ดีป้า จับมือ แอสตร้าเซนเนก้า ต่อยอด AI ตรวจคัดกรองมะเร็งปอดเบื้องต้น
ดีป้า จับมือ แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) ยกระดับระบบสาธารณสุขไทย ต่อยอดการนำเทคโนโลยี AI ตรวจคัดกรองมะเร็งปอดเบื้องต้น ขยายผลสู่การตรวจคัดกรองมะเร็งชนิดอื่น เพื่อให้บริการประชาชนเป็นของขวัญปีใหม่ เล็งส่งโอกาสสู่พื้นที่ห่างไกล
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า การขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบกับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น และการเกิดขึ้นของโรคอุบัติใหม่ล้วนเป็นปัจจัยท้าทายระบบสาธารณสุขไทยในปัจจุบัน อีกทั้งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
หลังจากการเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ทำให้ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูประบบสาธารณสุขเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกันการมาถึงของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลง โดยรัฐบาลเล็งเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี AI ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับระบบการทำงานเพื่อลดทอนเวลาและขั้นตอนต่าง ๆ รวมถึงค่าใช้จ่าย เพิ่มความถูกต้องแม่นยำ ซึ่งจะนำไปสู่การขับเคลื่อนระบบสุขภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนไทย
กระทรวงดีอี มีความตั้งใจที่จะบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในการขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิติด้านสุขภาพผ่านการดำเนินงานของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) โดยมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลด้านสุขภาพและการดูแลรักษาโรคร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรอย่างเป็นรูปธรรม เชื่อมโยงไปสู่การส่งเสริมกลไกช่วยเหลือดิจิทัลสตาร์ทอัพด้านดิจิทัลและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
เพื่อให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล องค์ความรู้ ตลอดจนโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ รวมถึงการสร้างความตระหนักในวงกว้างเกี่ยวกับการดูแลรักษาโรคด้วยดิจิทัล ซึ่งรัฐบาลตั้งใจที่จะดำเนินการอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการลงนามความร่วมมือระหว่าง ดีป้า และ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้โดยแท้จริง (AI for Action) อีกทั้งเป็นประโยชน์อย่างมากกับประชาชน เพราะจะช่วยให้ประชาชนตระหนักถึงการป้องกันและการดูแลสุขภาพได้อย่างทันท่วงทีด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการตรวจวินิจฉัยมะเร็ง โดยการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ตรวจคัดกรองมะเร็งปอดระยะเริ่มต้นนับเป็นหนึ่งในของขวัญปีใหม่จากกระทรวง
ด้านนายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า เมื่อปี 2564 ดีป้า ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) เป็นครั้งแรกในการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อสุขภาพ (Digital Healthcare) โดยมีผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ ทั้งการเปิดตัวโครงการนำร่อง ‘ตรวจไว สู้ภัยมะเร็งปอด’ ร่วมกับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว โดยการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ตรวจคัดกรองมะเร็งปอดระยะเริ่มต้นในผู้ป่วยกว่า 10,000 ราย
รวมถึงการบูรณาการการทำงานกับสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยในการพัฒนา ‘Asthma Excellence’ แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโรคหืด ซึ่งที่ผ่านมามีบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศกว่า 3,000 รายนำแอปพลิเคชันดังกล่าวมาใช้อำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับความร่วมมือ Accelerate the Development and Delivery of Digital Healthcare in Thailand เพื่อส่งเสริมการนำนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อสุขภาพมาใช้ยกระดับระบบสาธารณสุขในประเทศไทยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อยอดการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ตรวจคัดกรองมะเร็งปอดเบื้องต้น และขยายผลไปสู่การตรวจคัดกรองมะเร็งและวินิจฉัยโรคประเภทอื่น ซึ่งมีเป้าหมายที่จะดำเนินการร่วมกับโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อให้บริการประชาชนกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ และขยายโอกาสการให้บริการในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงโรงพยาบาลที่มีความจำเป็นต้องลดต้นทุนการให้บริการตรวจสุขภาพ
ด้าน นายโรมัน รามอส ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ Accelerate the Development and Delivery of Digital Healthcare in Thailand ในครั้งนี้จะเป็นการสานต่อความร่วมมือในโครงการ Don’t Wait. Get Checked. 2.0 ที่ดำเนินการร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของการตรวจคัดกรองมะเร็งปอดในระยะเริ่มต้นด้วยเทคโนโลยี AI ในเครือข่ายโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และลดอัตราการเสียชีวิต
รวมถึงการขยายขอบเขตการทำงานไปสู่หน่วยงานภาครัฐในระดับจังหวัดหรือภูมิภาค เพื่อพัฒนาการใช้เทคโนโลยี AI ในผู้ป่วยมะเร็งชนิดอื่น อาทิ มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งรังไข่ เป็นต้น ต่อไป


