posttoday

ธอส.คาดสินเชื่อใหม่ปีนี้ทำได้ 2.42 แสนล้านบาท โชว์ผลงาน 4 เดือน 4.7 หมื่นล้าน

21 พฤษภาคม 2567

"วิทยา แสนภักดี" คาดการณ์ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2567 ทำได้ 242,544 ล้านบาท หลังจากสินเชื่อใหม่ 4 เดือนแรกของปีนี้ทำได้ 47,784 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,716,015 ล้านบาท พร้อมนโยบายสนับสนุนคนไทยมีที่อยู่อาศัย

     นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.คาดการณ์เป้าหมายสินเชื่อใหม่ปี 2567 แตะระดับ 242,544 ล้านบาท หลังจากยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 ทำได้ 37,282 บัญชี คิดเป็นวงเงิน 47,784 ล้านบาท หรือ 20% ของเป้าหมายปีนี้ โดยเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่ให้กับลูกค้าที่ต้องการวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางถึง 24,476 ราย และมีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,716,015 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.14% เมื่อเทียบ ณ สิ้นปี 2566 สินทรัพย์รวม 1,808,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.26% เงินฝากรวม 1,557,356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.08%

     โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีลูกค้าเลือกใช้บริการสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1.สินเชื่อบ้านลูกค้าสวัสดิการ ธอส. มียอดนิติกรรมสูงถึง 9,523 ล้านบาท 2.สินเชื่อบ้าน Happy Life มียอดนิติกรรมสูงถึง 7,607 ล้านบาท และ 3.โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2567 มียอดนิติกรรมสูงถึง  4,101 ล้านบาท

     ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) อยู่ที่ 5.63% ของยอดสินเชื่อรวม โดยมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 153,182 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 158.55% ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ระดับแข็งแกร่งที่ 15.30% สูงกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดที่ 8.5%

     “สินเชื่อใหม่ในช่วง 4 เดือนแรกที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ทั้งการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จาก 1% เหลือ 0.01% รวมถึงการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของธนาคารช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจยื่นขอสินเชื่อเพิ่มขึ้น” นายวิทยา กล่าว

     นอกจากนี้ ธอส.ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลังเพื่อสนับสนุนคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และประชาชนกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้สูงอายุ , ผู้พิการ และผู้ขาดโอกาสในด้านต่างๆให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น ด้วยการจัดทำสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำอย่างต่อเนื่อง อาทิ สินเชื่อบ้าน Happy Home สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เท่ากับ 3% ต่อปี ปัจจุบันมีลูกค้ารับรหัสเข้าร่วมโครงการ ผ่าน Mobile Application : GHB ALL GEN แล้ว จำนวน11,923 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 21,461 ล้านบาท และได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 4,741 ล้านบาท

     สินเชื่อบ้าน Happy Life สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 คงที่เท่ากับ1.95% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 2.98%) โดยธนาคารได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อแล้ว 10,250 ล้านบาท สินเชื่อบ้าน Mild Home สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคามากกว่า 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.90% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 2.90%) มีลูกค้าได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว 710 ล้านบาท

     โครงการสินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ อาทิ โครงการสินเชื่อ Senior Home 2U ปี 67 สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยจากผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3.00% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 3.42%) และโครงการสินเชื่อ Senior Home 4U ปี 67 สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอัตราดอกเบี้ยปีแรกเท่ากับ 2.90% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 3.30%)

     ขณะเดียวกัน ธอส.ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL ให้ยังคงรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ด้วยการจัดทำมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืนปี 67 ประกอบด้วย มาตรการ HD1 : สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1-3 จำนวน 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี

     และมาตรการ HD2 : สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 - 3 คำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90% +100 บาท และ มาตรการ HD3 สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ NPL ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 – 4 จำนวน 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี โดยปัจจุบันมีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการแล้ว จำนวน 25,798 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 29,966 ล้านบาท

     อย่างไรก็ดี ในปีนี้ ธอส.ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างระบบ Ecosystem ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น อาทิ โครงการ Resale Home Ecosystem : การร่วมมือกับพันธมิตรในการขยายฐานสินเชื่อ มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าบ้านมือสอง, โครงการ Green Loan ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในการขยายฐานสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

     อีกทั้งยังร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาล และกระทรวงการคลังในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อาทิ โครงการสนับสนุนผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)ให้เข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย และโครงการสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์กรมุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน