ไทยถอดบทเรียนวิกฤตโควิดพร้อมเปิดประเทศ ดึงต่างชาติลงทุน กระตุ้นท่องเที่ยววิถีใหม่
‘สุพัฒนพงษ์’ ชี้ 2 ปี โควิดฉุดศก.รัฐ-เอกชนต้องเรียนรู้ มั่นใจไทยพร้อมเปิดประเทศ ดึงลงทุน กระตุ้นท่องเที่ยวคุณภาพ ตอบรับการเปลี่ยนแปลงของประเทศ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยในงาน Bangkokpost Post Forum 2021 Resilient Thailand: Ways to Bounce Back 'ประเทศไทยจะกลับมาแกร่งอีกครั้ง' ว่า สถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นในช่วงเกือบ 2 ปี ทั่วโลก ไทยต้องเผชิญความท้าทายเป็นโจทย์ใหม่ที่ต้องร่วมกันแก้ไขทุกภาคส่วน และสามารถคลี่คลายลงได้ในระดับหนึ่ง เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก การประกาศล็อกดาวน์ เนื่องจากมีโควิดสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่แผนการจัดหาวัคซีน มีการติดขัดบ้างช่วงแรก
ปัจจุบันเริ่มมีสัญญานบวกมากขึ้น แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อบ้าง และผู้เสียชีวิตเริ่มลดลง แต่ก็ประมาทไม่ได้ ยังต้องมีมาตรการป้องกันด้วยตัวเอง ร่วมกับมาตรการสาธารณสุข โดยมั่นใจภายในสิ้นปีนี้ไทยจะมีวัคซีนรองรับ 80 ล้านโดส ขณะที่ปีหน้าตั้งเป้าหมายวัคซีน ไว้ที่ 150 ล้านโดส
อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ แต่ในปี 2564 แนวโน้มจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 หลังสถานการณ์ต่างๆเริ่มคลี่คลาย
สำหรับความพยายามให้ไทยมีความพร้อมในการเปิดประเทศรองรับเศรษฐกิจ นั้น ต้องยอมรับไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวจำนวนมาก เนื่องจากเคยสร้างรายได้มากกว่า 2 ล้านล้านบาทต่อปี ดังนั้นเราต้องถอดบทเรียนจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้เริ่มโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อก จากความร่วมมือของทุกฝ่าย สิ่งสำคัญต้องพยายามสร้างความสะดวกให้กับนักท่องเที่ย และเฝ้าระวังระบบสาธารณสุข เป้าหมายการเปิดประเทศ หากทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วงไตรมาส4 ปี 2564 และ ไตรมาสแรก 2565 จำนวน 1 ล้านคน ซึ่งต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายสูงมีคุณภาพจะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ
การขับเคลื่อนประเทศไทยในระยะต่อไป เมื่อพิจารณาจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (2565-2570) ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำความเห็น ได้มีการระบุในประเด็นลดภาวะโลกร้อน จากสภาพอากาศผันผวน มีผลต่อสถานการณ์พลังงาน โดยกำหนดให้มีพลังงานทดแทนจาก ชีวมวล ชีวภาพ โซลาร์เซลล์ พลังงานน้ำประเทศเพื่อนบ้าน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50 % ของการผลิตไฟฟ้า
นอกจากนี้มีการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ นิวเอสเคิร์ฟ ยานยนต์ไฟฟ้า สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งตลอด7 ปีของรัฐบาล วางโครงสร้างพื้นฐานไว้รองรับ ทั้งระบบขนส่งมวลชนที่เกิดขึ้นจำนวนมาก เป็นการสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการลงทุนใหม่ๆ สิ่งที่ทำมา 165 โครงการ หลายคนบอกว่า มีแต่การกู้เงิน แต่ก็เป็นการกู้เพื่อมาทำเรื่องเหล่านี้ มีแผนขยายความเจริญไปสู่ภูมิภาค การพัฒนาเส้นทางคมนาคม ตลอดจนการสร้างระบบนิเวศน์ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี ) โครงสร้างพื้นฐานดิจิตอล การพัฒนานวัตกรรมในอีอีซี
“ปีนี้ยอดขอส่งเสริมบีโอไอจะสูงใกล้เคียงหรือมากกว่าช่วงเกิดโควิดได้ จากขณะนี้มีตัวเลขอยู่ที่ 4 แสนล้านบาท เป็นสัญญาณที่ดีจากนักลงทุนต่างชาติ เป็นผลจากการสร้างระบบนิเวศน์ทีดีมาโดยตลอด มีการลงทุนกิจการใหม่ๆเพื่อก้าวไปสู่การพลิกโฉมประเทศไทย วันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกัน เป็นช่วงรอยต่อของโควิด เป็นความท้าทายของรัฐบาลที่ต้องไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ เชื่อว่าทุกคนต้องร่วมมือกัน จะสามารถปรับเปลี่ยนประเทศได้”