logo-pwa

เพิ่ม Post Today

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
posttoday

“เทพพันธ์ อัศวะธนกุล” พัฒนานวัตกรรมประวินาศภัย ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย

25 กุมภาพันธ์ 2566

"เทพพันธ์ อัศวะธนกุล” สายเลือดใหม่ “ประกันภัยไทยวิวัฒน์” กับการปฏิวัติประกันวินาศภัยพัฒนานวัตกรรมและกลยุทธ์สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกในโลกกับ InsurTech ปฏิวัติวงการประกันภัยรถยนต์ พร้อมเดินเกมรุกเทคโนโลยี wearables ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจที่ขับเคลื่อนไปพร้อมกับเทคโนโลยี ขณะที่การแข่งขันยังคงเต็มไปด้วยความร้อนแรงและท้าทายความสามารถ งานนี้ สายเลือดใหม่จึงไม่ได้เข้ามานั่งสบายบริหารแบบชี้นิ้วสั่ง หากแต่ทุกขั้นตอน ทุกกระบวนการเปลี่ยนแปลง เขาต้องมีส่วนร่วมในการลงมือทำ เพื่อปูฐานความแข็งแกร่งให้ “ไทยวิวัฒน์ประกันภัย” อยู่รอดได้ท่ามกลางการดิสรัปชั่นธุรกิจ

 

แม้หัวหอกหลักของ “ไทยวิวัฒน์ประกันภัย” หรือ TVI ยังคงเป็น “จีรพันธ์ อัศวะธนกุล” ผู้เป็นพ่อก็ตาม หากแต่การเปิดตัวในช่วงหลังนี้จะเห็นว่า “จีรพันธ์” ผลักบทบาทให้ “เทพพันธ์ อัศวะธนกุล” ได้ยืนอยู่แถวหน้ามากขึ้น เรียกว่าเป็นสัญญาณที่พร้อมให้คลื่นลูกใหม่ได้สั่งสมประสบการณ์ในธุรกิจเต็มที่ และการมาของ เทพพันธ์ ก็สร้างการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยกับ “ไทยวิวัฒน์ประกันภัย” ด้วยความที่เป็นคนรุ่นใหม่จึงจับต้อง

 

รวมถึงเข้าใจในเทคโนโลยีได้เร็วกว่าวัยเก๋า จนนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมประกันภัยแบบใหม่ ด้วยการเปิดฉากนำทีมนวัตกรรมและกลยุทธ์สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกในโลกกับ InsurTech ปฏิวัติวงการประกันภัยรถยนต์ ด้วยการใช้ IoT ตอบดีมานด์ยุคดิจิทัล พร้อมเดินเกมรุกเทคโนโลยี wearables ฉีกกรอบประกันสุขภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย

 

ซึ่งภาพลักษณ์ขององค์กรประกันภัยเก่าแก่กำลังจะเปลี่ยนไปจากฝีมือและความเพียรพยายามของลูกไม้ใกล้ต้น ที่เล็งเห็นความสำคัญในการสานต่อความยั่งยืนทางธุรกิจบนพื้นฐานของการพัฒนานวัตกรรม โดยไม่จำกัดกรอบเฉพาะการประกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไทยได้อย่างครอบคลุมมากที่สุด และสอดคล้องกับเทรนด์เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก

 

“เทพพันธ์ อัศวะธนกุล” รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังถึงการเข้ามาทำงานในองค์กร และการให้อิสระในการตัดสินใจของจีรพันธ์ผู้เป็นบิดา ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ในปัจจุบัน ว่า “ก่อนร่วมงานที่ BCG มีเวลาว่าง 3 เดือน เพื่อนที่จบ MBA ด้วยกันอยากมาเที่ยวเมืองไทย เราจึงชวนให้เขามา internship ที่บริษัทกับเรา

 

นั่นเป็นจุดแรกที่เริ่มเข้ามาทำงานที่ไทยวิวัฒน์และ internship ซึ่งคุณพ่อให้อิสระทำอะไรก็ได้ ช่วงนั้นเราได้ทำวิจัยตลาดประกันภัยว่าพร้อมเข้าสู่อี-คอมเมิร์ซหรือยัง หลังจากทำแล้วรู้สึกว่า add value จริง ทำแล้วเห็นผลที่เกิดขึ้น และช่วงที่ทำ BCG ก็มีโปรเจ็กต์เกี่ยวกับประกันเยอะมากหรือหลายบริษัทเริ่มมีอะไรใหม่ๆ เราจึงอยากกลับมาช่วยคุณพ่อ บวกกับเวลานั้นคุณพ่อมีไอเดียเรื่องประกันรถเปิดปิด เราจึงอาสามาช่วย execute ให้”

 

ภายใต้โจทย์การพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย “เทพพันธ์” พร้อมนำความรู้และประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาเริ่มต้นก่อตั้งแผนกนวัตกรรมและกลยุทธ์เพื่อรับภารกิจแรกในการแจ้งเกิดประกันรถเติมเงินเปิดปิด ซึ่งตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้รถไม่มากให้สามารถจ่ายเบี้ยได้ตามนาทีที่ขับจริง และช่วยให้ประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ได้ราว 40%

 

“หัวใจสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมที่สามารถสร้างความแตกต่างและความได้เปรียบในการแข่งขันการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับ Thaivivat Innovation Model ประกอบด้วย personalized ตอบโจทย์ผู้บริโภครายบุคคล และ reliable ตอบโจทย์ได้ทุกสถานการณ์รวมทั้ง end-to-end ตอบโจทย์ทุกกระบวนการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อประกัน การแจ้งเคลม หรือการต่ออายุเป็นต้น”

 

จากความสำเร็จในการแจ้งเกิดประกันภัยรถเปิดปิดที่มีจำนวนผู้ใช้บริการ TVI Connect และประกันรถเปิดปิดรายวัน (daily active users) เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถเร่งเครื่องแปลงโฉมลดอายุและสร้างภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัย รวมถึงความโดดเด่นทางด้านนวัตกรรม ซึ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์การประกันภัยของบริษัทจึงมุ่งเน้นที่การพัฒนานวัตกรรม InsurTech ภายใต้แนวคิดหลักประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองและดูแลในยามเจ็บป่วย รวมถึงการลดความเสี่ยงด้านสุขภาพให้ผู้ใช้บริการมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทั่วประเทศ

 

เทพพันธ์ เล่าต่อว่า ปัจจุบันบริษัทตั้งทีมด้าน นวัตกรรมและกลยุทธ์ เพื่อทำการศึกษาและรวบข้อมูล จากผู้บริโภค เพื่อดูความต้องการที่แม้จริงและนำไปสู่การพัฒนาออกแบบสินค้าเหมาะสมตรงใจกลุ่มผู้บริโภค ในส่วนของระบบหลังบ้านก็สำคัญ ที่ผ่านมาได้นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนทั้งในส่วนของกระบวนการทำงาน การให้บริการเพื่อให้เกิดความสะดวก และรวดเร็ว โดยเฉพาในกระบวนการทำงาน ซึ่งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อีก เพื่อควบคุมต้นทุนไม่ให้สูงเกินจำเป็น

 

“การควบคุมต้นทุนแต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เราจะเอาคนออก คุณพ่อบอกเสมอว่าเราต้องให้ความสำคัญกับบุคลากร ทุกวันนี้ที่เราอยู่ได้เพราะพนักงาน ทำให้ เราไม่มีแผนนำคนออก แต่การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับทุกคน”

 

อย่างไรก็ตามจากอดีตที่ยังไม่ได้สนใจเข้ามาในสายธุรกิจประกันภัย แต่ปัจจุบันนี้ เทพพันธ์ บอกว่า เขาสนุกและมีความสุขกับงานที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งผลงานที่เกิดขึ้นส่วนสำคัญก็มาจากทีมงานของบริษัทที่เข้ามาช่วยกันคิดช่วยกันทำ และที่สำคัญการเปิดกว้างจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “จีรพันธ์” ให้ลุยโปรเจกต์เต็มที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำงานให้สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของ เทพพันธ์ ที่ตัดสินใจมาสานต่อธุรกิจครอบครัว เพราะมองเห็นว่าโลกธุรกิจก้าวไปไกลมากโดยเฉพาะธุรกิจประกันภัย ดังนั้นการไม่ปรับตัว ไม่พัฒนาจะทำให้อยู่ในธุรกิจยากมากขึ้น และไทยวิวัฒน์ฯเองก็ถึงจุดที่ต้องก้าวต่อไปข้างหน้าแล้ว

 

ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ เทพพันธ์ เดินเข้าสู่ธุรกิจประกันวินาศภัย และทุกวันนี้ทำให้เขารู้สึกหลง และรักกับงานที่ทำไม่น้อยและเชื่อมั่นว่าจะทำให้”ประกันภัยไทยวิวัฒน์”เติบโตได้อย่างแน่นอน