โควิดทุบโมเดิร์นเทรดเสียหาย 2.7 แสนล้าน
ดัชนีโมเดิร์นเทรดฯ ทรุดต่อต่ำสุดในรอบ 3 ปี โควิดฉุดกำลังซื้อ ล็อกดาวน์ 29 จังหวัดกระทบยอดขายวูบ 2.7 แสนล้านบาท เตือนซัพพลายขาด ส่งสินค้าไม่ทัน
รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Modern Trade ประจำไตรมาสที่ 2/2564 อยู่ที่ 45.3 ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 3 ไตรมาสหรือ ในรอบ 3 ปี มีผลจากการแพร่ระบาดโควิด-19 การล็อกดาวน์ 29 จังหวัด ทำให้สถานประกอบการต้องปิดกิจการชั่วคราว
ทั้งนี้ภาพรวมยอดขายสินค้าคงเหลือในไตรมาส 2 ปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีความกังวลในไตรมาส 3 สินค้าคงเหลือจะมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ขณะที่ยอดจำหน่ายสินค้าออนไลน์ยังเติบโตต่อเนื่อง
“ดัชนีโมเดิร์นเทรดต่ำสุดในรอบ 3 ปี หรือ 12 ไตรมาส เป็นผลจากการล็อกดาวน์ 29 จังหวัด ซึ่งภาพรวมกระทบเศรษฐกิจเสียหาย 4-5 แสนล้านบาทต่อเดือน และโมเดิร์นเทรดคิดเป็น70% ทั้งนี้การเติบโตโมเดิร์นเทรดจะโตตามสังคมเมือง เมื่อมีโควิด จึงทำให้เปิดผลกระทบต่อเนื่อง”
ด้านนายสุรงค์ บูลกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการกลุ่มค้าปลีกและบริการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ดัชนีโมเดิร์นเทรดยังทรุดลง ผู้ประกอบการยังมีความรู้สึกว่าการแก้ปัญหายังไม่ถูกจุด และในช่วง 16 เดือนตั้งแต่มีโควิดระบาดส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีกไปแล้ว 2.7 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ดีสิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้คือกำลังประสบปัญหาห่วงโซ่อาหาร เนื่องจากมีปัญหาด้านการขนส่ง ทำให้สินค้าหน้าร้าน เริ่มขาดแคลน ผลจากการล็อกดาวน์ถูกจำกัดเวลาในการขนส่งช่วงกลางคืนดังนั้นอยากให้ภาครัฐผ่อนผันในประเด็นนี้ด้วยหากผู้ประกอบการมีใบสั่งของหรือ ใบสั่งสินค้ายืนยันชัดเจนควรให้มีการขนส่งได้มากขึ้นและจะทำให้มีสินค้ามาขายได้ตามปกติ
นอกจากนี้อยากเสนอให้ภาครัฐดำเนินการมาตรการช่วยเหลือธุรกิจโมเดิร์นเทรด คือ 1.พิจารณาสนับสนุนมาตรการคนละครึ่ง ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย 2.การปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลถึงปี 2565 3.สนับสนุนค่าสาธารณูปโภคาให้กับธุรกิจค้าปลีก เพื่อรักษาสภาพคล่องและ รักษาการจ้างงานได้
น.ส.ชลิดา จันทร์สิริพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด และกรรมการและเลขานุการกลุ่มค้าปลีกและบริการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งแต่มีการล็อกดาวน์ใน 29 จังหวัด ส่งผลกระทบต่อยอดขายของโมเดิร์นเทรดต่อเนื่อง ขณะที่การจัดการซัพพลายเชนเริ่มมีปัญหาตั้งแต่คลัสเตอร์โรงงาน การถูกจำกัดการขนส่ง ซึ่งบางโรงงานมีกำลังการผลิตเหลือ 30% ดังนั้นสินค้าในอนาคตอาจมีปัญหาได้ และกระทบไปถึงแรงงาน 10 ล้านราย


