posttoday

ศุภพงษ์ กิติวัฒนศักดิ์ ขับเคลื่อน MuvMi แก้รถติดในกทม. คู่ดูแลโลก

31 มีนาคม 2566

ถอดแนวคิด ศุภพงษ์ กิติวัฒนศักดิ์ ผู้ขับเคลื่อน MuvMi สตาร์ทอัพ สร้าง app เรียกรถตุ๊กตุ๊ก ที่มาช่วยแก้รถติดในกทม. ควบคู่กับการทำให้อากาศสะอาดขึ้น สู่จุดหมาย “การเดินทางที่ดี”

ศุภพงษ์ กิติวัฒนศักดิ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษาฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ของ MuvMi เปิดเผยถึงที่มาของการก่อตั้งกิจการสตาร์ทอัพ ที่พัฒนาแพลตฟอร์มเรียกรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าว่า เริ่มจากกลุ่มเพื่อนสนิท คือ ตัวเขา ดร. กฤษดา กฤตยากีรณ และพิพัฒน์ ตั้งศิริไพศาล 

ที่มองเห็นปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ที่เรื้อรังมาเป็นเวลานาน น่าจะแก้ไขได้ด้วยการลดจำนวนรถบนท้องถนนและทำให้คนเดินทางขนส่งสาธารณะมากขึ้น ดังนั้นจึงควรต้องพัฒนาบริการที่จะเป็นทางเลือกให้คนมีการเดินทางที่ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว

ศุภพงษ์ กิติวัฒนศักดิ์  ขับเคลื่อน MuvMi  แก้รถติดในกทม. คู่ดูแลโลก

หลังตกผลึกทางความคิดแล้ว บริการของ MuvMi จึงเลือกใช้รถตุ๊กตุ๊กพลังงานไฟฟ้ามาตอบโจทย์ ในแง่การเดินทางด้วยรถขนาดเล็กที่คล่องตัวกว่าพาหนะประเภทอื่น  เนื่องจากมองว่าเหมาะสมกับสภาพท้องถนนในกรุงเทพฯ ที่มีตรอกซอกซอยซับซ้อนมากมาย  และขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ

ศุภพงษ์ ยังขยายความถึงแนวคิดที่เลือกใช้รถตุ๊กตุ๊กพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติมอีกว่ามาจาก 3 มิติ หนึ่งคือสามารถออกแบบรถที่นั่งได้ 7 คนแต่ยังมีขนาดเล็กอยู่ สองคือใช้พลังงานไฟฟ้าจะช่วยประหยัดต้นทุนในการทำธุรกิจ ด้วยปัจจัยที่มองว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้จริง ตัวรถที่ใช้ต้องสามารถควบคุมเรื่องแหล่งพลังงานหรือมีหลาย ๆ ทางเลือกให้ใช้ สามคือความยั่งยืนที่ต้องไม่เป็นต้นตอของการสร้างมลภาวะในอากาศ

เช่นเดียวกับที่เลือกปรับโฉมรถตุ๊กตุ๊กที่นำมาบริการให้แตกต่าง เพื่อให้นอกจากนั่งได้มากขึ้นแล้ว ยังปรับให้พื้นรถต่ำลงกว่ารถตุ๊กตุ๊กดั้งเดิม จึงช่วยให้ทั้งคนสูงอายุและผู้หญิงที่่ใส่กระโปรงสั้น ขึ้นลงรถสะดวกปลอดภัย รวมถึงยังออกแบบให้ไม่พลิกคว่ำง่ายจึงเดินทางปลอดภัยขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามในระยะยาวบริษัทก็มีโครงการที่จะเปลี่ยนให้หน้าตาดูทันสมัยหรือแตกต่างกว่านี้อีก โดยยังคงต้องคุมต้นทุนการผลิตให้อยู่ในระดับเดิม 

เรามีความตั้งใจว่าจะทำเซอร์วิสของเราให้ทุกคนเข้าถึงได้ ซึ่งถ้าแพงเกินไป แล้วคนต้องใช้ทุกวัน ก็อาจจะไม่ตรงกับเป้าหมายของเรา

สำหรับรูปแบบการให้บริการ จะเน้นพัฒนาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนไทยในชุมชนต่าง ๆ ที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ถึง 90% อีกส่วนคือคนต่างชาติและนักท่องเที่ยวที่ใช้ชีวิตในกรุงเพทฯ อีก 10%

โดยผู้ใช้งานที่มีความถี่สูงส่วนใหญ่จะอยู่ในย่านกลางเมือง เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อารีย์ สุขุมวิท รัตนโกสินทร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พหลโยธิน เป็นต้น นอกจากนี้พบว่ากลุ่มคนที่นิยมใช้บริการยังมีผู้สูงอายุและคนที่เดินทางกับสัตว์เลี้ยง ขณะที่ช่วงต่างชาติที่เรียกใช้บ่อยเป็นอันดับต้น ๆ คือชาวญี่ปุ่นและเยอรมัน

