posttoday

ธพว. จัดทัพนักธุรกิจ แนะช่องทางเอสเอ็มอีไทย บุกตลาดตะวันออกกลาง

18 กรกฎาคม 2566

ผอ.ส่งเสริมการค้าฯ เมืองดูไบ ชี้ ยูเออี มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดี มีนโยบาย และโลจิสติกส์เหมาะลงทุน ด้านผู้ประกอบการ แนะลงทุนในบารห์เรน-ดูไบ ต้องเริ่มจากธุรกิจขนาดเล็ก ต้องศึกษา-เข้าใจวัฒนธรรมก่อนลงทุน ขณะที่ สกินแฮร์ สมุนไพร เครื่องหอม เป็นสินค้ามีโอกาสสูง

นายปิติชัย รัตนนาคะ ผู้อำนวยการส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) กล่าวในงานสัมมนา MIDDLE EAST GATWAY เปิดประตูสู่โลกการค้าตะวันออกลาง ซึ่งจัดโดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ว่า มีคำถามว่า ทำไม่นักลงทุนจำนวนไม่น้อย ถึงมุ่งหน้าไปที่เมืองดูไบ นั่นเพราะการทำธุรกิจที่ดูไบ ซึ่งอยู่ในสหรัฐอาหรบเอมิเรตส์สามารถทำได้ง่าย ผู้ประกอบการต่างประเทศสามารถเจ้าของบริษัทได้ 100% ด้วยเงินทุนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทไม่ถึง 1 แสนบาทก็สามารถจัดตั้งบริษทที่นี่ได้แล้ว โดยดูไบจะมีหน่วยงานที่คอยสนับสนุนอย่างดี และมีการจัดโซนให้นักลงทุนต่างประเทศสามารถตั้งออฟฟิสได้ รวมทั้งมีอัตราภาษีหลายตัว ที่ได้รับการยกเว้น นอกจากนี้ด้วยภูมิศาสตร์ของดูไบ ถือว่า เป็นจุดศูนย์กลางของโลก มีจำนวนประชากรกว่า 10 ล้านคน และถือเป็น ศูนย์กลางทางภูมิภาคที่น่าสนใจลงทุน ในปี 2566 คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี จะอยู่ที่ 3.2% ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่ดี

 

ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาหลังโควิด ยูเออี สามารถพลิกฟื้นตัวเองขึ้นมาได้เป็นอย่างรวดเร็ว เพราะประเทศเขามีแหล่งท่องเที่ยว มีธุรกิจบริการจำนวนมาก หากพลิกฟื้นตัวได้เร็วจะทำให้ธุรกิจในประเทศกลับมาอยู่ได้ และมาถึงปี 2566 ธุรกิจตอนนี้ถือว่า สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังเป็นประเทศที่มีหลายปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุน โดยเฉพาะโครงสร้างด้านโลจิสติกส์ที่สมบูรณ์เอื้อต่อการทำการค้า 
 

 

“สิ่งที่ทำให้สหรัฐเอมิเรตส์ เป็นฮับทางการค้าได้ เพราะเขามีสนามบินใหญ่เป็นอันดับ 1 ในตะวันอออกกลาง ในเรื่องของการขนส่ง และคาร์โก้ เกือบล้านตัน และกำลังสร้างสนามบินขึ้นใหม่ที่เมืองอาบูดาบี คาดว่าจะแล้วเสร็จใช้ได้อย่างเป็นทางการภายใน 2 ปี ส่วนไฟล์บินรองรับประมาณ 10 กว่าไฟล์ต่อวัน นอกจากนี้ ยูเออี ยังมีท่าเรือที่ใหญ่อันดับที่ 11 ของโลกถือว่าเป็นที่เอื้อต่อการทำการค้าอย่างมาก” 

 

สำหรับ สินค้าสำคัญ ที่ไทยส่งออกไป UAE ได้แก่ รถยนต์ส่วนประกอบ 22% อัญมณีและเครื่องประดับ 10% เครื่องปรับอากาศ 8% ไม้ 7% และคอมพิเตอร์และส่วนประกอบ 4% นอกจากนี้สินค้า อาหาร และอาหารทะเลแปรรูป 3-4% ถือว่ามีทิศทางที่เป็นบวกมีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง เป็นต้น

 

ด้านนายวรภัทร์ คุณวิเศษพงษ์ เจ้าของธุรกิจ Siam Secret Cosmetic และ Madam TukTuk Food ในบารห์เรนกว่า 5 ปี กล่าวว่า บาร์เรนยังมีนโยบายที่เอื้อการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ทั้ง กฎหมาย อัตราภาษี หรือการอำนวยความสะดวกด้านศุลกากรต่างๆ หรือการแก้ไขปัญหาให้กับนักลงทุนค่อนข้างดี โดยขนาดธุรกิจ ถือเป็นขนาดที่เหมาะสมในการทำธุรกิจในบาร์เรน คือ ธุรกิจที่มีขนาดเล็ก เนื่องจากบาร์เรนเป็นประเทศที่มีขนาดไม่ใหญ่ การลงทุนที่มีขนาดที่เล็กจึงเหมาะกับการเริ่มต้น 

