จับตา เงินเฟ้ออาร์เจนติน่า หลังพุ่งเกิน 100% สูงสุดในรอบ 32 ปี
ดร.กอบศักดิ ชี้วิฤกตเงินเฟ้ออาร์เจนตินา ทะลุ 100% กดดันธนาคารกลางต้องขึ้นดอกเบี้ย 81% เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ หลังธนาคารกลางและรัฐบาลละเลย จนเศรษฐกิจดิ่งสู่หายนะ แนะจับตา เพราะไม่ใช่ประเทศเล็กๆ ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ถึงสถานการณ์เงินเฟ้อ ในประเทศอาร์เจนตินา ว่า เงินเฟ้ออาร์เจนตินา ทะลุ 100% ครั้งแรกนับแต่ปี 1991 กดดันให้ธนาคารกลางต้องขึ้นดอกเบี้ยไปที่ 81% จากที่เคยอยู่ประมาณ 35% ในช่วงปี 2021 หรือเพิ่มขึ้น +46%
ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความแห้งแล้งที่เกิดขึ้นและไข้หวัดนก ส่งผลให้การผลิตภาคเกษตรลดลงมาก กระทบต่อราคาพืชผล และเนื้อสัตว์ กระทบการส่งออก ขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นสูงเป็นเดือนละ 1.1 พันล้านดอลลาร์ เงินสำรองลดลงต่อเนื่อง ค่าเงินเปโซของอาร์เจนติน่าในตลาดมืดอ่อนยวบ ล่าสุดอยู่ที่ 438 เปโซต่อดอลลาร์ เทียบกับอัตราทางการที่ 218 เปโซต่อดอลลาร์
ทั้งหมดนี้ เป็นผลจากปัญหาที่สะสมมา จากการที่ธนาคารกลาง และรัฐบาลไม่เอาจริงเรื่องเงินเฟ้อ ปล่อยให้กลายเป็นปัญหาเรื้อรัง กลายเป็นความเปราะบางของเศรษฐกิจเมื่อมีปัญหามาเพิ่ม ก็ลุกลามได้ง่าย มาลุ้นกันต่อไปว่า จะเป็นอย่างไรต่อไปครับ เพราะอาร์เจนติน่าไม่ใช่ประเทศเล็กๆ ในกลุ่ม Emerging Market
ทั้งนี้ ทิศทางอัตราเงินเฟ้อโลกยังคงอยู่ในระดับสูง ยังเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก แม้ขณะนี้เงินเฟ้อโลกได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว และเริ่มชะลอลงในปีนี้ เหตุผลหนึ่งมาจาก ราคาสินค้ายังอยู่ในระดับสูง โดยปี 2565 เงินเฟ้อโลกอยู่ที่ 8.8% แปลว่าสินค้าเพิ่มขึ้นไป 8.8% จากปีก่อน และปีนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประมาณการณ์ว่า ราคาสินค้าจะเพิ่มไปอีก 6.5% แม้เพิ่มขึ้นไม่มาก แต่ยังเพิ่มขึ้นอยู่
เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่ ขณะนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป หรือ Headline Inflation ที่ กระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศออกมา ในเดือนมี.ค.2566 อยู่ที่ 2.83% ทำให้เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมา (เม.ย.65 - มี.ค.66) อยู่ที่ 5.86% สูงกว่าขอบบนของกรอบเป้าหมายนโยบายการเงินในปัจจุบัน คือ 1.3% ซึ่งเป็น กรอบเป้าหมายการเงินด้านเสถียรภาพ ราคาสำหรับระยะปานกลาง และเป็นเป้าหมายสำหรับปี 2566
ส่งผลให้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยผู้ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องทำจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงสาเหตุเงินเฟ้อหลุดเป้าหมาย โดยสรุปปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย คือ แรงกดดันเงินเฟ้อด้านการใช้จ่ายที่อาจสูงขึ้นกว่าที่คาด หากท่องเที่ยวดีกว่าที่คาด และการทยอยลดมาตรการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศ
นอกจากนี้ในหนังสือเปิดผนึกยังได้ระบุว่า นโยบายการเงินมีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคาควบคู่กับดูแลให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการทยอยการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายยังมีความเหมาะสม ขณะที่มาตรการเร่งรัดการแก้ไขปัญหาหนี้ของกลุ่มเปราะบางอย่างยั่งยืน และมาตรการเร่งรัดการปรับโครงสร้างหนี้
สำหรับกลุ่มทั่วไปยังมีความจำเป็น เพื่อดูแลเสถียรภาพของระบบการเงินไม่ให้เป็นปัจจัยฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป และคาดว่าเงินเฟ้อจะสามารถเข้ากรอบได้ในไตรมาส 2/2566