posttoday

เอไอเอสเปิดแผนปี 66 สร้างการเติบโตเศรษฐกิจแบบร่วมกัน

29 มีนาคม 2566

สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ด้วยการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีความอัจฉริยะ ยันดีล 3BB ไร้ปัญหา ช่วยทำให้เอไอเอสเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ในตลาดบรอดแบนด์

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2566 ว่า มีเป้าหมายมุ่งสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจแบบร่วมกัน หรือ ECOSYSTEM ECONOMY ที่วันนี้ เอไอเอส มองการเติบโตของทุกภาคส่วนร่วมกันทั้ง ECOSYSTEM ทำให้โครงข่ายสื่อสารต้องมีความสามารถใหม่ๆ ที่มีความพร้อมที่จะเอื้อต่อการเติบโตของระบบนิเวศทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน ทั้งในเรื่องของเน็ตเวิร์คที่ต้องมีความ Interactive หรือสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าตลอดเวลา สามารถสร้างรูปแบบบริการเฉพาะบุคคลแบบ Personalization ของลูกค้าได้อย่างตรงใจ

และมีความรวดเร็วสามารถตอบสนองในระดับ Real Time เพื่อให้เท่าทันทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งการใช้เทคโนโลยี Autonomous Network Monitoring เข้ามาการตรวจเช็คปริมาณการใช้งานของลูกค้าแบบ Realtime เพื่อให้สามารถจัดสรรCapacity ของเน็ตเวิร์คให้กับลูกค้าได้แบบอัตโนมัติ หรือแม้แต่งานบริการดูแลลูกค้าแบบ Intelligent Service ที่มีการนำ AI เข้ามาเป็นตัวช่วยตรวจสอบ ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาอัจฉริยะแบบ Smart Diagnostics

โดยวันนี้ เอไอเอส ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ด้วยการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีความอัจฉริยะ (Digital Intelligence Infrastructure) ด้วยการถือครองคลื่นความถี่มากที่สุด ครบทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง รวมกว่า 1460 MHz  รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ  NT เพื่อร่วมกันพัฒนา Digital Infrastructure ของให้ประเทศให้มีความแข็งแกร่ง สามารถใช้คลื่นความถี่ที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไทยตามความตั้งใจของทั้งสององค์กรที่ได้ประมูลมารวมถึงจะทำให้ NT เป็นองค์กรโทรคมนาคมแห่งชาติสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในขณะที่ลูกค้าเอไอเอสจะได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้น จากการมีคลื่น 700 MHz เพิ่มขึ้นอีก 10 MHz (Downlink 5 MHz และ Uplink 5 MHz) ทำให้ เอไอเอส มีคลื่น 700 MHz รวมเป็น 40 MHz (Downlink 20 MHz และ Uplink 20 MHz) ซึ่งจะทำให้ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ

นอกจากนี้ในส่วนของ 5G SA (Stand Alone) ซึ่งมีความสามารถในการช่วยประหยัดพลังงาน โดยเอไอเอส เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่สามารถเปิดให้บริการได้ครบทั้ง 77 จังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตพื้นที่เศรษฐกิจ EEC ที่ครอบคลุมกว่า 92% ล่าสุดยกระดับการให้บริการที่รองรับ Millimeter Wave ในย่านความถี่สูงเป็นครั้งแรก ประกาศศักยภาพความเร็วแรงทะลุมาตรฐาน 5G ที่ 3Gbps บนเครือข่าย 5G Millimeter Wave ย่าน 26 GHz รายแรก รายเดียวในไทย ผ่านสมาร์ทโฟนระดับโลก 

รวมไปถึงโครงข่ายเน็ตบ้านที่วันนี้ AIS Fibre เข้าถึงทุกพื้นที่ทั่วไทยกว่า 8.8 ล้านครัวเรือน และครองส่วนแบ่งตลาดในเชิงของผู้ใช้งานกว่า 16% โดยล่าสุดได้มีการสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยเทคโนโลยีระดับโลกล่าสุด กับสายไฟเบอร์ออฟติกโปร่งใส (Transparent Fiber Optic) เชื่อมโยงอุปกรณ์กระจายสัญญาณและสร้างโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับ Gigabit ทุกห้องภายในบ้านบนโครงข่ายเดียวกัน พร้อมเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟแบบไร้รอยต่อ(Seamless Roaming) เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดทุกพื้นที่ในบ้าน