ศุภพงษ์ กิติวัฒนศักดิ์  ขับเคลื่อน MuvMi  แก้รถติดในกทม. คู่ดูแลโลก

ศุภพงษ์ยังเล่าอีกว่า เหตุผลหลัก ๆ ที่คนเลือกใช้บริการของ MuvMi มาจากมาตรฐานด้านบริการ ที่ถือว่าเป็น hassle free หรือชื่อมั่นว่าสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยไม่มีอะไรที่มาทำให้ต้องตกใจหรือกังวล เช่นเดียวกับมีการกำหนดราคาเป็นมาตรฐานและชัดเจน ทำให้ลูกค้ารู้ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า จึงสามารถตัดสินใจได้ก่อนเดินทางว่าถูกหรือแพง ตลอดจนชำระค่าเดินทางได้สะดวกไม่ต้องเตรียมเงินสด

ส่วนเป้าหมายการขยายธุรกิจของ MuvMi นั้น ศุภพงษ์ เล่าว่าในปีนี้จะผลิตรถออกมาอีกราว 1,000 คัน เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการใช้งานในเมืองก่อน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องรอรถนาน หลังจากนั้นจึงค่อยขยายพื้นที่ให้บริการให้กว้างขึ้นตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า

ปัญหารถติด นอกจากทำให้คนเดินทางอย่างไม่มีประสิทธิภาพแล้ว ค่าใช้จ่ายก็มากขึ้น เสียเวลาในชีวิตมากขึ้นในการเดินทาง สร้างมลภาวะต่อชุมชน ถ้าทุกคนร่วมกันแก้ปัญหานี้ได้ทั้งในด้านพัฒนาบริการและการใช้งาน ก็จะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพทางการค้าขายและพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองได้

ทั้งนี้จุดแตกต่างที่สำคัญของบริการ MuvMi คือระบบ Ride Sharing โดยใช้เทคโนโลยีของระบบหลังบ้าน มาบริหารจัดการให้ผู้โดยสารที่เดินทางไปยังจุดหมายเดียวกันสามารถเดินทางร่วมกันในรถคนเดียวกันได้ โดยที่จะกำหนดเส้นทางที่ไม่ทำให้ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ต้องเสียเวลาหรือขับอ้อม

แต่หากไม่อยากเดินทางร่วมก็สามารถเลือก No Sharing เป็นแบบเหมาสำหรับเดินทางคนเดียวเท่านั้นก็ได้ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่สูงมาก นอกจากนี้พนักงานขับรถยังเป็นการจ้างแบบประจำ เพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพบริการและความปลอดภัยตามที่วางไว้ได้

ความท้าทายของการสร้าง MuvMi
จุดท้าทายสูงสุดในมุมมองของศุภพงษ์ ที่กว่าจะสร้างให้ MuvMi เดินทางมาถึงวันนี้นั้น คือ ด้วยธุรกิจเกี่ยวข้องกับการเดินทางที่อยู่บนท้องถนน ซึ่งต้องไปเกี่ยวข้องกับทั้งคนและองค์กรหลากหลายรูปแบบ จึงจำเป็นต้องให้ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งแตกต่างกันอย่างมากเหล่านี้ มีความเข้าใจต่อบทบบาทและธุรกิจของบริษัทว่า มีเป้าหมายที่การสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสังคม ทั้งนี้เมื่อผู้คนเริ่มรู้จักและคุ้นเคยมากขึ้นก็ให้การตอบรับที่ดี จนคืบหน้าไปถึงขั้นกลายมาเป็นพันธมิตรในการทำธรุกิจร่วมกัน 

หลังจากผ่านมาได้ระยะหนึ่ง จนเกิดเป็นการช่วยเหลือจุนเจือกันไป ซึ่งก็จะทำให้หลาย ๆ ข้อจำกัด หลาย ๆ ความท้าทาย กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แต่ก็เข้าใจได้ว่าบางทีความไม่รู้ก็ทำให้คนตั้งกำแพงใจกันไว้ก่อน แต่พอเราทำความเข้าใจกับเขาได้ ก็ทำให้สามารถผ่านสิ่งนั้นไปได้ อันนี้ผมว่าเป็นความท้าทายสุด

สำหรับจุดหมายสำคัญ ที่ผู้ก่อตั้งต้องการขับเคลื่อน MuvMi ให้ไปถึงคือ “อยากให้คนมีการเดินทางที่ดี” เพราะการเดินทางเป็นพื้นฐานในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ซึ่งหากมีการเดินทางที่ดีได้แล้วย่อมทำให้ผู้คนมีอิสระในการใช้ชีวิต ถือว่าเราเป็นหนึ่งใน solution การเดินทางในอนาคต ที่ประกอบด้วยความรู้ รถ เทคโนโลยี และคนขับ ที่จะช่วยให้การดำเนินชีวิตของผู้คนดีขึ้น 

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68