posttoday

สรรพากร เปิดหลักเกณฑ์ “ช้อปดีมีคืน” ชี้เพิ่ม จีดีพี 0.12%

22 ธันวาคม 2565

กรมสรรพากร เปิดหลักเกณฑ์มาตรการภาษี “ช้อปดีมีคืน” ปี 2566 ลดหย่อนสูงสุด 40,000 บาท คาดจะมีผู้ใช้สิทธิ 1.4 ล้านคน กระตุ้นเศรษฐกิจ 42,000 ล้านบาท เพิ่มจีดีพี 0.12%

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติ เห็นชอบมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ปี 2566 เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นประมาณ 42,000 ล้านบาท และจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้น 0.12% ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี สำหรับการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจ โดยสามารถลดหย่อนภาษี จากค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 สำหรับผู้มีเงินได้ที่เป็นบุคคลธรรมดา  ลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท

 

สรรพากร เปิดหลักเกณฑ์ “ช้อปดีมีคืน” ชี้เพิ่ม จีดีพี 0.12%

 

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากรตระหนักถึงความสำคัญการเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ ทั้งการส่งเสริมการอ่าน จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เพื่อกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษี พร้อมทั้งออกร่างประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ         และเงื่อนไขการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ปี 2566” โดยมีหลักเกณฑ์      และเงื่อนไข ดังนี้

 

สรรพากร เปิดหลักเกณฑ์ “ช้อปดีมีคืน” ชี้เพิ่ม จีดีพี 0.12%

 

1. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 30,000 บาท จะต้องมีใบกำกับภาษี        แบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากรหรือใบรับซึ่งมีรายการอย่างน้อยตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร พร้อมระบุชื่อและนามสกุลของผู้มีเงินได้ในรูปแบบกระดาษหรือ e-Tax Invoice หรือ       e-Receipt แล้วแต่กรณี    

 

2. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนอีกไม่เกิน 10,000 บาท จะต้องมี e-Tax Invoice หรือ e-Receipt แล้วแต่กรณีเท่านั้น 

 

ทั้งนี้ e-Tax Invoice ตามข้อ 1 และข้อ 2 ในที่นี้หมายความรวมถึง e-Tax Invoice by Email ด้วย 

 

ในการใช้สิทธิลดหย่อนตามข้อ 1 และข้อ 2 ผู้มีเงินได้ต้องจ่ายค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร แต่ไม่รวมถึงค่าสินค้าหรือค่าบริการ 10 ประการ เช่น ค่าซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ค่าซื้อยาสูบ ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์และเรือ ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการมือถือ ค่าบริการอินเทอร์เน็ต และค่าเบี้ยประกันวินาศภัย

 

สรรพากร เปิดหลักเกณฑ์ “ช้อปดีมีคืน” ชี้เพิ่ม จีดีพี 0.12%


3. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการดังต่อไปนี้จะจ่ายให้แก่ผู้มิใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้ แต่ต้องได้รับใบรับ ซึ่งมีรายการอย่างน้อยตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร พร้อมระบุชื่อและนามสกุลของผู้มีเงินได้


    (1)  ค่าซื้อหนังสือ 

    (2)  ค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต

   (3) ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียน    กับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว

 

ทั้งนี้ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ปี2566 นี้ คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิ 1.4 ล้านคน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการ รวมถึงการส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นที่เป็นเศรษฐกิจระดับฐานราก ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการอ่าน อันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้”