posttoday

สุภาวดี เสนอภาครัฐ ขยายสมาร์ทซิตี้ ไปจังหวัดขนาดกลาง-เล็ก

20 พฤศจิกายน 2566

สุภาวดี นายกสมาคมผู้ใช้ดิจิทัล เสนอ ภาครัฐ ขยายเพิ่ม สมาร์ทซิตี้นอกจาก 7 เมืองนำร่อง ไปยังกลุ่มจังหวัดขนาดเล็ก ขนาดกลาง มีอัตลักษณ์เฉพาะ แนะ จัดสรรงบประมาณให้เพียงพอดำเนินโครงการ วอน รัฐ รับฟังความคิดเห็นเด็ก อยากเห็นเมืองเป็นรูปแบบใด เปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วม

นางสาวสุภาวดี ตันติยานนท์ นายกสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย กล่าวเสวนาในหัวข้อ การผลักดันไทยสู่ Smart City ว่า ส่วนตัวอยากเห็นความเจริญออกไปในเมืองที่ไม่ใช่เมืองใหญ่ๆ เช่น ในเมืองรอง เมืองขนาดเล็ก อยากให้มองแผนการสร้างเมืองระยะยาว มองไปถึงด้านงบประมาณที่จะจัดสรรลงไป เชื่อว่า ในโครงการมีการวางแผนไว้ดีมาก แต่อาจจะไม่มีเงินทุนไปสนับสนุน นอกจากนี้ถ้ามีโครงการออกมา อยากให้ไปสอบถามเด็กอนุบาล ประถม มหาวิทยาลัย อยากเห็นเมือง อยากสร้างเมืองเป็นอย่างไร โดยให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมด้วย

ในแง่ของโครงสร้างพื้นฐาน เราไม่ได้เป็นรองกว่าใคร เรื่องโซเชียลมีเดีย ก็อยู่ในระดับต้นๆของโลก แต่อยากเห็นทั้งการสร้างสรรค์และพัฒนาร่วมกัน เพื่อทำให้แข็งแรงขึ้น สมาร์ทซิตี้ จะเกิดขึ้นได้ นอกจากจะต้องมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ แล้วยังต้องบูรณาการร่วมกันกับเทคโนโลยี มองไปถึงเรื่องต่างๆทั้ง การบริหารจัดการเมือง บริหารจัดการน้ำ

ผู้ดำเนินรายการถามว่า นอกจากกทม. มีเมืองไหนที่สามารถผลักดันเป็นสมาร์ท ซิตี้ได้ นางสาวสุภาวดีกล่าวว่า นอกจาก 7 เมืองที่อยู่ในแผนการดำเนินงาน ขอให้เลือกอีก2เมือง อาจจะเป็นจังหวัดในระดับกลางๆ เช่น นครศรีธรรมราช จังหวัดเล็กๆ เช่น แม่ฮ่องสอน หรือเมืองรอง เช่น จันทบุรี ที่อาจเป็นแผนแม่บทได้ โดยมองไปในเมืองที่มีเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม เกษตรกรรม อุตสาหกรรมที่ควรมาเสริม หากนำเมืองรองหรือ เมืองเล็กๆ มาด้วย ถ้าทำขึ้นมาอาจเป็นแผนแม่บท เป็นตัวอย่างให้ต่างประเทศ เปิดโอกาสให้คนในเมืองมีส่วนร่วมและนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสม

นางสาวสุภาวดีกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลควรผลักดัน รัฐบาลควรฟังเสียงประชาชน คนที่อยู่ในเมืองควรฟังเขา แล้วนำจุดตรงนั้นนำกลับเข้าไปในเมือง ที่บอกว่า สมาร์ทซิตี้ ทำไมไม่สมาร์ท อาจเป็นเพราะ งบประมาณมีจำกัด ในการวางแผนการทำงาน ไม่อยากให้มองว่า เพียงแค่ Launch โปรเจคนี้แล้วจบไป แต่ภาครัฐที่จะมาส่งเสริม ช่วยมองให้ครบ เพราะการสร้างเมืองอาจไม่เกิดแค่ 3-5ปี แต่อาจเป็น 10-20-30 ปี ไม่เช่นนั้น เราอาจมีเทคโนโลยี หรือ เอไอ ที่ดีที่สุด แต่ทำได้สัก5ปีแล้ว งบหมด เราก็ไปไหนไม่ได้ 

ถ้าจะให้คะแนน สมาร์ทซิตี้ สำหรับกทม. ต้องบอกว่า โครงสร้างพื้นฐานมีครบ อาจจะเกินไปด้วย แต่ขณะเดียวกันเกิดช่องว่างระหว่างความเหลื่อมล้ำสูงมาก คนที่ไม่มีโอกาสเข้าไม่ถึงยังมี การเชื่อมโยงของความเป็นสมาร์ทซิตี้ ต้องมีความเชื่อมโยง ถ้าให้คะแนนเต็ม10 ขอให้ 7 คือไม่ได้ดีเลิศ แต่ ก็ไม่ได้แย่ ขอให้กำลังใจสำหรับทีมทำงาน คนกทม.มีหลายกลุ่มทั้งเกิด เติบโต หรือเข้ามาทำงานในกทม. การบริหารเมืองอาจที่มีคนอยู่ 2 ดิจิท อาจจะยาก เราลองวางแผนที่เชื่อมโยงกัน หากกทม.ทำให้คนในเมืองมีส่วนร่วม อยากคิดมาช่วยกันสร้างเมือง กทม.อาจพาตัวเองไปอีกรูปแบบ