สำหรับสินค้าที่มีอากาสในบาร์ห์เรน ได้แก่ สินค้าประเภทสกินแฮร์ กสินแคร์ บอดี้แคร์ สมุนไพร ต่างๆ และผลิตที่มีความหอม เช่น เครื่องหอมในสปา จนไปถึงยาดม ยาหม่อง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของสินค้าไทย ที่สินค้าบาร์ห์เรนไม่มี

 

สำหรับหัวใจในการดูแลธุรกิจในบาร์เรนให้อยู่ได้นาน คือ เจ้าของผลิตภัณฑ์ต้องไปดูแลสินค้าด้วยตัวเอง หรือมีตัวแทนคอยในการดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคนบาร์เรนต้องการ พูดคุยแบบเห็นหน้า ไม่นิยมคุยธุรกิจผ่านอีเมล์ หรือช่องทางออนไหนต่างๆ  ซึ่งถือเป็นลักษณะเฉพาะของคนที่นั่น ดังนั้นต้องศึกษา ที่สำคัญต้องตั้งราคาสินค้าไม่แพงจับต้องได้ หรือต้องตั้งราคาไม่แรงเกินราคาสินค้าจากยุโรป ที่เป็นสินค้าแบรนด์เนม 

 

 

“อยากฝากนักลงทุนหน้าใหม่ หากสนในไปลงทุนที่บาร์เรน ต้องถามตัวเองว่าอยากเริ่มที่ก้าวแรก หรือก้าวกระโดด แต่อยากให้เริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็กก่อน ที่สำคัญต้องศึกษาข้อมูลตลาดให้มากๆ  เพราะเนเจอร์ของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน พยามเข้าใจและยอมรับวัฒนะธรรมเข้าให้ได้ ซึ่งเป็นทุกที่ไม่ว่าจะไปลงทุนในประเทศใด เช่น คนที่นี่ยังมีลักษณะเฉพาะต้องเรียนรู้ การติดต่อสื่อสารผ่านอีเมล์ที่นี่ไม่นิยม แต่ที่นี่ต้องการเห็นหน้ากับเจ้าของธุรกิจ หรือ ลักษณะความชอบในรสชาติอาหาร หากเราต้องการทำตลาดสินค้าอาหารที่นี่ ” นายวรภัทร์ กล่าว

 

ทั้งนี้ อยากฝากถึงรัฐ ให้การสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีไทยให้มากขึ้น เช่น หาตลาดใหม่ๆ สนับสนุนสินเชื่อ หรือ สนับสนุนค่าขนส่ง ภาษี เหมือนต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยสามารถไปลงทุนในต่างแดนได้ง่ายขึ้น 

 

นางธนียา ตีรวัฒน์ เจ้าของธุรกิจขอนำเข้าสินค้า ค้าปลีก-ส่ง ในดูไบ กว่า 20 ปี กล่าวว่า ปัจจุบันสินค้าที่เข้าไปในตลาดูไบมีจำนวนมาก แต่ยังมีช่องว่างอีกมากที่ให้สินค้าไทยเข้าทำตลาด โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภค อาหาร สกินแคร์ กลุ่มสมุนไพร และสินค้าเพื่อสุขภาพ แต่การขยายธุรกิจไปในตะวันออกลาง ต้องศึกษาตลาดในแต่ละที่ โดยเฉพาะตลาดในตะวันออกกลางจะไม่เหมือนกัน เซ่น ซาอุ คูเวต และกาต้า จะมีลักษณะใกล้เคียงกัน เพราะเขามีประชากรที่คนพื้นเมืองครึ่งหนึ่ง มีต่างชาติอยู่ครึ่งหนึ่ง 

 

“ตลาดในดูไบจึงค่อยข้างอ่อนไหว เป็นไปตามเทรนด์โลก ผู้ที่จะมาทำตลาดจะต้องเร็ว จับกระแสยาก และการทำโปรโมชั่นต้องแรง และ ต้องมีความอดทนและรอคอย ไม่ใช่ทุกสินค้าเข้าไปจะประสบความสำเร็จ บางสินค้าต้องใช้เวลานานกว่าจะเป็นที่ยอมรับ แต่เมื่อติดตลาดแล้วจะอยู่ไปได้นาน” นางธนียา กล่าว


 

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด การท่าเรือ พบ ทรู แบงค็อก ช้าง เอฟเอ คัพ วันนี้ 21 ธ.ค.68