พร้อมยกระดับภาคอุตสาหกรรมผ่านบริการ AIS PARAGON  (Next Generation Orchestration Platform) ที่จะเป็นเสมือน 5G One Stop Platform ให้ภาคอุตสาหกรรมช่วยบริหารจัดการ resources ผ่าน Cloud และ Edge Computing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยอีกหนึ่งโครงสร้างพื้นฐานอย่าง  Green Data Center ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และจะเป็น Data Center ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ 

นอกจากนี้นายสมชัย ยังเน้นย้ำถึงการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทุกภาคส่วนข้ามอุตสาหกรรมแบบ Cross Industry ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับโลกเพื่อสร้างการเติบโตร่วมกัน โดยในปีนี้เรายังคงทำงานร่วมกับร้านค้าถุงเงิน ร้านธงฟ้า ร้านค้ารายย่อย โชว์ห่วย ร้านสตรีทฟู้ด รวมกว่า 1.8 ล้านร้านค้าทั่วประเทศ ผ่านโครงการพอยท์เพย์ จากธนาคารกรุงไทย รวมถึงการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการธุรกิจค้าปลีกชั้นนำของไทยอย่าง เครือเซ็นทรัล

รวมถึงร้านค้าแบรนด์ดังจากทั่วประเทศรวมมากกว่า 20,000 ร้านค้า เพื่อเป็นการขับเคลื่อนและสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก ให้ลูกค้าสามารถนำ AIS Points มาแลกรับสิทธิพิเศษได้อย่างมากมายทั้ง กิน เที่ยว ช้อปปิ้ง ในขณะเดียวกันก็ได้ทำงานร่วมกับธนาคารกรุงเทพเพื่อส่งมอบบริการทางการเงินอย่าง บัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแง่ของการสะสมคะแนนจากพาร์ทเนอร์นอกเหนือจากการใช้บริการของเอไอเอสพร้อมขยายการช้อปปิ้งออนไลน์ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล

นอกจากนี้เอไอเอสยังทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกเพื่อส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น SAMSUNG ที่ร่วมกันมอบความพิเศษกับการใช้งานเน็ตบ้านพร้อมสมาร์ททีวีตอบโจทย์การใช้งานด้านความบันเทิงในบ้านอย่างครบถ้วน,  ZTE กับแท็บเล็ตสามมิติ Nubia Pad 3D ที่ทำงานด้วยเทคโนโลยี AI รุ่นแรกของโลกสามารถทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การจำลองภาพเสมือนจริงทั้ง การสื่อสาร สตรีมมิ่ง และการเล่นเกม รวมถึงการแชร์ข้อมูลในรูปแบบ 3 มิติโดยไม่ต้องสวมอุปกรณ์เสริม หรือแม้แต่การนำเสนอบริการทางการเงินร่วมกับสถาบันทางการเงิน อย่าง UOB กับบริการ UOB Best Buy เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงการใช้งานจากสมาร์ทโฟน 5G ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

ที่พิเศษกว่านั้นคือการก้าวข้ามขีดจำกัด เดินหน้าผนึกกำลังร่วมกับพาร์ทเนอร์ในกลุ่ม Content Provider ทั้งระดับประเทศและระดับโลกมาให้คนไทยได้ได้รับชมสุดยอดคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็น Disney+ Hotstar, NETFLIX, 3Plus, MONOMAX และสุดยอดคอนเทนต์กีฬาระดับโลกกับ ไม่ว่าจะเป็น เทนนิส ฟุตบอลทั้งยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ยูฟ่ายูโรปาลีกและ ลีกชั้นนำของยุโรปอีกมากมาย กับช่อง beIN Sports ที่วันนี้ได้มอบความพิเศษให้กับลูกค้า AIS รับชมฟรีทุกช่องทุกรายการแข่งขันได้ถึง 11 เมษายน 2566 

