posttoday

ครม. เคาะ 2 มาตรการช่วยเหลือชาวนา เช็ครายละเอียดที่นี่

07 พฤศจิกายน 2566

ครม.อนุมัติ 2 มาตรการ ผ่านโครงการให้สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี 5 เดือน รับซื้อตันละ 12,000 บาท พร้อมค่าเก็บรักษา 1,500 บาท และให้สถาบันการเกษตร รับซื้อ 12,200 บาท แบ่งกำไรชาวนา 300 บาท พร้อมเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท 20 ไร่ คาดแล้วเสร็จภายใน 1-2 สัปดาห์

นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายชัยวัชรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงข่าว มติ ครม. ว่าด้วยมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ซึ่งวันนี้คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการ เกี่ยวกับการช่วยชาวนา 

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้ราคาตลาดรับซื้อต่ำกว่าราคาที่เป็นธรรมประมาณ 10,000 กว่าบาท ดังนั้นกระทรวงเกษตรร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ จึงได้มีแนวคิดในการแทรกแซงราคาการตลาดโดย ใช้โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ให้สถาบันเกษตรและเกษตรกรที่มียุ้งฉางของตัวเองเก็บข้าวเปลือกไว้ก่อนห้าเดือนหากราคายังไม่ดีหรือถูกกดอย่าพึ่งอย่าพึ่งขาย ซึ่งรัฐบาลจะให้สินเชื่อโดยราคาข้าวเปลือกหอมมะลิความชื้น 25% ตันละ 12,000 บาทและให้ค่าเก็บรักษาคุณภาพภายในห้าเดือนตันละ 1500 บาท หรือหากชาวนาต้องนำเข้าไปฝากที่สหกรณ์ช่วยเก็บให้รัฐบาลจะแบ่งให้สหกรณ์ 1000 บาทและชาวนาได้ 500 บาท โดยมีเป้าหมาย 3,000,000 ตัน 

 

โครงการที่สองคือโครงการให้สินเชื่อเพื่อให้สถาบันการเกษตรเข้าไปซื้อแข่งกับราคาการตลาด ในราคา 12,200 บาทและเมื่อขายได้มีกำไรจะต้องแบ่งให้ชาวนาอีก 300 บาทโดยมีเป้าหมาย 1,000,000 ตัน ซึ่งทั้งสองโครงการใช้งบประมาณ 10,600 ล้านบาท และเป็นสินเชื่ออีก 44,437 ล้านบาท 

 

ขณะที่นายภูมิธรรมชี้แจงเกี่ยวกับโครงการ ให้เงินช่วยเหลือชาวไร่ละ 1,000 บาท 20 ไร่ ว่าอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันระหว่าง 3 กระทรวง โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์จะเป็นฝ่ายหาเงินเพื่อมาดำเนินการโครงการนี้ แต่เงินที่ช่วยไร่ละ 1000 บาท ยังติดปัญหาแต่ยืนยันว่า เรื่องนี้รัฐบาลเป็นห่วงชาวไร่ชาวนา ซึ่งการใช้มาตรการในปีนี้ใช้มาตรการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้แก่เกษตรกร ก็จะยังดำเนินการให้ค่าชดเชยแต่ขอพิจารณาพิจารณาในคณะกรรมการข้าวเพื่อลงรายละเอียดก่อนและเมื่อมีมติก็จะดำเนินการตามนั้น อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะต้องอธิบายให้คณะกรรมการเข้าได้รับทราบเรื่องเงินช่วยเหลือไร่ละ 1000 บาท 20 ไร่ และหากมีมติจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทันที 

 

ด้าน นายจุลพันธุ์ ยืนยันว่าทั้งสองโครงการจะสามารถดูดปริมาณข้าวออกจากตลาดได้ประมาณ 4,000,000 ตันซึ่งมีความมั่นใจว่าจะมีผลกับราคาข้าวอย่างมีนัยยะสำคัญในการประคองไม่ให้ราคาลงไป
 

 

แต่อย่างไรก็ตามกลไกในการนำเข้าสู่รัฐบาลซึ่งเป็นรัฐบาลมายังไม่ถึงสองเดือน ก็ไม่ได้ละเลยและรับฟังประเด็นปัญหาจากพี่น้องเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขั้นตอนที่จะต้องผ่านคณะกรรมการเข้าแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีคาดว่าเร็วสุดน่าจะเป็นภายในสัปดาห์หน้าและจะเรียบร้อยภายในหนึ่งถึงสองสัปดาห์ในส่วนของค่าบริหารจัดการข้าว 1000 บาทต่อไร่ โดยใช้กลไกของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เป็นหลักซึ่งมีความพร้อมจึงมีความมั่นใจได้

ข่าวล่าสุด

สินค้าจีนทะลัก กดดัน OEM พลิกธุรกิจสร้างแบรนด์รองเท้าสุขภาพ “Talon”