posttoday

ฮั่วเซ่งเฮงคาดทองโลกจ่อ3,000ดอลลาร์ชี้สงครามระอุดันราคาร้อนแรง

15 เมษายน 2567

ฮั่วเซ่งเฮงมองราคาทองโลกอาจพุ่งเหนือ 2,500 ไปจ่อถึง 3,000 ดอลลาร์ได้ ด้วยแรงซื้อเดือดมาก หลังสงครามโดยตรงระหว่างอิหร่านและอิสราเอลระอุขึ้น ย้ำให้ติดตามสถานการณ์ตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด

ฮั่วเซ่งเฮงมองสถานการณ์ทองคำสัปดาห์นี้ว่า ด้วยทองคำยังคงมีแรงซื้ออย่างแข็งแกร่ง แม้จะเผชิญแรงเทขายออกมาบ้าง แต่ทุกครั้งที่มีแรงขายออกมา ก็จะมีแรงซื้อกลับที่ค่อนข้างแข็งแกร่งกว่า แม้เงินดอลลาร์จะแข็งค่า แต่ไม่ได้กระทบต่อราคาทองคำเท่าไหร่นัก ซึ่ง ณ ตอนนี้คาดว่าประเด็นหลักที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำในสัปดาห์นี้ นั่นคือ แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งล่าสุดอิหร่านส่งโดรนโจมตีอิสราเอลหลายสิบลำ เปิดปฎิบัติการโจมตีทางอากาศ โดยก่อนหน้านี้กองกำลังพิทักษ์การปฎิวัติอิหร่านยึดเรือสินค้าเกี่ยวข้องกับระบบไซออนิสต์ที่มีความเชื่อมโยงกับอิสราเอลได้ ซึ่งใกล้บริเวณช่องแคบฮอร์มุส ซึ่งเป็นน่านน้ำสำคัญต่อการค้าโลก ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการตอบโต้อิสราเอลตามที่เคยประกาศไว้หรือไม่?

อย่างไรก็ตาม การโจมตีจากอิหร่านนั้นอาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะทำให้สงครามบานปลายมากขึ้น ซึ่งอาจจะไม่ใช่สงครามตัวแทน (Proxy war) อีกต่อไป อาจจะนำไปสู่สงครามโดยตรง (Direct war) ซึ่งอาจมีความเสี่ยงที่สหรัฐเข้ามาร่วมวงเพื่อสนับสนุนอิสราเอลด้วยเช่นกัน ดังนั้นในเมื่ออิสราเอลเป็นฝ่ายโจมตีสถานกงสุลของอิหร่านก่อนแล้ว การกระทำของอิหร่านในครั้งนี้ ก็น่าจะเป็นการตอบโต้ที่พอสมควร หากเป็นไปในลักษณะนี้ สถานการณ์ก็น่าจะไม่ลุกลามรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งกรณีที่สหรัฐหรืออิสราเอลเลือกที่จะโจมตีไปยังกลุ่มก่อการร้ายหรือกลุ่มที่มองได้ว่าเป็นพันธมิตรของอิหร่าน แต่ไม่ได้โจมตีอิหร่านโดยตรง กรณีนี้ ผลกระทบก็น่าจะรุนแรงน้อยกว่าการที่อิสราเอลหรือสหรัฐเปิดฉากโจมตีโดยตรงไปยังอิหร่าน

สำหรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น หากเกิดสงครามโดยตรง (Direct war) จะส่งผลต่อความเสี่ยงอย่างรุนแรงในตลาดการเงิน น้ำมันที่พุ่งสูงอาจทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นอีก 1.2% มีโอกาสที่ทำให้เงินเฟ้อโลกอยู่ที่ 6.7% ในปีนี้ ส่วน GDP ทั่วโลกลดลง 1% ส่งผลให้ GDP โลกเหลือเพียง 1.7% ซึ่งเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทั้งนี้การที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัญหาในตะวันออกกลาง อาจส่งผลต่อเงินเฟ้อ และอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐไม่สามารถปรับลดดอกเบี้ยลงได้ตามที่นักลงทุนเคยประเมินไว้

นอกจากนี้จะมีแรงซื้อทองคำอย่างแข็งแกร่งมาก อาจดันราคาทองคำพุ่งไม่หยุดไปสู่ All-Time High ใหม่อีกครั้ง หากสงครามมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยรูปแบบการเคลื่อนไหวทางเทคนิคในลักษณะถ้วยกาแฟ (Cup & Handle) ที่ประเมินได้ว่าราคาทองคำโลกมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นไปสูงกว่า 2,500 ดอลลาร์ หรืออาจจะไปสูงสุดใกล้ๆ 3,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว

ฮั่วเซ่งเฮงคาดทองโลกจ่อ3,000ดอลลาร์ชี้สงครามระอุดันราคาร้อนแรง

ปัจจัยรองลงมาในสัปดาห์นี้ คือการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นปัจจัยหลักมาตลอด ณ ตอนนี้ตลาดเริ่มปรับเปลี่ยนมุมมองโดยคาดการณ์ว่าเฟดจะเลื่อนการปรับลดดอกเบี้ยออกไป จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ซึ่ง ณ ตอนนี้มีแนวโน้มที่เฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในช่วงเดือนก.ค. หรือไม่ก็ช่วงเดือนก.ย. นอกจากนี้คาดว่าเฟดจะเหลือลดดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ จากเดิม 3 ครั้ง

ขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำตลอดมา โดยปี 2565-2566 ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำมากกว่า 1,000 ตันต่อปี ซึ่งปีนี้ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเดินหน้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้จีนเข้าซื้อทองคำมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ถือว่าเป็นการเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน รองลงมาก็จะเป็นตุรกี และอินเดียตามมาเป็นอันดับ 3

สัปดาห์ก่อนราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทำ All-Time High อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปรับตัวขึ้นระดับสูงสุดที่ 2,431 ดอลลาร์ ซึ่งราคาทองคำยังคงยก High และ Low ขึ้นต่อเนื่อง แม้จะเกิดแรงเทขายแรงในช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่ปรับตัวขึ้น และอาจมีแรงซื้อเข้ามาอย่างแข็งแกร่ง หากยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสงคราม อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มผ่อนคลายลง อาจมีแรงเทขายออกมาเช่นกัน โดยสัปดาห์นี้ติดตามสถานการณ์ตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด

ด้านผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 15 – 19 เม.ย. 67 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำระบุว่า 14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 7 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 29% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 362 ราย ในจำนวนนี้มี 233 ราย หรือเทียบเป็น 65% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 77 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 52 ราย หรือเทียบเป็น 14% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

สถานการณ์ราคาทองคำ

ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 40,350 – 41,400 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 40,750 บาท ต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น 500 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 40,250 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1. สถานการณ์ในตะวันออกกลาง สัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำยังคงทำสถิติแตะระดับสูงสุดใหม่ จากแรงซื้อของธนาคารกลาง และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางอาจทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หลังอิหร่านปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่ออิสราเอล เพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรีย

2. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดค้าปลีก, ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน, ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดขายบ้านมือสอง และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

3. ปัจจัยทางเศรษฐกิจของประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคของเดือน มีนาคม 2567 ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่ 1/2567 ของญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก และตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

ฮั่วเซ่งเฮงคาดทองโลกจ่อ3,000ดอลลาร์ชี้สงครามระอุดันราคาร้อนแรง