ในด้านการศึกษาหนึ่งในนโยบายที่นำศักยภาพดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม คือการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น สร้างคุณค่าและการเข้าถึงดิจิทัลให้ทุกคนในสังคม โดยเฉพาะในแกนของการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา ที่วันนี้ AIS Academy ได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน สถานทูตแคนาดาประจำประเทศไทย และ สมาคมวิทยาลัยและสถาบันประเทศแคนาดา หรือ Colleges and Institutes Canada (CICan) ในการนำหลักสูตรการเรียนรู้จากสถาบันชั้นนำของประเทศแคนาดาเสมือนการนำโลกไร้พรมแดนมาให้คนไทยและลูกค้าได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง

รวมถึงวันนี้เรายังนำศักยภาพโครงข่ายดิจิทัลมาพัฒนาเป็นเครื่องมือเพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและสร้างทักษะดิจิทัลให้คนไทยรู้เท่าทัน พร้อมอยู่กับโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ ผ่านโครงการ AIS “อุ่นใจ CYBER”

“ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องมากที่สุดในอุตสาหกรรม ทำให้ เอไอเอส พร้อมก้าวข้ามทุกขีดจำกัดผลักดันให้เกิด เศรษฐกิจแบบร่วมกัน ECOSYSTEM ECONOMY เพื่อส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัล ทั้งโครงข่ายสื่อสารอัจฉริยะ และเน็ตบ้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์มากที่สุด รวมถึงงานบริการที่ดีที่สุด ภายใต้การทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทุกภาคส่วน สอดประสานการทำงานโดยใช้จุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาสร้างการเติบโตร่วมกันให้กับลูกค้า คนไทย และประเทศชาติ”

นายสมชัย กล่าวว่า สำหรับประเด็นการเข้าซื้อหุ้นใน บริษัท ทริปเปีลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB และ หน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF อยู่ในขั้นตอนรออนุญาตกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  คิดว่าไม่มีปัญหา หากแล้วจะทำให้ เอไอเอส ขึ้นเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ในตลาด

ขณะที่ นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน เอไอเอส ได้ลงหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 29 มี.ค. 2566 ว่า การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาอนุมัติจาก กสทช.ตามที่กำหนดไว้ในประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ซึ่งบริษัทคาดว่าธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อหน่วยลงทุนจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 2 ของปี 2566

นอกจากนี้ ตามที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ("JAS" และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน JASIF ได้ชี้แจงข่าวที่ปรากฏในสื่อเรื่องการจ่ายค่าเช่าให้กองทุนไม่ครบถ้วนและหรือล่าช้านั้น บริษัทขอเรียนให้ทราบว่าบริษัทเล็งเห็นถึงสภาวะการณ์การแข่งขันในตลาดอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่รุนแรงที่ส่งผลด้านลบต่อผู้ให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นสาเหตุหลักที่บริษัทได้เสนอขอปรับโครงสร้างค่าเช่าต่อกองทุน JASIF เมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา 

โดยบริษัทมีนโยบายที่จะพัฒนาให้ 3BB ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ด้วยตนเองโดยไม่พึ่งพากระแสเงินสดจากบริษัท ภายหลังจากที่ธุรกรรมการเช้าซื้อกิจการในครั้งนี้ได้รับการอนุมัติจาก กสทช. บริษัทจะพิจารณาทางเลือกต่างๆในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจของ 3 ทั้งในเชิงการเงินและโครงสร้างหนี้ รวมถึงการเสนอปรับโครงสร้างสัญญาการจ่ายค่าเช่าให้กองทุน JASIF ให้เหมาะสม เพื่อให้3BB สามารถแข่งขันในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านต่อไปได้ด้วยตัวเองในระยะยาว โดยบริษัทไม่มีนโยบายที่จะอัดฉีดสภาพคล่องหรือเพิ่มทุนใน 3BB 

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเห็นว่าการเข้าซื้อ 3BB มีความเหมาะสมตามกลยุทธ์เพื่อขยายการเติบโตในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านให้แก่บริษัท ดังนั้น การพิจารณาปรับโครงสร้างธุรกิจของ 3BB ให้เหมาะสมต่อการแข่งขันจะสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในระยะยาว