กรุงศรี ออโต้ เผย 3 ปัจจัยส่งพอร์ตสินเชื่อใหม่ทะลุเป้า
มูลค่า 183,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน ขณะที่สัดส่วนยอดสินเชื่อใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัลสูงถึง 7% ของยอดสินเชื่อใหม่ทั้งหมด
นายคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ท่ามกลางความท้าทายจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อการเติบโตของภาคธุรกิจในปี 2565 อย่างไรก็ตาม ตลาดยานยนต์กลับมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับภาพรวมเศรษฐกิจ
โดยในปีที่ผ่านมา กรุงศรี ออโต้ ยังคงรักษาระดับการเติบโตของธุรกิจได้ครอบคลุมทุกมิติ ด้วยยอดสินเชื่อใหม่ 183,000 ล้านบาท เติบโต 17% จากปีที่ผ่านมา และมีสัดส่วนยอดสินเชื่อใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัลสูงถึง 7% ของยอดสินเชื่อใหม่ทั้งหมด พร้อมรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดสินเชื่อยานยนต์ในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่งด้วยพอร์ตสินเชื่อคงค้างรวมที่ 425,700 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในปีที่ผ่านมา เป็นผลจากปัจจัยขับเคลื่อนความสำเร็จ 3 ด้าน ได้แก่ 1. นวัตกรรมสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลเต็มรูปแบบที่สมบูรณ์แบบที่สุดรายแรกของประเทศไทย (Most Complete Digital Auto Lending) ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ทั้งสินเชื่อยานยนต์และสินเชื่อเพื่อคนมีรถ ตอบโจทย์ผู้ใช้รถทุกกลุ่ม บนแอปพลิเคชัน GO by Krungsri Auto
2. ผสานการทำงานร่วมกับพันธมิตรดีลเลอร์และแบรนด์ผู้ผลิตอย่างใกล้ชิด ชูโซลูชันที่ตอบโจทย์การบริหารจัดการธุรกิจ (Seamless Collaboration with Dealers and OEMs) เพื่อช่วยให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมมอบข้อเสนอที่เฉพาะเจาะจงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย
3. ต่อยอดระบบนิเวศยานยนต์ที่ครอบคลุมและยั่งยืน (Comprehensive Auto Ecosystem) ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการหลักของกรุงศรี ออโต้ ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ตลอดจนขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและนอกธุรกิจยานยนต์ เพื่อสร้างประสบการณ์ของผู้ใช้รถได้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ การพัฒนาฟีเจอร์สถานีชาร์จรถอีวี (EV Charging Station) และการสร้างสรรค์คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า บนแอปพลิเคชัน GO by Krungsri Auto เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่รถอีวีในประเทศไทย
สำหรับปี 2566 บริษัทมองว่าตลาดยานยนต์ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามแรงหนุนจากเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ อันเนื่องมาจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก ตลอดจนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศ โดยคาดว่ายอดขายรถยนต์ใหม่จะอยู่ที่ 866,000 คัน หรือขยายตัวประมาณ 2% จากปีก่อนหน้า


