “ทางรัฐ” มีความมั่นคง และปลอดภัย100%
ในส่วนของมูลส่วนบุคคลของประชาชน ที่ลงทะเบียนในแอปฯ “ทางรัฐ” นั้น ไม่ใช่ข้อมูลใหม่ แต่เป็นข้อมูลพื้นฐานที่ภาครัฐมีอยู่แล้ว ขณะที่กลไกลการตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียนในประเด็นต่างๆ ของรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการฯ เช่น ข้อมูลด้านการชำระภาษีของสรรพากร ซึ่งยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ถือตัวเลข หรือข้อมูลที่มีความสุ่มเสี่ยงกับเลขบัญชี แต่เพียงส่งข้อมูลไปยังสรรพากรเพื่อสอบถามว่า บุคคลนั้นๆมีสิทธิเข้าโครงการตามเงื่อนไขหรือไม่ ซึ่งสรรพากรมีหน้าที่ตอบว่า "Yes" หรือ "No" เท่านั้น
นอกจากนี้ ในเรื่องของการเชื่อมต่อระบบการเงินของธนาคาร หรือระบบ Open-loop ตรงนี้ระบบธนาคารจะมาเชื่อมต่อกับระบบแอปฯ “ทางรัฐ” โดย แอปฯ “ทางรัฐ” ไม่สามารถส่งคำสั่งไปยังธนาคารให้ทำธุรกรรมการ เบิก ถอน หรือ โอนเงินออกจากบัญชีได้ และภาครัฐก็ไม่ได้มีอำนาจในการดำเนินการ หรือเปิดดูบัญชีการเงินส่วนบุคคลได้
“ยืนยันว่า แอปฯ “ทางรัฐ” มีความปลอดภัย 100% ไม่มีประตูเข้าไปสั่งให้เบิก ถอน และโอนเงินจากบัญชีเงินฝากได้แน่นอน เราเกี่ยวกับระบบธนาคารแค่เพียงตัวบัญชีการเปลี่ยนแปลงของตัว Wallet เท่านั้น การเชื่อมต่อระบบนี้มีข้อดีคือ เพิ่มความง่าย เพราะในอนาคตประชาชนจะเปิดบัญชีธนาคารในมือถือได้ ซึ่งหน้าจอจะแสดงแท็บใหม่ขึ้นมาว่า “Digital Wallet” ก็เท่านั้น โดยไม่ได้ไปยุ่งกับบัญชีธนาคารอย่างที่เข้าใจกัน ” นายจุลพันธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐได้มีการส่งการเชื่อมระบบจ่ายเงินดิจิทัลให้กับธนาคารพาณิชย์ นอนแบงก์ และกลุ่มธุรกิจ Wallet ต่างๆ ไปเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ถ้าระบบการเชื่อมต่อ “ทางรัฐ” ที่ส่งไปมีช่องโหว่ หรือมีความไม่ปลอดภัย สถาบันการเงินต่างๆ คงไม่มีทางเข้ามาร่วมโครงการฯ ที่สำคัญไม่มีธนาคารพาณิชย์ไหนเปิดให้เข้าระบบบัญชีเงินฝากของลูกค้าได้ขนาดนั้น เขาต้องระวังตัวเช่นกัน ขอให้มั่นใจว่า กลไกลที่รัฐบาลทำมีความปลอดภัยระดับสูงสุด คุณมั่นใจในการใช้แอปฯ ของธนาคารพาณิชย์เท่าใด แอปฯทางรัฐ ก็มีความปลอดภัยเท่านั้น
โดย ล่าสุด มีผู้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ รวมถึงกลุ่มนอนแบงก์ และผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจ Wallet ต่างๆ แสดงความสนใจเข้าร่วมเชื่อมระบบใช้จ่ายในโครงการฯแล้วจำนวน 14 ราย
นายจุลพันธ์ ยังกล่าวด้วยว่า คนที่สามารถใช้ประโยชน์จากแอปฯ “ทางรัฐ” ได้ ไม่ใช่เฉพาะคนที่เข้าโครงการ Digital Wallet เท่านั้น แต่ประชาชนที่ไม่ได้เข้าร่วมก็สามา รถโหลดใช้ "ทางรัฐ"ในมิติอื่นๆได้ เพราะเป็นบริการของภาครัฐที่มีมากกว่า 100 บริการ และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการให้บริการในแอปฯ “ทางรัฐ” จะเทียบเท่ากับการไปติดต่อกับราชการ เช่น ในอนาคตจะมีการให้โหลดใบขับขี่จากมือถือผ่านแอปฯทางรัฐได้ ซึ่งจะเท่ากับใบขับขี่จริง เพราะเราต้องการเดินหน้าสู่ e- Government จึงอยากรณรงค์ให้ประชาชนโหลดแอปฯ “ทางรัฐ” เพื่อรับบริการของภาครัฐให้มากขึ้น


