ปิดฉากงาน THAIFEX ดีลซื้อขายเงินสะพัดกว่า 3.9 หมื่นล้าน
“สนั่น” ชี้ THAIFEX ปีนี้ สำเร็จเกินคาด 4 วันแรก ยอดไทย-เทศ เจรจาธุรกิจ ทะลุ 5 หมื่นคน ซื้อขายสินค้าทะลุ 3.9 หมื่นล้าน
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ หอการค้าไทยได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และโคโลญเมสเซ่ เยอรมนี จัดงาน THAIFEX ANUGA ASIA 2022 “The Hybrid Edition” เมื่อระหว่างวันที่ 24-28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยงานนี้มีผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศได้ให้ความสนใจเข้ามาร่วมงานจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด โดยเฉพาะการเจรจาธุรกิจกับคู่ค้า ใน 4 วันแรกของการจัดงาน และในวันสุดท้าย เป็นการเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมงาน และจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เนื่องจากปัจจุบันราคาสินค้ามีการปรับตัวสูงขึ้น
“การจัดงาน THAIFEX ถือเป็นความตั้งใจของหอการค้าไทย และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่ต้องการยกระดับงานแสดงสินค้าด้านอาหารฯ ให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับและเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารโลก เนื่องจากประเทศไทยมีความโดดเด่นในด้านนี้ ซึ่งงานในปีนี้มีความคักคักอย่างมาก ทั้งผู้ประกอบการและประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก โดยผู้จัดงานให้ความสำคัญต่อมาตรการความปลอดภัยโควิด-19 มีการปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐกำหนดอย่างเคร่งครัด และคาดว่าหลังจากภาครัฐประกาศผ่อนคลายมาตรการด้านโควิดเพิ่มเติมในเดือนมิถุนายน จะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจค่อยๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติต่อไป” นายสนั่น กล่าว
ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ กล่าวว่า การจัดงาน 4 วันแรกที่เปิดให้มีการเจรจาธุรกิจ มีผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ เข้าร่วมงาน จำนวน 1,603 บริษัท ประกอบด้วยผู้ประกอบการไทย จำนวน 722 บริษัท และผู้ประกอบการต่างชาติ 881 บริษัท โดยมีผู้ซื้อที่เข้าร่วมเจรจาธุรกิจ จำนวน 51,535 คน ประกอบด้วย ผู้ซื้อฯ ในประเทศ จำนวน 44,637 คน และ ต่างชาติ จำนวน 6,898 คน จาก 111 ประเทศ โดย 5 อันดับประเทศที่เข้าร่วมฯ มากที่สุด ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ เกาหลี และอินเดีย ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม การจัดงานในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะมีการเพิ่มมูลค้าทางการซื้อขายสินค้าเท่านั้น แต่จะมีการเพิ่มมูลค่าทางการท่องเที่ยวอีกด้วย เนื่องจากชาวต่างชาติที่เข้ามาเจรจาการค้าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ได้แจ้งว่าหลังจากจบงานนี้แล้ว จะเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดต่าง ๆ ของไทย อาทิ พัทยา ภูเก็ต ส่งผลให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของหอการค้าไทย ที่จะส่งเสริมด้านการค้าควบคู่ไปกับการท่องเที่ยว (Trade & Travel)
ขณะที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ระบุว่า ช่วง 3 วันแรกของการจัดงาน ได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจทั้งการจัดงานทาง On-Site และ Online ทำให้ผู้ประกอบการทั้ง SMEs รายใหญ่ ผู้ประกอบการรายใหม่ สามารถเปิดตลาดสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น โดยในส่วนของงาน On-Site มีผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าเข้าชมงาน 47,256 ราย จาก 48 ประเทศ รวมมูลค่าการสั่งซื้อ 39,206 ล้านบาท แบ่งเป็นการสั่งซื้อภายในงาน 372 ล้านบาท และคาดการณ์ยอดสั่งซื้อใน 1 ปี 38,834 ล้านบาท สินค้าที่มียอดสั่งซื้อสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป สินค้าเพื่อธุรกิจบริการด้านอาหาร อาหารทะเล ขนมและขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม
ส่วนการจัดงาน Online ซึ่งจัดผ่านแพลตฟอร์ม www.thaifex-vts.com มีผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าเข้าชมงาน 33,502 ราย จาก 97 ประเทศ ประเทศที่เข้าชมงานมากที่สุด 5 อันดับแรกรองจากไทย ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และสิงคโปร์


