ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงาน Social Business Matching Day#1 เดินหน้าเชื่อมภาคสังคมและภาคธุรกิจ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จับมือพันธมิตร สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย จัดงาน Social Business Matching Day: The Impact Opportunity#1 เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อขยายร่วมมือทางธุรกิจ (Business Co-Creation ) ระหว่างภาคธุรกิจและธุรกิจเพื่อสังคม ด้วยการสร้างพื้นที่แห่งโอกาสให้ธุรกิจเพื่อสังคมนำเสนอแผนธุรกิจในการแก้ไขปัญหาสังคมแก่ภาคธุรกิจ โดยมุ่งหวังให้เกิดการจับคู่และเชื่อมโยงทางธุรกิจ อันนำไปสู่แนวทางร่วมกันในการแก้ไขและพัฒนาสังคมอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้คัดเลือกผู้ประกอบธุรกิจเพื่อสังคมใน SET Social Impact Platform ที่มีธุรกิจอยู่ในขั้น Growth Stage สามารถสร้างผลลัพธ์ทางสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม ใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านพัฒนาเกษตรกรรม ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านพัฒนานวัตกรรมบริการแก่ผู้สูงวัย ทั้งหมด 14 ราย มาร่วมจัดกิจกรรมในงาน Social Business Matching Day: The Impact Opportunity#1 ซึ่งมีกลุ่มผู้เข้าร่วมงานเป็นบริษัทจดทะเบียน หน่วยงานภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่สนับสนุนธุรกิจเพื่อสังคม ที่เห็นความสำคัญของการดำเนินงานโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล
กิจกรรมภายในงานฯ มีการออกบูทและจัดกิจกรรมของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อสังคมต่างๆ เพื่อนำเสนอแผนธุรกิจ นวัตกรรมเพื่อสังคม สินค้า และบริการ ให้แก่ภาคธุรกิจและผู้เข้าชมที่สนใจ อาทิ กิจกรรมของ บริษัท ยังแฮปปี้ จำกัด ที่เน้นสร้างสังคมเพื่อผู้สูงอายุให้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพทั้งกายและใจ ผ่านทั้งแอปพลิเคชัน Young Happy แบบออนไลน์ และการจัดงานแบบออฟไลน์ เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยียุคใหม่ การใช้ smart phone การสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย การขายของออนไลน์ การประชุมผ่าน zoom การเงิน สุขภาพ และไลฟ์สไตล์ รวมทั้งโครงการ Active Aging สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงผู้สูงอายุ โดยตั้งเป้าจะให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนวัตกรรมบริการแก่ผู้สูงวัยเพื่อความสะดวกในการเดินทาง เช่น “Go MAMMA” ของ บริษัท บางกอกแนนนี่เซ็นเตอร์ จำกัด ที่ให้บริการรถรับ-ส่งผู้สูงอายุ ผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้ด้วยตัวเอง ด้วยความมั่นใจและอุ่นใจในความปลอดภัย เพราะพนักงานขับรถทุกคนได้ผ่านการอบรมการดูแลผู้สูงอายุตามมาตรฐาน
บริษัท พาวเวอร์ อัพ (ประเทศไทย) จำกัด ก็เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบธุรกิจเพื่อสังคมด้านพัฒนานวัตกรรมบริการแก่ผู้สูงวัย โดยได้จัดแสดง “รถตุ๊กตุ๊กพัทธ์” รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าคันแรกของโลกที่สามารถเข็นรถวีลแชร์ (Wheelchair) ขึ้นบนตัวรถได้ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มอิสรภาพในการเดินทางและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและคนพิการแล้ว ยังเป็นพาหนะพลังงานสะอาดและรักษ์โลก
ในส่วนด้านพัฒนาเกษตรกรรม บริษัท ธัญญโอสถ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ได้ออกบูทจัดแสดงโครงการพัฒนาข้าวหอมมะลิของไทยให้เป็น “ข้าวหอมยั่งยืน” อย่างเป็นระบบครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการปลูก การเก็บเกี่ยว การสีข้าว การบรรจุ และการพัฒนาสินค้าตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ได้ข้าวที่มีคุณภาพสำหรับผู้บริโภคชาวไทยและสามารถส่งออกไปต่างประเทศ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยให้มีรายได้ 300,000 บาทต่อปี และสร้างเครือข่ายเกษตรกรปลูก “ข้าวหอมยั่งยืน” ให้ได้ 4,000 ครอบครัวใน 22 จังหวัดภายในปี พ.ศ. 2573
ในขณะที่ บริษัท แดรี่โฮม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด นำเสนอโครงการฟาร์มผลิตนมออร์แกนิก เพื่อสุขภาพของผู้บริโภค คุณภาพชีวิตของเกษตรกร และสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น โดยเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนากระบวนการผลิตตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยการใช้พลังงานจากโซล่าเซลล์ กังหันลม โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ (Solar Thermal) และการกำจัดน้ำเสียแบบ Zero Waste เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงโคนมและการรีดนมวัวตามวิถีเกษตรอินทรีย์ให้กับเกษตรกรเครือข่าย อันนำไปสู่การยกระดับรายได้เกษตรกรให้สามารถพึ่งพาตัวเองได้
ด้านสิ่งแวดล้อม บริษัท แสงเจริญแกรนด์ จำกัด ธุรกิจเพื่อสังคมที่มุ่งแก้ปัญหาการสร้างมลภาวะของอุตสาหกรรมแฟชั่น ได้นำเสื้อผ้าที่ผลิตจากการ Recycle ภายใต้แบรนด์ CIRCULAR มาจัดแสดง ซึ่งเกิดจากการพัฒนาธุรกิจนำเศษด้าย เศษผ้าจากกระบวนการตัดเย็บ และเสื้อผ้าเก่า มาแปรสภาพให้เป็นเส้นใย และนำมาผลิตเป็นเสื้อผ้าใหม่ โดยไม่มีของเสียจากกระบวนการผลิต โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็น Recycle Hub แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคมได้ที่ www.setsocialimpact.com


